โดย Thawatchai » ศุกร์ 14 ธ.ค. 2018 5:03 pm
ธาตุอาหารที่จำเป็นสำหรับพืชผักผลไม้
พูดถึงแร่ธาตุหรือสารอาหารที่อยู่ในดินที่เป็นอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืชแล้ว หลาย
คนอาจจะนึกถึงแค่ไนโตรเจน(N) ฟอสฟอรัส(P) และโพแทสเซียม(K) แต่จริง ๆ แล้วยังมีธาตุอาหาร
อีกมากมายหลายชนิดที่อยู่ในดิน ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการเจริญเติบโตของพืช
ธาตุอาหารของพืชมีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตของพืชมาก นอกจากก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
น้ำ และออกซิเจน ก็ยังมีธาตุอาหารในดินอีก 14 ธาตุ ที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืช
โดยแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มคือ
-ธาตุอาหารหลัก
-ธาตุอาหารรอง
-ธาตุอาหารเสริม
ธาตุอาหารหลักประกอบด้วย
1.ไนโตรเจน (N)
เป็นส่วนที่ช่วยในการเจริญเติบโตของพืช ทั้งยังเป็นอาหารหลักของพืช ช่วยทำให้พืชใบเขียวตั้งตัว
ได้ โดยไนโตรเจนยังเป็นส่วนหนึ่งของเซลล์พืชเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างโปรตีน ไนโตรเจนยังมีส่วน
ช่วยในกระบวนการสร้างอาหารและสร้างพลังงานให้กับพืชอีกด้วย
ไนโตรเจนเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างคลอโรฟิลล์ ซึ่งคลอโรฟิลล์อยู่ในส่วนที่เป็นสีเขียวของพืชที่ทำ
หน้าที่สังเคราะห์แสง ช่วยให้พืชเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ไนโตรเจนมักอยู่ในปุ๋ยหมักและพืชตระกูลถั่ว
ซึ่งเราควรปลูกพืชตระกูลถั่วแล้วไถกลบเพื่อเพิ่มไนโตรเจนให้กับดิน
2.ฟอสฟอรัส (P)
ฟอสฟอรัสก็มีส่วนสำคัญที่ช่วยในการสังเคราะห์แสง มีส่วนช่วยในการผลิตแป้งและน้ำตาล ฟอสฟอรัส
มีส่วนช่วยในการเปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์เป็นพลังงานทางเคมีในพืช ช่วยผลิตอาหาร มีส่วนช่วยใน
การเจริฐเติบโต กระตุ้นการออกดอกและการเจริญเติบโตของราก
ฟอสฟอรัสก็จะมีอยู่ในปุ๋ยหมัก เศษอาหารและกระดูกป่นเช่นกัน จะเห็นได้ว่าฟอสฟอรัสก็มีส่วนสำคัญ
ไม่แพ้ธาตุอาหารใด ๆ เลย
3.โพแทสเซียม (K)
โพแทสเซียมจะมีอยู่ในดินชั้นล่าง จะถูกดูดซึมโดยรากพืช มีส่วนช่วยในการสร้างโปรตีน ทำให้ผล
มีคุณภาพ ลดโรคพืช โพแทสเซียมเป็นแร่ธาตุที่อยู่ในดิน วัตถุอินทรีย์และปุ๋ยอินทรีย์
ธาตุอาหารรอง ประกอบด้วย 3 ธาตุ
1.แคลเซียม (Ca)
ช่วยในการแบ่งเซลล์ ผสมเกสร การงอกของเมล็ด มีส่วนสำคัญต่อโครงสร้างของเซลล์พืช ช่วยใน
การลำเลียงอาหาร แคลเซียมช่วยในการปรับสมดุลทั้งกรดและด่างของพืช
2.แมกนีเซียม (Mg)
เป็นองค์ประกอบของคลอโรฟิลล์ ช่วยในการสังเคราะห์กรดอะมิโน วิตามิน ไขมันและน้ำตาล ช่วย
ในการสังเคราะห์แสง นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นการทำงานของเอนไซม์ที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโต
3.กำมะถัน (S)
เป็นองค์ประกอบของกรดอะมิโน วิตามินและโปรตีน ช่วนสร้างคลอโรฟิลล์ ช่วยเพิ่มการเจริญเติบโต
ของรากและเมล็ดพืช ทำให้พืชแข็งแรงและทนต่อความเย็น
ธาตุอาหารเสริม แบ่งออกเป็น 8 ธาตุ
1.โบรอน (B)
ช่วยในการสร้างสารอาหารและควบคุมสารอาหารที่จำเป็นต่อการพัฒนาการเจริญเติบโตของเมล็ดพันธุ์
ช่วยในการออกดอก ผสมเกสร ช่วยในการติดผลและย้ายน้ำตาลมาสู่ผล
2.ทองแดง (Cu)
ช่วยในการเจริญเติบโตของระบบสืบพันธุ์พืช ช่วยในการเผาผลาญอาหารของรากพืชและเป็นประโยชน์
ต่อการใช้โปรตีนของพืช การสังเคราะห์คลอโรฟิลล์และกระตุ้นการทำงานของเอนไซม์
3.คลอรีน (CI)
พบในดิน ช่วนกระตุ้นการย่อยอาหารสำหรับพืช มีบทบาทสำคัญเกี่ยวกับฮอร์โมนพืช
4.เหล็ก (Fe)
จำเป็นต่อการสร้างคลอโรฟิลล์ การสังเคราะห์คลอโรฟิลล์และสังเคราะห์แสง
5.แมงกานีส (Mn)
ช่วยในการทำงานของเอนไซม์ มีส่วนประกอบของคาร์บอนไดออกไซด์และการย่อยไนโตรเจน
6.โมลิบดีนัม (Mo)
ช่วยในการดึงไนโตรเจนออกมาใช้งานและช่วยในการสังเคราะห์โปรตีน พบธาตุชนิดนี้ในดิน
7.สังกะสี (Zn)
ช่วยสังเคราะห์ฮอร์โมนออกซิน คลอโรฟิลล์และแป้ง ควบคุมการย่อยน้ำตาลของพืช เป็นส่วนหนึ่ง
ในการทำงานขอเอนไซม์ที่มีส่วนในการควบคุมการเจริญเติบโตของพืช และจำเป็นต่อการเปลี่ยน
สภาพของคาร์โบไฮเดรต
8.นิกเกิล (Ni)
เป็นธาตุอาหารทำสำคัญต่อเอนไซม์ ทำหน้าที่ปลดปล่อยไนโตรเจนให้อยู่ในรูปที่จะนำไปใช้ได้
และยังช่วยในกระบวนการงอกของเมล็ดอีกด้วย
ลักษณะการขาดธาตุอาหารของพืช
สาเหตุที่ทำให้พืชผิดปกติในพืช จะมาจาก 2 สาเหตุหลัก ๆ คือ
สภาพแวดล้อมผิดปกติ เช่นแดดจัดมาก น้ำขังนาน อากาศหนาวจัด ก็จำทำให้พืชที่เราปลูกมีความผิดปกติได้ หรืออาจมีการเข้าทำลายของโรคและแมลง ซึ่งเราก็ต้องดูสาเหตุของความผิดปกติให้ดี
สาเหตุมาจากพืชขาดธาตุอาหารที่จำเป็นคือ เราปลูกพืชโดยไม่เติมอินทรีย์วัตถุลงไปในดินเลย เหตุเพราะธาตุอาหารเหล่านี้จะถูกดูดออกไปโดยผลผลิตรุ่นแล้วรุ่นเล่า วิธีสังเกตุคือในปีแรก ๆ ผลผลิตจะได้เยอะ แต่ในปีต่อ ๆ ไปผลผลิตจะค่อย ๆ ลดจำนวนลง โดยอาการขาดธาตุอาหารจะมีลักษณะดังนี้
-ถ้าพืชขาดไนโตรเจน ใบพืชจะเหลืองจากส่วนปลายใบเข้ามา
-ถ้าพืชขาดฟอสฟอรัส ใบแก่หรือใบล่างจะมีสีม่วงแซมเขียวอ่อน
-ถ้าพืชขาดโพแทสเซียม ขอบใบแก่จะมีสีเหลืองและจะได้ผลขนาดเล็ก ถ้าเป็นข้าวก็อาจเมล็ดลีบได้
นอกจากพืชจะต้องการธาตุอาหารหลักแล้ว ธาตุอาหารเสริมและรองก็ขาดไม่ได้เช่นเดียวกัน
-ถ้าขาดธาตุแคลเซียม จะมีอาหารใบหงิก ใบใหม้ ผลแตกหรือก้นผลเน่าได้
-ถ้าขาดธาตุแมกนีเซียม ใบแก่จะเหลืองและร่วงหล่นเร็ว
-ถ้าขาดธาตุกำมะถัน ใบทั้งบนและล่างจะมีสีเหลืองซีด ยอดผลจะชงักการเจริญเติบโต
-และธาตุอาหารเสริมอีก 8 ธาตุที่ถ้าขาดก็จะทำให้ใบอ่อน สีซีด เจริฐเติบโตช้าและได้ผลผลิตน้อย
วิธีแก้เมื่อดินขาดธาตุอาหาร
วิธีแก้คือ เพิ่มอินทรีย์วัตถุและปุ๋ยคอกลงปรุงดินก่อนปลูกในแต่ละรอบ และฉีดพ่นปุ๋ยอินทรีย์น้ำทางใบพืชเพื่อช่วยในการเจริญเติบโต
สำหรับการทำเกษตรอินทรีย์แล้ว ธาตุอาหารเหล่านี้มีอยู่อย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นพืชตระกูลถั่ว ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยพืชสด น้ำหมักชีวภาพ น้ำหมักจากปลาหรือหอยเชอรี่ มูลไส้เดือน เศษวัตถุอินทรีย์ที่หาได้ตามท้องถิ่น ฯ ซึ่งมีอยู่มากมายนับไม่ถ้วน
[b][size=200][color=#00FF00]ธาตุอาหารที่จำเป็นสำหรับพืชผักผลไม้[/color][/size][/b]
[size=125][color=#00BF00]พูดถึงแร่ธาตุหรือสารอาหารที่อยู่ในดินที่เป็นอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืชแล้ว หลาย
คนอาจจะนึกถึงแค่[/color][b][color=#00BF00][u]ไนโตรเจน[/u](N)[/color][/b] [b][color=#40BF00][u]ฟอสฟอรัส(P)[/u][/color][/b] [color=#00BF00]และ[/color][b][color=#80BF00][u]โพแทสเซียม(K)[/u][/color][/b][color=#00BF00] แต่จริง ๆ แล้วยังมีธาตุอาหาร
อีกมากมายหลายชนิดที่อยู่ในดิน ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการเจริญเติบโตของพืช
ธาตุอาหารของพืชมีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตของพืชมาก นอกจากก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
น้ำ และออกซิเจน ก็ยังมีธาตุอาหารในดินอีก 14 ธาตุ ที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืช
โดยแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มคือ[/color]
[b][color=#00BF00][u]-ธาตุอาหารหลัก
-ธาตุอาหารรอง
-ธาตุอาหารเสริม[/u][/color][/b][/size]
[size=150][color=#00BF80][b][u]ธาตุอาหารหลักประกอบด้วย[/u][/b][/color][/size]
[b][color=#00BFBF][size=125]1.ไนโตรเจน (N)[/size][/color][/b]
[color=#00BF00]เป็นส่วนที่ช่วยในการเจริญเติบโตของพืช ทั้งยังเป็นอาหารหลักของพืช ช่วยทำให้พืชใบเขียวตั้งตัว
ได้ โดยไนโตรเจนยังเป็นส่วนหนึ่งของเซลล์พืชเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างโปรตีน ไนโตรเจนยังมีส่วน
ช่วยในกระบวนการสร้างอาหารและสร้างพลังงานให้กับพืชอีกด้วย
ไนโตรเจนเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างคลอโรฟิลล์ ซึ่งคลอโรฟิลล์อยู่ในส่วนที่เป็นสีเขียวของพืชที่ทำ
หน้าที่สังเคราะห์แสง ช่วยให้พืชเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ไนโตรเจนมักอยู่ในปุ๋ยหมักและพืชตระกูลถั่ว
ซึ่งเราควรปลูกพืชตระกูลถั่วแล้วไถกลบเพื่อเพิ่มไนโตรเจนให้กับดิน[/color]
[b][color=#00BFBF][size=125]2.ฟอสฟอรัส (P)[/size][/color][/b]
[color=#00BF00]ฟอสฟอรัสก็มีส่วนสำคัญที่ช่วยในการสังเคราะห์แสง มีส่วนช่วยในการผลิตแป้งและน้ำตาล ฟอสฟอรัส
มีส่วนช่วยในการเปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์เป็นพลังงานทางเคมีในพืช ช่วยผลิตอาหาร มีส่วนช่วยใน
การเจริฐเติบโต กระตุ้นการออกดอกและการเจริญเติบโตของราก
ฟอสฟอรัสก็จะมีอยู่ในปุ๋ยหมัก เศษอาหารและกระดูกป่นเช่นกัน จะเห็นได้ว่าฟอสฟอรัสก็มีส่วนสำคัญ
ไม่แพ้ธาตุอาหารใด ๆ เลย[/color]
[b][size=125][color=#00BFBF]3.โพแทสเซียม (K)[/color][/size][/b]
[color=#00BF00]โพแทสเซียมจะมีอยู่ในดินชั้นล่าง จะถูกดูดซึมโดยรากพืช มีส่วนช่วยในการสร้างโปรตีน ทำให้ผล
มีคุณภาพ ลดโรคพืช โพแทสเซียมเป็นแร่ธาตุที่อยู่ในดิน วัตถุอินทรีย์และปุ๋ยอินทรีย์[/color]
[b][size=150][color=#00BF80][u]ธาตุอาหารรอง ประกอบด้วย 3 ธาตุ[/u][/color][/size][/b]
[b][size=125][color=#00BFBF]1.แคลเซียม (Ca)[/color][/size][/b]
[color=#00BF00]ช่วยในการแบ่งเซลล์ ผสมเกสร การงอกของเมล็ด มีส่วนสำคัญต่อโครงสร้างของเซลล์พืช ช่วยใน
การลำเลียงอาหาร แคลเซียมช่วยในการปรับสมดุลทั้งกรดและด่างของพืช[/color]
[b][size=125][color=#00BFBF]2.แมกนีเซียม (Mg)[/color][/size][/b]
[color=#00BF00]เป็นองค์ประกอบของคลอโรฟิลล์ ช่วยในการสังเคราะห์กรดอะมิโน วิตามิน ไขมันและน้ำตาล ช่วย
ในการสังเคราะห์แสง นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นการทำงานของเอนไซม์ที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโต[/color]
[b][color=#00BFBF][size=125]3.กำมะถัน (S)[/size][/color][/b]
[color=#00BF00]เป็นองค์ประกอบของกรดอะมิโน วิตามินและโปรตีน ช่วนสร้างคลอโรฟิลล์ ช่วยเพิ่มการเจริญเติบโต
ของรากและเมล็ดพืช ทำให้พืชแข็งแรงและทนต่อความเย็น[/color]
[b][color=#00BF80][size=150][u]ธาตุอาหารเสริม แบ่งออกเป็น 8 ธาตุ[/u][/size][/color][/b]
[color=#00BFBF][b][size=125]1.โบรอน (B)[/size][/b][/color]
[color=#00BF00]ช่วยในการสร้างสารอาหารและควบคุมสารอาหารที่จำเป็นต่อการพัฒนาการเจริญเติบโตของเมล็ดพันธุ์
ช่วยในการออกดอก ผสมเกสร ช่วยในการติดผลและย้ายน้ำตาลมาสู่ผล[/color]
[b][color=#00BFBF][size=125]2.ทองแดง (Cu)[/size][/color][/b]
[color=#00BF00]ช่วยในการเจริญเติบโตของระบบสืบพันธุ์พืช ช่วยในการเผาผลาญอาหารของรากพืชและเป็นประโยชน์
ต่อการใช้โปรตีนของพืช การสังเคราะห์คลอโรฟิลล์และกระตุ้นการทำงานของเอนไซม์[/color]
[b][size=125][color=#00BFBF]3.คลอรีน (CI)[/color][/size][/b]
[color=#00BF00]พบในดิน ช่วนกระตุ้นการย่อยอาหารสำหรับพืช มีบทบาทสำคัญเกี่ยวกับฮอร์โมนพืช[/color]
[b][size=125][color=#00BFBF]4.เหล็ก (Fe)[/color][/size][/b]
[color=#00BF00]จำเป็นต่อการสร้างคลอโรฟิลล์ การสังเคราะห์คลอโรฟิลล์และสังเคราะห์แสง[/color]
[b][size=125][color=#00BFBF]5.แมงกานีส (Mn)[/color][/size][/b]
[color=#00BF00]ช่วยในการทำงานของเอนไซม์ มีส่วนประกอบของคาร์บอนไดออกไซด์และการย่อยไนโตรเจน[/color]
[b][size=125][color=#00BFBF]6.โมลิบดีนัม (Mo)[/color][/size][/b]
[color=#00BF00]ช่วยในการดึงไนโตรเจนออกมาใช้งานและช่วยในการสังเคราะห์โปรตีน พบธาตุชนิดนี้ในดิน[/color]
[b][size=125][color=#00BFBF]7.สังกะสี (Zn)[/color][/size][/b]
[color=#00BF00]ช่วยสังเคราะห์ฮอร์โมนออกซิน คลอโรฟิลล์และแป้ง ควบคุมการย่อยน้ำตาลของพืช เป็นส่วนหนึ่ง
ในการทำงานขอเอนไซม์ที่มีส่วนในการควบคุมการเจริญเติบโตของพืช และจำเป็นต่อการเปลี่ยน
สภาพของคาร์โบไฮเดรต[/color]
[b][size=125][color=#00BFBF]8.นิกเกิล (Ni)[/color][/size][/b]
[color=#00BF00]เป็นธาตุอาหารทำสำคัญต่อเอนไซม์ ทำหน้าที่ปลดปล่อยไนโตรเจนให้อยู่ในรูปที่จะนำไปใช้ได้
และยังช่วยในกระบวนการงอกของเมล็ดอีกด้วย[/color]
[b][size=150][color=#00BF80][u]ลักษณะการขาดธาตุอาหารของพืช[/u][/color][/size][/b]
[color=#00BF00][size=125][b]สาเหตุที่ทำให้พืชผิดปกติในพืช จะมาจาก 2 สาเหตุหลัก ๆ คือ[/b][/size][/color]
[color=#00BF00]สภาพแวดล้อมผิดปกติ เช่นแดดจัดมาก น้ำขังนาน อากาศหนาวจัด ก็จำทำให้พืชที่เราปลูกมีความผิดปกติได้ หรืออาจมีการเข้าทำลายของโรคและแมลง ซึ่งเราก็ต้องดูสาเหตุของความผิดปกติให้ดี
สาเหตุมาจากพืชขาดธาตุอาหารที่จำเป็นคือ เราปลูกพืชโดยไม่เติมอินทรีย์วัตถุลงไปในดินเลย เหตุเพราะธาตุอาหารเหล่านี้จะถูกดูดออกไปโดยผลผลิตรุ่นแล้วรุ่นเล่า วิธีสังเกตุคือในปีแรก ๆ ผลผลิตจะได้เยอะ แต่ในปีต่อ ๆ ไปผลผลิตจะค่อย ๆ ลดจำนวนลง โดยอาการขาดธาตุอาหารจะมีลักษณะดังนี้
-ถ้าพืชขาดไนโตรเจน ใบพืชจะเหลืองจากส่วนปลายใบเข้ามา
-ถ้าพืชขาดฟอสฟอรัส ใบแก่หรือใบล่างจะมีสีม่วงแซมเขียวอ่อน
-ถ้าพืชขาดโพแทสเซียม ขอบใบแก่จะมีสีเหลืองและจะได้ผลขนาดเล็ก ถ้าเป็นข้าวก็อาจเมล็ดลีบได้[/color]
[b][size=125][color=#00BF00]นอกจากพืชจะต้องการธาตุอาหารหลักแล้ว ธาตุอาหารเสริมและรองก็ขาดไม่ได้เช่นเดียวกัน[/color][/size][/b]
[color=#00BF00]-ถ้าขาดธาตุแคลเซียม จะมีอาหารใบหงิก ใบใหม้ ผลแตกหรือก้นผลเน่าได้
-ถ้าขาดธาตุแมกนีเซียม ใบแก่จะเหลืองและร่วงหล่นเร็ว
-ถ้าขาดธาตุกำมะถัน ใบทั้งบนและล่างจะมีสีเหลืองซีด ยอดผลจะชงักการเจริญเติบโต
-และธาตุอาหารเสริมอีก 8 ธาตุที่ถ้าขาดก็จะทำให้ใบอ่อน สีซีด เจริฐเติบโตช้าและได้ผลผลิตน้อย[/color]
[b][size=150][color=#00BF80][u]วิธีแก้เมื่อดินขาดธาตุอาหาร[/u][/color][/size][/b]
[color=#00BF00] วิธีแก้คือ เพิ่มอินทรีย์วัตถุและปุ๋ยคอกลงปรุงดินก่อนปลูกในแต่ละรอบ และฉีดพ่นปุ๋ยอินทรีย์น้ำทางใบพืชเพื่อช่วยในการเจริญเติบโต
สำหรับการทำเกษตรอินทรีย์แล้ว ธาตุอาหารเหล่านี้มีอยู่อย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นพืชตระกูลถั่ว ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยพืชสด น้ำหมักชีวภาพ น้ำหมักจากปลาหรือหอยเชอรี่ มูลไส้เดือน เศษวัตถุอินทรีย์ที่หาได้ตามท้องถิ่น ฯ ซึ่งมีอยู่มากมายนับไม่ถ้วน[/color]