ชะเอมเลี่ยน ชะเอมป่า รากเป็นยาแก้กระหาย เป็นยาระบาย

ชะเอมเลี่ยน

ชื่ออื่นๆ : ชะเอมป่า (กลาง) ตาลอ้อย (ตราด) เพาะซูโพ (กะเหรี่ยงแม่ฮ่องสอน) ย่านงาย (ตรัง) ส้มป่อยหวาน (ภาคเหนือ) อ้อยช้าง (สงขลา,นราธิวาส) 

ต้นกำเนิด :

ชื่อสามัญ : ชะเอมไทย Littleleaf sensitive-briar, Sensitive briar

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Aibizia myriophylla Benth

ชื่อวงศ์ : Leyuminosae-mimosoideae

ลักษณะของชะเอมเลี่ยน

ต้น ไม้เถารอเลื้อย ลำต้นกิ่งก้านมีหนามแหลมสั้น เปลือกต้นมีรอยแตกตามขวางลำต้น

ใบ ใบเป็นใบประกอบแบบขนนก 2 ชั้น ใบย่อยรูปขอบขนาน ปลายใบรูปใบห่อ โคนใบเบี้ยวขอบใบเรียบแผ่นใบเรียบ

ดอก ดอกเป็นช่อ ตามซอกใบและปลายยอดมีดอก 2 แบบดอกสีเหลืองอ่อน กลีบดอกเล็ก เกษรเพศผู้ยาว

ผล ผลเป็นฝักแบบผิวเรียบ ฝักอ่อนสีเขียวพอแก่เป็นสีน้ำตาลและแตกออก

ต้นชะเอม
ไม้เถารอเลื้อย  ลำต้นมีหนาม
ใบชะเอมไทย
ใบชะเอมไทย ใบเล็กละเอียดเป็นฝอย คล้ายกับใบส้มป่อยหรือใบกระถิน

การขยายพันธุ์ของชะเอมเลี่ยน

การเพาะเมล็ด, การปักชำกิ่ง
เจริญเติบโตได้ดีในดินร่วนซุย ความชื้นปานกลาง

ธาตุอาหารหลักที่ชะเอมเลี่ยนต้องการ

ประโยชน์ของชะเอมเลี่ยน

ทั้งต้นมีสรรพคุณทางสมุนไพร

สรรพคุณทางยาของชะเอมเลี่ยน

ส่วนที่ใช้ : ราก เนื้อไม้

  • ราก – แก้ไอ ขับเสมหะ ทำให้ชุ่มคอ ใช้แทนชะเอมเทศ
  • เนื้อไม้ – บำรุงธาตุ แก้กระหายน้ำ แก้โรคในคอ วิธีและปริมาณที่ใช้ แก้ไอขับเสมหะ
  • ใช้รากยาว 2-4 นิ้ว ต้มน้ำรับประทาน เช้า-เย็น ถ้าไม่ทุเทา รับประทานติดต่อกัน 2-4 วัน
  • ดอกช่วยย่อยอาหารอไม้แก้เสมหะแก้อาการเลือดออกตามไรฟัน

คุณค่าทางโภชนาการของชะเอมเลี่ยน

การแปรรูปของชะเอมเลี่ยน

แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ : http://www.bedo.or.th/lcdb/biodiversity/view.aspx?id=9187&SystemType=BEDO
https://th.wikipedia.org
https://www.flickr.com

One Comment

Add a Comment