ชมพู่มะเหมียว ผลมีรสชุ่มคอแก้กระหายน้ำ เปรี้ยวอมหวาน ทานแล้วสดชื่น

ชมพู่มะเหมียว

ชื่ออื่นๆ : ชมพู่มะเหมี่ยว, มะเหมี่ยว, ชมพู่สาแหรก, ชมพู่แดง

ต้นกำเนิด : มาเลเซีย

ชื่อสามัญ : Pomerac, Malay Apple

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Syzygium malaccense (L.) Merr. & L.M.Perry

ชื่อวงศ์ : MYRTACEAE

ลักษณะของชมพู่มะเหมียว

ต้น ไม้ยืนต้นขนาดกลาง สูงประมาณ 6-15 เมตร แผ่กิ่งก้านสาขามาก ลำต้นมีเปลือกสีน้ำตาลอ่อนผิวเรียบเป็นไม้ผล เรือนยอกทรงกลมหนาทึบ

ใบ ใบเดี่ยว เรียงสลับกันเป็นคู่ เนื้อใบหนาผิวใบเป็นมันใบแก่สีเขียวเข้มออกดอกเป็นช่อกระจุกแน่นปลายกิ่ง

ดอก ออกตามกิ่งที่มีขนาดใหญ่ (cauliferous) ดอกมี ขนาดใหญ่สีชมพูเข้มหรือสีแดง มีเกสรตัวผู้และก้านชูเกสรเป็น สีชมพูเด่นชัด ติดอยู่โดยรอบที่ขอบของฐานรองดอกจะอยู่ แยกกัน ขนาดยาว 4-5 ซม. เกสรตัวเมียมีรังไข่ฝังอยู่ใน ฐานรองดอกตรงกลาง

ผล ทรงกลมหรือรียาว รูประฆัง ผลดิบสีเขียว เมื่อแก่เป็นสีแดงหรือขาวลายแดงและขาว เมล็ดขนาดใหญ่ 1 เมล็ด ออกผลผลิตในช่วงเดือนธันวาคม – มกราคม

ดอกชมพู่มะเหมี่ยว
ดอกช่อกระจุก ดอกสีชมพูเข้ม

การขยายพันธุ์ของชมพู่มะเหมียว

ใชเมล็ด

ธาตุอาหารหลักที่ชมพู่มะเหมียวต้องการ

ประโยชน์ของชมพู่มะเหมียว

  • ชมพู่มะเหมี่ยวสามารถทานได้ทั้งผลสุก และเกษร ซึ่งมีรสเปรี้ยว นิยมนำไปต้มรวมกับผลไม้อื่น ๆ ให้มีรสเปรี้ยวน้อยลง
  • เป็นไม้ผลที่ปลูกไว้ที่บ้าน ชมพู่มะเหมี่ยวเป็นไม้ผลที่มีระบบรากไม่เป็นอันตรายต่อตัวบ้าน อีกทั้งโตช้า จึงเหมาะสมจะปลูกไว้ประจำบ้านที่สุด
ผลชมพู่มะเหมี่ยว
ผลอ่อนสีเขียว ผลสุกสีแดง ผลแก่สีดำแดง

สรรพคุณทางยาของชมพู่มะเหมียว

  • รากแก้คัน แก้ไข้ ขับปัสสาวะ
  • เปลือกราก ขับประจำเดือน
  • ใบ แก้บิดผล
  • เปลือกลำต้น ใบและรากมีสรรพคุณเป็นยา รสชุ่มคอ มีวิตามินซี และแคลเซียมสูง เสริมสร้างกระดูกและฟัน

คุณค่าทางโภชนาการของชมพู่มะเหมียว

การแปรรูปของชมพู่มะเหมียว

แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ : http://www.bedo.or.th/lcdb/biodiversity/view.aspx?id=11108&SystemType=BEDO
http://srdi.yru.ac.th/bcqy/view/169_%E0%B8%8A%E0%B8%A1%E0%B8%9E%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7

2 Comments

Add a Comment