ปลูกกระเทียม ไว้กินเอง แบบง่ายๆ

กระเทียมเป็นพืชผักสวนครัวที่ต้องใช้กันเกือบทุกครัวเรือน ไม่ว่าจะเป็นเมนูอาหารไทย จีน หรือ ฝรั่ง ต่างก็มีวัตถุพื้นฐานคือกระเทียมด้วยกันทั้งนั้น แถมยังสามารถนำมาใช้ประโยชน์ต่างๆ ได้อีกนานาวิธี ทั้งๆ ที่ กระเทียมเป็นพืชสวนครัวที่ปลูกง่าย ไม่ต้องดูแลมาก และไม่กินพื้นที่ในการปลูกเท่าไหร่นัก แต่น้อยคนที่จะปลูกไว้กินเองกัน ซึ่งหากคุณมีหัวกระเทียมอยู่แล้ว เราก็อยากชวนคุณมาลอง วิธีปลูกกระเทียม ไว้กินเอง ในรั้วบ้านกันค่ะ

การเตรียมดินปลูก

กระเทียมชอบดินร่วนซุย ระบายน้ำได้ดี หากดินเป็นกรด ควรเตรียมดินด้วยการใส่ปูนขาวอย่างน้อย 15 วัน เพื่อปรับค่า pH ให้อยู่ที่ราวๆ 5.5 –6.8 หากมีพื้นที่สักหน่อย ควรเตรียมแปลงปลูกขนาดกว้าง 1 –2.5 เมตร ความยาวตามพื้น ที่ปลูกระยะห่าง ระหว่างแปลง (ทางเดินหรือร่องน้ำ) ควรกว้าง 50 ซม. หรือจะปลูกในกระถาง หรือ กระบะ ก็ได้ หากมีพื้นที่น้อยและต้องการเพียงแค่ปลูกไว้เก็บกินใช้สอยในครัวเรือน

วิธีการปลูก

นิยมปลูกโดยใช้กลีบนอกในการปลูก จะให้กระเทียมหัวใหญ่และผลผลิตสูง วิธีการเลือก คือให้เลือกใช้หัวที่แก่จัดและแห้งสนิท ไม่ควรเลือกใช้หัวเก่าที่เก็บไว้นาน แกะเปลือกและแต่งรากเล็กน้อย รดน้ำใส่ดินให้ฉ่ำ จากนั้นนำกลีบกระเทียมจิ้มลงไปโดยเอาส่วนรากลงลึกประมาณ 2 ใน 3 ส่วนของกลีบ หลังปลูกใช้ฟางคลุม เพื่อควบคุมวัชพืช เก็บความชื้น และช่วยลดความร้อนในตอนกลางวัน

การรดน้ำ

ควรให้น้ำก่อนปลูก และหลังปลูกกระเทียมควรได้รับน้ำอย่างเพียงพอ และสม่ำเสมอในช่วงระหว่างเจริญเติบโต 7-10 วัน/ครั้ง สรุปแล้วจะให้น้ำประมาณ 10 ครั้ง/ฤดู  ควรงดการให้น้ำเมื่อกระเทียมแก่จัด ก่อนเก็บเกี่ยว 2-3 สัปดาห์

การเก็บเกี่ยว

ให้สังเกตว่าหัวกระเทียมแก่เต็มที่หรือไม่ โดยการดูว่าใบเริ่มแห้งหรือก้านดอกชูขึ้นมาหรือไม่ หากทิ้งไว้ให้แก่นานเกินไป เมื่อขุดหัวออกมา กลีบจะร่วงหล่นออกจากกันได้ง่ายและคุณภาพก็จะลดลงด้วย

วิธีการเก็บเกี่ยวนั้นสามารถทำได้โดย  การถอนหัวด้วยมือจากแปลงออกมา แล้วนำมาผึ่งแดดประมาณ 4-5 วัน ในตอนกลางคืนควรป้องกันการถูกน้ำค้างและฝนด้วย หลังจากผึ่งแดดแล้วให้นำเข้าไว้ในโรงเรือนที่โปร่ง มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก ทั้งนี้ก็เพื่อให้กระเทียมแห้งสนิท ต่อจากนั้นจึงทำความสะอาดและคัดขนาดไปพร้อมๆ กัน แล้วมัดไว้เป็นพวงๆ โดยจัดด้านปลายใบมัดจุกเข้าหากัน แล้วจึงนำไปแขวนไว้ในโรงเรือนเพื่อให้ลดโกรก แต่ต้องระวังไม่ให้โดนน้ำ ละอองน้ำหรือความชื้นใดๆ

แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ : http://actorganic-cert.ot.th
https://www.flickr.com