กล้วยน้ำว้า กับสุขภาพ และสุขภาพช่องปาก แก้ปากเหม็น

ตอบกระทู้


คำถามนี้ เพื่อป้องกันการส่งแบบอัตโนมัติจากสแปมบอท
รูปแสดงอารมณ์
:D :) ;) :( :o :shock: :? 8-) :lol: :x :P :oops: :cry: :evil: :twisted: :roll: :!: :?: :idea: :arrow: :| :mrgreen: :geek: :ugeek:

BBCode เปิด
[img] เปิด
[flash] ปิด
[url] เปิด
[Smile icon] เปิด

กระทู้แนะนำ
   

มุมมองที่ขยายได้ กระทู้แนะนำ: กล้วยน้ำว้า กับสุขภาพ และสุขภาพช่องปาก แก้ปากเหม็น

กล้วยน้ำว้า กับสุขภาพ และสุขภาพช่องปาก แก้ปากเหม็น

โดย admin » เสาร์ 15 พ.ย. 2014 1:56 am

“กล้วยน้ำว้า” กับสุขภาพ และสุขภาพช่องปาก แก้ปากเหม็น

คัดลอกจาก คำบรรยาย ดร.นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย ในการประชุมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง การขยายเครือข่ายฟันเทียมพระราชทานและการส่งเสริมสุขภาพช่องปากผู้สูงอายุ โดยหน่วยบริการปฐมภูมิ ณ โรงแรมริชมอนด์ จังหวัดนนทบุรี (20 มกราคม 2557)


กล้วยน้ำว้ามีประโยชน์ เพราะมีแคลเซียมมาก ทำให้ในช่องปากมีสภาพเป็นด่าง ไม่ทำให้เกิดสภาวะฟันผุ การกินกล้วยน้ำว้า ควรกินตอนห่ามๆ ถ้าสุกมากจะมีความหวานมากเกินไป กล้ายน้ำว้ามีวิตามินซี แคลเซียมสูงมาก กินวันละ 4 ลูก จะได้แคลเซียมพอดี รวมทั้งโปแตสเซียม มีโปรตีนครบเหมือนนมแม่ มีฮิสโตแฟนซึ่งเป็นสารตั้งต้นของการหลั่งเอ็นโดรฟิน เมื่อกินกล้วยแล้วจึงทำให้มีความสุข หลับสบาย กินแล้วฟันไม่ผุ เพราะมีสารเพคติน ซึ่งมีฤทธิ์ฝาดสมาน จะเคลือบตั้งแต่ในปาก ลำไส้เล็ก ลำไส้ใหญ่ ถือว่าเป็นยามหัศจรรย์ ใครท้องเสียให้กินดิบ ห่ามก็ได้ จะหยุดท้องเสียที่ไม่รุนแรงได้

วิธีการเลือกซื้อกล้วย ซื้อขณะที่มีสีเขียว เลือกหวีที่อยู่กลางเครือ เพราะจะมีสารอาหารครบถ้วน โดยจะมีประมาณ 15-16 ลูก เมื่อได้กล้วยแล้ว ดึงโดยไม่ต้องใช้มีด จับที่ก้านแล้วดึงออกทีละลูก ฉีกออกมา วางไว้ กล้วยจะแห้งที่ก้าน อยู่อย่างนี้ได้ 3-5 วัน ไม่สุกไม่เน่า

วิธีการกินกล้วย ปอกเปลือกจากบนลงล่าง กินจากข้างบนลงไป คำแรกๆ จะรู้สึกฝาด เพราะมียางอยู่ในปาก เป็นยาวิเศษ คือ เพคติน ยางกล้วยจะช่วยรักษาแผลในปาก โรคกระเพาะ โรคลำไส้ โรคทางเดินอาหาร กินกล้วยแล้วมีความสุขมากเพราะได้น้ำตาลฟรุคโทส เป็นน้ำตาลที่ไม่ใช้อินซูลิน กินไม่ถึง 5 นาที จะรู้สึกมีความสุข เพราะน้ำตาลจะขึ้นไปที่สมอง และใช้ได้ทันที เหมาะสำหรับคนไข้เบาหวาน และกินกล้วยน้ำว้าไม่ทำให้ปากเหม็น

ในผู้สูงอายุ ขอให้กินกล้วยน้ำว้ามากๆ เพราะย่อยง่าย มีเยื่อ มีกาก มีวิตามินซี ไม่ทำให้ฟันผุ แต่ต้องแปรงฟันให้สะอาด การแปรงฟันยังคงเป็นพื้นฐานของการทำความสะอาดช่องปาก โดย แปรงฟันให้ได้วันละ 2 ครั้งเป็นอย่างน้อย แปรงฟันครั้งละไม่น้อยกว่า 2 นาที และที่สำคัญหลังแปรงฟัน 2 ชั่วโมงถึงจะกินอาหารต่อได้ ในช่วงหลังกินอาหารเช้าให้แปรงฟันอีกสักครั้ง ตอนเที่ยงให้เด็กได้แปรงฟันที่โรงเรียน ศูนย์เด็กเล็ก สำหรับผู้สูงอายุ ต้องทำความสะอาดซอกฟันทุกวัน โดยใช้แปรงสีฟัน ไหมขัดฟัน และแปรงซอกฟัน โดยดูตามสภาพฟันของแต่ละคนไป

ข้างบน