มะลิ การปลูกมะลิ การดูแลมะลิ

หมวดนี้สำหรับ ถามตอบปัญหาต่างๆ ของการทำเกษตร ศัตรูพืช สอบถามวิธีแก้ปัญหาจากเพื่อนๆ
KasetTaln
โพสต์: 176
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ 16 ม.ค. 2013 1:24 pm

มะลิ การปลูกมะลิ การดูแลมะลิ

ข้อมูล โดย KasetTaln »

การปลูกมะลิ

มะลิเป็นไม้ดอกสีขาวที่มีกลิ่นหอม สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง เช่น เก็บดอกมาร้อยเป็นพวงมาลัย ทำเป็นดอกไม้แห้ง หรือนำมาสกัดทำน้ำมันหอมระเหย นอกจากนั้นส่วนต่าง ๆ ของมะลิก็ยังมาใช้เป็นพืชสมุนไพรรักษาโรคได้
li11.jpg
li11.jpg (8.34 KiB) Viewed 2403 times

พันธุ์ มะลิที่นิยมใช้ดอกมาร้อยมาลัยในปัจจุบันเป็นมะลิลาพันธุ์ราษฎร์บูรณะ

สภาพแวดล้อมที่เหมาะสม
ดินร่วนซุยมีการระบายน้ำดี
มีความเป็นกรด-ด่าง 5.5-6.5
มีอินทรีย์วัตถุและธาตุอาหารสมบูรณ์
ได้รับแสงแดดเต็มที่เพื่อให้มีดอกดก

การขยายพันธุ์
การขยายพันธุ์ที่นิยมกันมากที่สุดคือ การปักชำ

1. เตรียมวัสดุเพาะชำ ทรายผสมขี้เถ้าแกลบ อัตราส่วน 1:1 บรรจุในภาชนะ แล้วรดน้ำให้ชุ่ม


2. เตรียมกิ่งพันธุ์ กิ่งที่ใช้เป็นกิ่งกึ่งแก่กึ่งอ่อน ตัดให้มีความยาวของกิ่ง 4 นิ้ว หรือมีข้ออย่างน้อย 3 ข้อ การตัดกิ่งควรตัดให้ชิดข้อ ริดใบส่วนล่างออก


3. นำกิ่งมะลิปักชำลงในแปลงชำ ให้มีระยะระหว่างแถวและกิ่ง 2x2 นิ้ว รดน้ำและสารเคมีป้องกันกำจัดเชื้อรา รักษาความชื้นให้เหมาะสมและคงที่


4. หลังจากกิ่งปักชำออกรากแล้วให้ย้ายลงปลูกในถุงขนาด 2x3 นิ้ว โดยใส่ดิน+ขุยมะพร้าว+ปุ๋ยคอก อัตรา 3:1:1 จนต้นมะลิแข็งแรงดีแล้วจึงนำไปปลูก


การปลูก
นิยมปลูกในช่วงฤดูฝน เดือน มิถุนายน-กรกฎาคม
ขุดหลุมลึก กว้าง และยาวด้านละ 50 ซม.
ใส่ปุ๋ยคอกและวัสดุอื่น ๆ ในอัตราส่วน 1:1:1 พร้อมทั้งเติมปุ๋ยซุปเปอร์ฟอสเฟต (0-46-0) และปุ๋ยผสมสูตร 15-15-15 อย่างละ 1 กำมือ คลุกให้เข้ากัน แล้วใส่กลับลงไปในหลุมใหม่ ทิ้งไว้ 7-10 วัน จึงนำต้นมะลิลงปลูก


การดูแลรักษา
การให้น้ำ มะลิต้องการน้ำปานกลาง ทั้งนี้อาจให้น้ำวันละ 1-2 ครั้ง ระวังอย่าให้น้ำขัง
การใส่ปุ๋ย ให้ใช้ปุ๋ยสูตรเสมอ เช่น 15-15-15 อัตรา 1-3 ช้อนแกงต่อต้น ขึ้นอยู่กับขนาดทรงพุ่ม ใส่เดือนละครั้ง โดยหว่านและรดน้ำตาม
การตัดแต่ง ควรตัดแต่งทรงพุ่มให้โปร่งรวมทั้งตัดกิ่งที่แห้งตายออกด้วย เพื่อลดโรคและแมลง


โรคและแมลงศัตรูที่สำคัญ
โรครากเน่า
โรคแอนแทรกโนส
โรครากปม
หนอนเจาะดอก หนอนกินใบ
หนอนเจาะลำต้น เพลี้ยไฟ


การเก็บเกี่ยว
เก็บดอกตูม ที่โตเต็มที่ สีขาวนวล วิธีเก็บให้ใช้มือเด็ดตรงก้านดอกใต้กลีบเลี้ยง ควรเก็บดอกเวลาเช้ามืด 03.00-04-00 น.


หมายเหตุ :

การปฏิบัติหลังการเก็บเกี่ยว หลังจากเด็ดดอกมะลิจากแปลงแล้วบรรจุ จะต้องลดอุณหภูมิดอก โดยบรรจุดอกในถุงพลาสติกลงในกล่องโฟมที่ปูพื้นกล่องด้วยน้ำแข็งเกล็ด แล้วปูทับด้วยน้ำแข็งเกล็ดเป็นเวลาอย่างน้อย 3 ชั่วโมง จากนั้นจึงค่อยบรรจุในถุงพลาสติกขนาดใหญ่ส่งให้ผู้รวบรวม

เทคนิคการบังคับมะลิให้ออกดอกในฤดูหนาว
เนื่องจากในฤดูหนาวมะลิจะออกดอกน้อย แต่ตลาดมีความต้องการในปริมาณสูง จึงทำให้มะลิมีราคาสูงกว่าปกติ ดังนั้นหากเกษตรกรสามารถทำให้มะลิออกดอกใน ฤดูหนาวได้ก็จะทำให้มีรายได้ดีจากการปลูกมะลิ


ปัจจัยสำคัญที่ทำให้มะลิออกดอกในฤดูหนาว
การตัดแต่งกิ่ง โดยทำการตัดแต่งกิ่งแห้ง กิ่งที่เป็นโรค หรือถูกแมลงทำลาย และกิ่งเลื้อย วิธีการตัดแต่งกิ่งมี 2 วิธีคือ

1. แบบเหลือกิ่งไว้กับต้นยาว โดยตัดแต่งกิ่งออกเพียงเล็กน้อย เหลือกิ่งสมบูรณ์ไว้กับต้นมาก ๆ เหมาะกับมะลิที่มีอายุน้อย

2. แบบเหลือกิ่งไว้กับต้นสั้น โดยตัดแต่งกิ่งให้เหลือ 3-4 กิ่ง แต่ละกิ่งยาวประมาณ 1-1.5 ฟุต เหมาะกับมะลิอายุ 2 ปีขึ้นไป

มะลิช่วงระยะเวลาตั้งแต่เก็บดอกจนถึงตากิ่งเจริญให้ดอกใหม่อีกครั้งประมาณ 6 สัปดาห์ ดังนั้นถ้าต้องการให้มะลิออกดอกในเดือนใด ก็ต้องนับย้อนเวลาตัดแต่งกิ่งถอยหลังไป 6 สัปดาห์ ฉะนั้น เมื่องต้องการให้มะลิออกดอกในฤดูหนาว ระยะเวลาที่เหมาะสมในการตัดแต่งกิ่ง คือ ช่วงเดือนสิงหาคม ถึง เดือนกันยายน


การบำรุงรักษาต้นและดอก

1. การบำรุงต้น หลังตัดแต่งกิ่งมะลิแล้ว ควรใส่ปุ๋ยคอกและปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 อัตรา 1-2 ช้อนแกง/ต้น ใส่เดือนละครั้ง


2. การบำรุงดอก ฤดูหนาวมะลิออกดอกน้อยและมีขนาดเล็ก ควรใส่ปุ๋ยทางใบที่มีธาตุฟอสฟอรัสสูง เช่น 52-5-4 อัตรา 3 ช้อนแกง/น้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นทุก 10 วัน แนะนำให้ใช้ในฤดูหนาวเท่านั้น ฤดูอื่นไม่แนะนำให้ใช้ปุ๋ยทางใบ เนื่องจากมะลิมีราคาไม่สูงไม้คุ้มค่าการลงทุน


การใช้สารไทโอยูเรีย

สารไทโอยูเรีย มีผลต่อการชักนำให้มะลิดออกดอก จากการวิจัยพบว่า สารไทโอยูเรียเป็นสารที่มีผลทำลายการพักตัวของมะลิ และเร่งการออกดอกในฤดูหนาวของมะลิ จะออกดอกหลังพ่นสารไทโอยูเรียแล้วประมาณ 20 วัน เก็บดอกได้นาน 1 เดือน และการให้ปุ๋ยไนโตรเจนสูง ร่วมกับการพ่นสารไทโอยูเรีย จะมีผลต่อการเพิ่มปริมาณดอกได้ดีขึ้น


ขั้นตอนการปฏิบัติ

ตัดแต่งกิ่งมะลิในเดือนกันยายน


ให้ปุ๋ยและน้ำ เพื่อบำรุงต้นให้สมบูรณ์ ใช้สูตร 15-15-15 อัตรา 1-2 ช้อนแกง/ต้น ในเดือนกันยายนและตุลาคม


พ่นสารไทโอยูเรีย 1% (ไทโอยูเรีย 100 กรัม ผสมน้ำ 20 ลิตร) ในเดือนพฤศจิกายน


ดอกมะลิที่ได้จะมีขนาดเล็ก จึงมีการทดลองเพื่อเพิ่มขนาดดอก พบว่าถ้าฉีดพ่นสารละลายน้ำตาลซูโครส 1% ผสมกับฮอร์โมนจิบเบอเรลลิน (GA3) 0.1 ppM ให้ทั่วต้นในระยะที่ดอกมีขนาดยาว 2 มม. ทุก 3 วัน จะทำให้ดอกมะลิมีขนาดใหญ่ขึ้น แต่อาจจะพบปัญหาเกิดราดำที่ใบ จึงควรใช้สารเคมีป้องกันกำจัดเชื้อราร่วมด้วย จากการปฏิบัติดังกล่าวมะลิจะออกดอกในเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม ซึ่งเป็นช่วงฤดูหนาวดอกมะลิมีราคาสูง


การใช้สมุนไพรควบคุมศัตรูพืช

เพื่อเป็นการลดต้นทุนการผลิตและเพื่อหลีกเลี่ยงสารเคมีที่ตกค้างอยู่ในดอกมะลิ จึงได้ใช้สารสะเดาในการควบคุมหนอนเจาะดอกมะลิเพลี้ยไฟ และตั๊กแตน ซึ่งมีวิธีการใช้สารดังนี้


ใช้สารสะเดาบดอบแห้ง จำนวน 5 กิโลกรัม ผสมกับแอลกอฮอล์ 3 ลิตร หมักทิ้งไว้ 2 ชั่วโมง เพื่อให้แอลกอฮอล์สกัดสารอาซาดิแรคติน ออกมาจากสะเดาให้มากที่สุด



จากนั้นเติมน้ำ 5 ลิตร ลงไปแล้วใส่ภาชนะมีฝาปิด หมักทิ้งไว้ 2 วัน คนทุกวัน เมื่อครบกำหนดแล้วคั้นเอาน้ำเก็บไว้ในแกลลอน แล้วเอากากสะเดามาผสมแบบเดิมใหม่อีกครั้งหนึ่ง


ทำเช่นเดิมแล้วคั้นเอาน้ำมารวมกับน้ำครั้งแรกไว้ฉีดพ่น โดยใช้น้ำไว้ฉีดพ่น ในอัตราน้ำสารสะเดาหมัก 100 ซี.ซี. ผสมกับน้ำสะอาด 20 ลิตรฉีดพ่นทุก 7 วัน สามารถที่จะควบคุมศัตรูพืชดังกล่าวได้อย่างดียิ่ง

เรียบเรียงโดย
นางนววรรณ ทองคนทา นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญการ

เอกสารอ้างอิง
กรมส่งเสริมการเกษตร. 2543. มะลิ. ฝ่ายเอกสารคำแนะนำ กองเกษตรสัมพันธ์ กรมส่งเสริมการเกษตร.
admin
Administrator
โพสต์: 423
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ 14 ม.ค. 2013 4:02 am

Re: มะลิ การปลูกมะลิ การดูแลมะลิ

ข้อมูล โดย admin »

ชอบดอกมะลิ
ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตร”