ตองหมอง
ชื่ออื่นๆ : ตองหมอง (อุบลราชธานี) ต่างหมอง (ชัยภูมิ) ดอกฮักดาน, ตองหมองดาน, กระโดนจาน, ต่างหนอง ,ไชหิน
ต้นกำเนิด : พบขึ้นทั่วไปตามโขดหิน ดินดาน และลานหินของป่าเต็งรัง
ชื่อสามัญ :
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Tadehagi godefroyanum (O.Ktze) Ohashi.
ชื่อวงศ์ : Fabaceae (Papilionaceae)
ลักษณะของตองหมอง
ต้น ไม้พุ่ม ลำต้นตั้งตรง สูง 1.5-3 เมตร ลำต้นมีข้อเด่นชัด มีขนสีขาวและนวลแป้ง แตกกิ่งก้านได้มาก ที่โคนต้น เรือนยอดเล็ก มีใบน้อย เปลือกสีเทานวล
ใบ ใบประกอบชนิดมีใบย่อยใบเดียว เรียงสลับ รูปไข่หรือรูปไข่แกมขอบขนาน กว้าง 5-8 เซนติเมตร ยาว 12-15 เซนติเมตร ฐานใบรูปหัวใจ ปลายใบมน ปลายใบแหลม แผ่นใบด้านบนสีเขียวแกมเทา ด้านล่างสีขาวนวล มีขนสั้นๆขึ้นหนาแน่นที่ผิวใบทั้ง 2 ด้าน ก้านใบแผ่เป็นครีบแบน ขอบใบเรียบ
ดอก ดอกช่อแบบกระจะ ออกที่ปลายกิ่ง ชูขึ้นเห็นเด่นชัด ยาวประมาณ 15-30 เซนติเมตร ดอกย่อยเป็นรูปคล้ายดอกถั่ว กลีบดอกสีม่วงแดง กลีบกลางรูปเกือบกลม กลีบคู่ล่างรูปขอบขนานแกมรูปไข่ เกสรเพศผู้มี 10 อัน เชื่อมกันเป็น 2 กลุ่ม เกสรเพศเมียมีรังไข่รูปแถบ มีขนสีขาว กลีบเลี้ยง เชื่อมติดกันตรงโคน ปลายแยกเป็น 4 กลีบ สีเขียวแกมแดง ออกดอกตลอดปี
ผล เป็นฝักแบน คอดเป็นข้อๆ ประมาณ 3-5ข้อ มีขนหนาแน่น เฉพาะตรงสันของฝัก มี 3-5 เมล็ด
การขยายพันธุ์ของตองหมอง
การเพาะเมล็ด
ธาตุอาหารหลักที่ตองหมองต้องการ
ประโยชน์ของตองหมอง
- ยอดและฝักอ่อนรสฝาด กินเป็นผักน้ำพริก
- เป็นอาหารตามธรรมชาติให้กับสัตว์เลี้ยง เช่น โค กระบือได้มาแทะเล็มได้ดี
สรรพคุณของตองหมอง
ยาสมุนไพรพื้นบ้านจังหวัดอุบลราชธานี
- ราก ต้มน้ำดื่ม แก้โรคกระเพาะอาหาร
- ยอดและใบ ต้มน้ำดื่ม แก้บิด ท้องร่วง แก้ตกเลือด ปวดเอว
- ใบนำมาตากแห้งบดเป็นยารักษาเบาหวาน
ยาพื้นบ้าน
- ราก ต้มน้ำดื่ม แก้อาเจียน มีเลือดออกทั้งทางปาก และทวารหนัก
- รากผสมกับรากแกลบหนู ต้มรวมกันดื่ม รักษาถ่ายเป็นมูกเลือด
คุณค่าทางโภชนาการของตองหมอง
การแปรรูปตองหมอง
สามารถติดตามความรู้เเกี่ยวกับการเกษตร เพิ่มเติมได้ที่ เกษตรตำบล.คอม
แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ : ฐานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
ภาพประกอบ : หมอยาข้างบ้าน
ตองหมองหรือไซหิน เป็นอาหารตามธรรมชาติให้กับสัตว์เลี้ยง เช่น โค กระบือได้มาแทะเล็มได้ดี