ซ่อนกลิ่น ดอกส่งกลิ่นหอมแรงทั้งกลางวันและกลางคืน

ซ่อนกลิ่น

ชื่ออื่นๆ : ซ่อนชู้, ดอกรวงข้าว, ดอกลีลา (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ)

ต้นกำเนิด : อเมริกาใต้

ชื่อสามัญ : Tuberose

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Polianthes tuberosa Linn.

ชื่อวงศ์ : AGAVACEAE

ลักษณะของซ่อนกลิ่น

ต้น ไม้ล้มลุกมีหัวเป็นกระจุกอยู่ใต้ดินสำหรับสะสมอาหาร

ใบ ใบขึ้นมาเป็นกอ ๆ ใบมีสีเขียว เล็กเรียวยาวโผล่พ้นดิน ขนาดใบยาวประมาณ 1-1.5 ฟุต

ดอก  มีดอกติดอยู่ตอนปลายใบเป็นช่อยาวตั้งแต่ 6 – 15 นิ้ว ดอกย่อย 40 – 90 ดอก ทยอยบานตั้งแต่โคนช่อไปหาปลายช่อ สีขาว ส่งกลิ่นหอมแรงทั้งกลางวันและกลางคืน ดอกทยอยบานและบานอยู่ได้หลายวัน มีทั้งพันธุ์ดอกลาที่มีกลีบดอกชั้นเดียวและพันธุ์ดอกซ้อน ที่มีกลีบดอกหลายชั้น ออกดอกตลอดปี

ซ่อนกลิ่น
ซ่อนกลิ่น ไม้ล้มลุก ใบขึ้นเป็นกอ ใบสีเขียว

การขยายพันธุ์ของซ่อนกลิ่น

การปลูกแยกหน่อ, การแบ่งหัว

ธาตุอาหารหลักที่ซ่อนกลิ่นต้องการ

ประโยชน์ของซ่อนกลิ่น

  • เป็นพันธุ์ไม้หอมขนาดเล็ก ต้องการพื้นที่ในการปลูกไม่มาก ปลูกในกระถางได้
  • ดอกนำมาทำอาหาร เช่น แกงจืด หรือผัดใส่หมูสับ
  • ดอกซ่อนกลิ่นมีกลิ่นหอมแรงในสมัยโบราณจึงนิยมใช้ประดับตกแต่งในงานศพ นัยว่าเพื่อกลบกลิ่น เนื่องจากสมัยก่อนไม่มีสารเคมีช่วยรักษาศพ
ดอกซ่อนกลิ่น
ดอกซ่อนกลิ่น ดอกสีขาว ดอกออกซ้อนกันหลายชั้น

สรรพคุณทางยาของซ่อนกลิ่น

คุณค่าทางโภชนาการของซ่อนกลิ่น

การแปรรูปของซ่อนกลิ่น

แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ : http://www.bedo.or.th/lcdb/biodiversity/view.aspx?id=9969&SystemType=BEDO
https://www.flickr.com

Add a Comment