การปลูกมะพร้าวและการเลือกสายพันธุ์มะพร้าว

มะพร้าว

มะพร้าวมี 2 กลุ่ม คือ มะพร้าวน้ำหอมหรือมะพร้าวอ่อนน้ำหอม และมะพร้าวแกง มะพร้าวน้ำหอมปลูกได้ทั้งในที่ลุ่มและที่ดอน ในที่ลุ่มภาคกลางมักจะนิยมปลูกในระบบสวนด้วยการยกร่องแปลงปลูกให้สูง ระหว่างแปลงปลูก จัดให้มีร่องน้ำ การปลูกมะพร้าว ในระยะ 1-2 ปี ควรปลูกพืชอายุสั้นเป็นพืชแซม เช่น กล้วย มะละกอ หรือปลูกพืชผักชนิดต่างๆ เพื่อนำผลผลิตมาเป็นอาหารและขายเป็นรายได้เสริม ส่วนในที่ดอนมีแหล่งน้ำและมีฝนตกสม่ำเสมอ เช่น ภาคใต้ มักนิยมปลูกในระบบไร่ และก็มีการปลูกพืชตระกูลถั่ว ข้าวโพด หรือสับปะรด เป็นพืชแซม

วิธีการปลูกพืชแซมเป็นการใช้พื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด มีการผสมผสานใส่ปุ๋ยและให้น้ำเพื่อลดต้นทุนการผลิตและเสริมรายได้เพื่อนำมาเป็นทุนหมุนเวียนในการผลิต และเมื่อต้นมะพร้าวอายุ 2 ปีขึ้นไป ก็จะหยุดปลูกพืชแซม เพราะเป็นช่วงที่ใกล้จะเริ่มเก็บผลมะพร้าวน้ำหอมไปขายได้แล้ว

ต้นมะพร้าว
ต้นมะพร้าว ลำต้นกลม ตั้งตรง ไม่แตกกิ่งก้าน

การเลือกสายพันธุ์มะพร้าว

มะพร้าวสามารถขึ้นได้ในทุกจังหวัดทั่วประเทศ แต่ขึ้นได้ดีในดินที่มีสภาพเป็นกลางหรือเป็นกรดเล็กน้อยคือ (pH ระหว่าง 6-7) ลักษณะดินร่วน หรือร่วนปนทราย มีการระบายน้ำดี มีฝนตกกระจายสม่ำเสมอแทบทุกเดือน อากาศอบอุ่น หรือค่อนข้างร้อน และมีแสงแดดมาก เนื่องจากมะพร้าวเป็นพืชยืนต้นที่มีอายุยาวนานมาก หลังจากปลูกแล้ว 5-6 ปี จึงให้ผล การสร้างสวนมะพร้าวต้องลงทุนพอสมควร และใช้เวลานาน จึงควรทราบสภาพแวดล้อมที่มะพร้าวชอบ ลักษณะวิธีการคัดเลือกพันธุ์ การเพาะชำ การคัดเลือกหน่อ การปลูก ตลอดจนการปฏิบัติดูแลรักษาเพื่อให้ได้ผลตอบแทนจากสวนมะพร้าวอย่างคุ้มค่า
พันธุ์ที่ใช้ปลูกมี 2 กลุ่มคือ ประเภทต้นเตี้ย และประเภทต้นสูง

  1. ประเภทต้นเตี้ย มีการผสมตัวเองค่อนข้างสูงจึงมักให้ผลดกและไม่ค่อยกลายพันธุ์ ส่วนใหญ่นิยมปลูกไว้เพื่อรับประทานผลอ่อน เพราะในขณะที่ผลยังไม่แก่อายุประมาณ 4 เดือน เนื้อมีลักษณะอ่อนนุ่ม และน้ำมีรสหวาน บางพันธุ์มีกลิ่นหอม ต้นเตี้ยโตเต็มที่สูงประมาณ 12 เมตร ให้ผลเมื่ออายุ 3-4 ปี มะพร้าวประเภทนี้มีหลายพันธุ์ แต่ละพันธุ์มีลักษณะแตกต่างกัน เช่น เปลือกสีเขียวเหลือง นวล น้ำตาลแดง หรือสีส้ม น้ำมีรสหวาน มีกลิ่นหอม มะพร้าวต้นเตี้ยทุกพันธุ์มีผลขนาดเล็ก เมื่อผลแก่มีเนื้อบางและน้อย เช่น พันธุ์นกคุ่ม หมูสีเขียว หมูสีเหลือง นาฬิกา น้ำหอม มะพร้าวเตี้ย มะพร้าวไฟ
  2. ประเภทต้นสูง มักผสมข้ามพันธุ์คือ ในแต่ละช่อดอก (จั่น) หนึ่งๆ ดอกตัวผู้จะค่อยๆ ทยอยบาน และร่วงไปหมดก่อนที่ดอกตัวเมียในจั่นนั้นจะเริ่มบานจึงไม่มีโอกาสผสมตัวเอง มะพร้าวประเภทนี้มักใช้ผลแก่เพื่อประกอบอาหารหรือใช้ในอุตสาหกรรมน้ำมันพืช เพราะมีผลโตเนื้อหนาปริมาณเนื้อมาก ต้นสูงโตเต็มที่ประมาณ 18 เมตร ให้ผลเมื่ออายุ 5-6 ปี มีชื่อเรียกต่างๆ เช่น พันธุ์กะโหลก มะพร้าวกลาง ปากจก ทะลายร้อย เปลือกหวาน
ต้นอ่อนมะพร้าว
การขยายพันธุ์ด้วยผล

การเลือกสายพันธุ์มะพร้าว

สำหรับพันธุ์ที่ใช้ปลูกนั้นแม้ว่ามะพร้าวพื้นเมืองที่เกษตรกรปลูกกันมาแต่ดั้งเดิม จะมีลักษณะดีหลายอย่าง เช่น มีขนาดผลค่อนข้างโต และทนทานต่อสภาพอากาศแล้งได้ดี แต่ในวงการอุตสาหกรรมมะพร้าวในปัจจุบันได้พัฒนาทางด้านคุณภาพมะพร้าวมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งปริมาณเปอร์เซ็นต์น้ำมัน ซึ่งศูนย์วิจัยพืชสวนชุมพร กรมวิชาการเกษตร มีหน้าที่รับผิดชอบด้านวิจัยและพัฒนามะพร้าวได้ผลิตมะพร้าวพันธุ์ลูกผสม การรับรองพันธุ์ออกมาแล้ว 3 พันธุ์ ดังนี้

  1. พันธุ์สวีลูกผสม 1 (Sawi Hybrid No.1) เป็นมะพร้าวพันธุ์ลูกผสมที่เกิดจากการผสมระหว่างมะพร้าวพันธุ์มลายูสีเหลืองต้นเตี้ย x เวสท์อัฟริกันต้นสูง (MYD x WAT) ลักษณะเด่นของมะพร้าวพันธุ์นี้คือมีอายุการตกผลเร็ว สามารถเก็บผลผลิตได้ในปีที่ 5 ผลผลิตเฉลี่ย 2,781 ผลต่อไร่ หรือคิดเป็นน้ำหนักแห้ง 566 กก.ต่อไร่ จากจำนวนมะพร้าว 22 ต้นต่อไร่ เนื้อมะพร้าวแห้งมีเปอร์เซ็นต์น้ำมันสูงถึง 64 เปอร์เซ็นต์ จึงเป็นมะพร้าวที่เหมาะสำหรับอุตสาหกรรมน้ำมันมะพร้าวมาก
  2. พันธุ์ชุมพรลูกผสม 60-1 (Chumphon Hybrid 60-1) เป็นมะพร้าวลูกผสมที่เกิดจากการผสมระหว่างพันธุ์เวสท์อัฟริกันต้นสูง x ไทยต้นสูง สามารถเก็บผลผลิตได้ในปีที่ 5 หลังจากปลูก ขนาดผลมีตั้งแต่ขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ ผลผลิตเฉลี่ย 2,257 ผลต่อไร่ หรือคิดเป็นน้ำหนักมะพร้าวแห้งสูงถึง 628 กก.ต่อไร่ เนื้อมะพร้าวแห้งมีเปอร์เซ็นต์น้ำมันสูง 63 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากขนาดผลของมะพร้าวพันธุ์นี้ค่อนข้างโตกว่าพันธุ์สวีลูกผสม 1 จึงสามารถจำหน่ายได้ทั้งผลสดและในรูปมะพร้าวแห้งส่งโรงงานสกัดน้ำมัน มะพร้าวลูกผสมทั้ง 2 พันธุ์ ให้ผลผลิตสูงกว่าพันธุ์พื้นเมืองเกือบ 2 เท่า กล่าวคือ พันธุ์ไทยให้ผลผลิต 1,084 ผลต่อไร่ คิดเป็นผลผลิตเนื้อมะพร้าวแห้ง 374 กก./ไร่/ปี และมีปริมาณเปอร์เซ็นต์น้ำมัน 59-60 เปอร์เซ็นต์
  3. พันธุ์ลูกผสมชุมพร 2 เป็นพันธุ์ลูกผสมระหว่างพันธุ์มลายูสีเหลืองต้นเตี้ย x พันธุ์ไทยต้นสูง ผลขนาดกลางถึงใหญ่ ทำให้สามารถจำหน่ายได้ทั้งรูปผลสดและแปรรูปในอุตสาหกรรมน้ำมัน ลักษณะเด่นคือ ให้ผลเร็ว เริ่มเก็บได้เมื่ออายุ 4 ปีครึ่ง ผลขนาดกลางถึงใหญ่ มีเปอร์เซ็นต์น้ำมันประมาณ 66% ผลผลิตมะพร้าวแห้ง 207-208 กก./ไร่/ปี เนื้อมะพร้าวแห้งเฉลี่ย 261 กรัม/ผล

การปลูกมะพร้าว

ให้ขุดหลุมปลูกกว้างยาวและลึก ด้านละ 50-75 เซนติเมตร สำหรับในที่ดอนขุดหลุมปลูกควรกว้างยาวและลึก ด้านละ 1 เมตร นำปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก หรือใบไม้แห้งผุกับดินบนที่ตากแห้งใส่คลุกเคล้าให้เข้ากัน ใส่รองก้นหลุมปลูกให้เต็มหลุม วางต้นพันธุ์เสมอกับปากหลุมปลูกในกรณีที่ปลูกบนที่ลุ่ม และวางต้นพันธุ์ปลูกต่ำกว่าปากหลุมในกรณีปลูกบนที่ดอน ปักไม้หลักผูกยึดกับต้นพันธุ์ป้องกันการโค่นล้ม เกลี่ยดินกลบ ควรปลูกให้ระยะระหว่างต้นและแถวห่างกัน 6-7 เมตร หรือปลูกเป็นลักษณะสามเหลี่ยมด้านเท่าก็ได้

การใส่ปุ๋ย

หลังจากปลูกมะพร้าวน้ำหอมได้ 1 ปี ให้ใส่ปุ๋ยอินทรีย์หรือมูลสัตว์เพื่อช่วยในการปรับปรุงดินให้มีคุณภาพและใส่ปุ๋ยเคมี สูตร 13-13-21 ใส่ 1 กิโลกรัม ต่อต้น โดยหว่านรอบทรงต้น เมื่อต้นมะพร้าวเข้าปีที่ 2 ใส่ปุ๋ยสูตรเดิม 1-2 กิโลกรัม ต่อต้น ในปีที่ 3 ใส่ปุ๋ยเคมี สูตร 13-13-21-2 (เพิ่มแมกนีเซียม 200 กรัม) ใส่ 3 กิโลกรัม ต่อต้น ควรใส่ปุ๋ยอย่างน้อย 2 ครั้ง ต่อปีคือ ต้นฤดูฝนหรือเดือนพฤษภาคมและปลายฤดูฝนหรือในเดือนตุลาคมก็จะเจริญเติบโตได้ดี

การให้น้ำ

ในที่ลุ่มปลูกมะพร้าวน้ำหอมแบบระบบยกร่องสวน จะให้ได้รับน้ำพร้อมกับพืชผักและไม้ผลอายุสั้น รากมะพร้าวจะแผ่ลงริมร่องสวนดูดซับน้ำ ทำให้ต้นเจริญเติบโตดีและได้ผลดก ส่วนการปลูกในที่ดอน หรือในฤดูแล้งหรือฝนไม่ตกต้องให้น้ำสัปดาห์ละครั้งเป็นอย่างน้อยหรือได้รับน้ำพอเพียง จะช่วยให้ต้นมะพร้าวเจริญเติบโตได้ดี

การเก็บเกี่ยว

การปฏิบัติดูแลรักษาที่ดี เมื่อต้นมะพร้าวน้ำหอมอายุ 2 ปีครึ่ง หรือนับตั้งแต่ออกช่อดอกหรือจั่นได้ 190-200 วัน ก็จะพัฒนาเป็นผลอ่อน มีน้ำหวานหอม เนื้ออ่อนนุ่ม และมีกะลาที่แข็งทนทานต่อการขนส่ง ก็จะเริ่มเก็บเกี่ยว ในรอบ 1 ปีจะตัดเก็บมะพร้าว 12-15 ครั้ง ในทุก 20 วัน จะตัดเก็บมะพร้าว 1 ครั้ง ครั้งละ 1 ทะลาย ทะลายละ 10-30 ผล

ในช่วงอายุ 3-10 ปี ต้นมะพร้าวน้ำหอมจะยังเตี้ยอยู่ การตัดเก็บจะใช้วิธีเดินตัดทีละทะลาย เมื่อต้นมะพร้าวอายุ 10 ปีขึ้นไปลักษณะต้นจะสูงขึ้น วิธีการตัดเก็บได้ใช้มีดตะขอผูกติดปลายกับไม้ไผ่ แล้วนำขึ้นไปเกี่ยวตัดครั้งละทะลายที่มีไม้ค้ำทะลายไว้ก่อนแล้ว จากนั้นจึงนำลงมา ก็จะได้ผิวผลมะพร้าวที่สวยงามและเก็บได้นาน 7 วัน จัดมะพร้าวใส่ในรถเข็นหรือรถสาลี่ลากจูงออกจากสวนไปเก็บไว้ที่โรงเรือน เพื่อเตรียมขนส่งไปยังโรงงานแปรรูปหรือตลาดท้องถิ่น

ผลมะพร้าว
ผลมะพร้าว ผลกลมหรือรี ผิวเรียบ ผลอ่อนสีเขียว

แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ : https://www.opsmoac.go.th
https://www.kmutt.ac.th
https://www.flickr.com

Add a Comment