โดย admin » อังคาร 03 มี.ค. 2015 12:55 am
ความห่วงใยของศ.ระพี สาคริก
ความห่วงใยในอุดมการณ์ของม.เกษตร
-----------
อุดมการณ์ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เปลี่ยนไปแล้วจริงๆ
เปลี่ยนไปถึงขนาดที่ปูชนียบุคคลของสังคมและหนึ่งในผู้วางรากฐานให้มหาวิทยาลัยแห่งนี้ คือศาสตราจารย์ระพี สาคริก ถึงกับบอกว่า "ถ้าเป็นอย่างนี้ ลบชื่อผมออกจากชื่ออาคาร ชื่อสวนกล้วยไม้ และชื่อถนนของมหาวิทยาลัยฯดีกว่า"
ศาตราจาย์ระพีรู้สึกห่วงใยมหาวิทยาลัยเกษตรฯในยุคหลังมาก และพูดถึงความหนักใจให้คนใกล้ชิดและลูกศิษย์ลูกหา ฟังบ่อยๆ
"อุดมการณ์เดิมที่ 3 บูรพาจารย์เกษตรวางไว้ถูกละเลยไปมาก ตอนนี้มองไปทางไหนก็มีแต่การก่อสร้างและธุรกิจต่างๆมากมายอยู่ในมหาวิทยาลัยเกษตร ขณะที่การพัฒนาสังคมกลับลดหายไป เพราะเท้าไม่เหยียบพื้นดินกัน" ความห่วงใหญ่ของอาจารย์ระพีสั่งสมขึ้นทุกวัน โดยเฉพาะระยะหลังกลับมีเรื่องความไม่โปร่งใสต่างๆให้ยินถี่ขึ้น
"หัวใจสำคัญของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ก็คือเกษตร คนที่นี่ต้องรักและหวงแผ่นดินมากๆ เพราะทำงานอยู่กับพื้นดิน แต่กลับปล่อยให้มีการแทรกแซงมากมาย"
ศาสตราจารย์ระพีดำรงตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรฯระหว่างปี 2518-2523 และรับราชการอยู่ที่นี่ 22 ปี หลังจากลาออกก่อนเกษียณราชการ ท่านก็ยังให้คำปรึกษาและห่วงใยมหาวิทยาลัยแห่งนี้ตลอดมา
"แม้ตัวผมจะไม่อยู่ แต่วิญญาณผมอยู่ที่นี่"
ที่มา: FB Paskorn Jumlongrach
[b]ความห่วงใยของศ.ระพี สาคริก[/b]
ความห่วงใยในอุดมการณ์ของม.เกษตร
-----------
อุดมการณ์ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เปลี่ยนไปแล้วจริงๆ
เปลี่ยนไปถึงขนาดที่ปูชนียบุคคลของสังคมและหนึ่งในผู้วางรากฐานให้มหาวิทยาลัยแห่งนี้ คือศาสตราจารย์ระพี สาคริก ถึงกับบอกว่า "ถ้าเป็นอย่างนี้ ลบชื่อผมออกจากชื่ออาคาร ชื่อสวนกล้วยไม้ และชื่อถนนของมหาวิทยาลัยฯดีกว่า"
ศาตราจาย์ระพีรู้สึกห่วงใยมหาวิทยาลัยเกษตรฯในยุคหลังมาก และพูดถึงความหนักใจให้คนใกล้ชิดและลูกศิษย์ลูกหา ฟังบ่อยๆ
"อุดมการณ์เดิมที่ 3 บูรพาจารย์เกษตรวางไว้ถูกละเลยไปมาก ตอนนี้มองไปทางไหนก็มีแต่การก่อสร้างและธุรกิจต่างๆมากมายอยู่ในมหาวิทยาลัยเกษตร ขณะที่การพัฒนาสังคมกลับลดหายไป เพราะเท้าไม่เหยียบพื้นดินกัน" ความห่วงใหญ่ของอาจารย์ระพีสั่งสมขึ้นทุกวัน โดยเฉพาะระยะหลังกลับมีเรื่องความไม่โปร่งใสต่างๆให้ยินถี่ขึ้น
"หัวใจสำคัญของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ก็คือเกษตร คนที่นี่ต้องรักและหวงแผ่นดินมากๆ เพราะทำงานอยู่กับพื้นดิน แต่กลับปล่อยให้มีการแทรกแซงมากมาย"
ศาสตราจารย์ระพีดำรงตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรฯระหว่างปี 2518-2523 และรับราชการอยู่ที่นี่ 22 ปี หลังจากลาออกก่อนเกษียณราชการ ท่านก็ยังให้คำปรึกษาและห่วงใยมหาวิทยาลัยแห่งนี้ตลอดมา
"แม้ตัวผมจะไม่อยู่ แต่วิญญาณผมอยู่ที่นี่"
ที่มา: FB Paskorn Jumlongrach