ตะโกนา ปลูกเป็นไม้ประดับ ทำไม้ดัด ผลสุกรับประทานได้

ตะโกนา

ชื่ออื่นๆ : โก (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) นมงัว (นครราชสีมา) มะโก (ภาคเหนือ) มะถ่านไฟผี (เชียงใหม่)
พญาช้างดำ

ต้นกำเนิด :

ชื่อสามัญ : Ebony

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Diospyros rhodocalyx Kurz

ชื่อวงศ์ : EBENACEAE

ลักษณะของตะโกนา

ต้น ไม้ยืนต้น อายุหลายปี สูงได้ถึง 15 เมตร เปลือกต้นสีน้ำตาลเข้มถึงดำ กิ่งมีขนสีน้ำตาลปกคลุม

ใบ ใบเดี่ยว เรียงสลับ รูปไข่กลับถึงรูปรี กว้าง 2.5-7 เซนติเมตร ยาว 3-12 เซนติเมตร ปลายมน โคนรูปลิ่ม มน หรือตัด ขอบเรียบถึงเป็นคลื่นเล็กน้อยตะโกนา ใบหนาคล้ายแผ่นหนัง ผิวเกลี้ยง ผิวใบด้านใต้มีขน ใบอ่อนสีเขียวอมน้ำตาล

ดอก  ดอกเพศผู้ออกเป็นช่อ กลีบดอก 4 กลีบ ยาว 8-12 มม. เชื่อมติดกันเป็นรูปโอ่งน้ำ ปลายแยกเป็นแฉกสั้น ๆ เกสรตัวผู้ 14-16 อัน ดอกเพศเมียเป็นดอกเดี่ยว กลีบดอก 4 กลีบ

ผล  ผลสีส้มแดง ทรงกลม ผิวมัน ผลสดรูปไข่ ขนาด 1.5-3 ซม. มีขนละเอียดและกลีบเลี้ยงยังคงติดอยู่ 4 กลีบ

ตะโกนา
ตะโกนา ใบหนาคล้ายแผ่นหนัง ผิวเกลี้ยง

การขยายพันธุ์ของตะโกนา

เพาะเมล็ด, ตอนกิ่ง พบกระจายจากพม่าจนถึงภูมิภาคอินโดจีน ในประเทศไทยพบทั่วทุกภาคตามป่าเบจพรรณแล้ง ป่าละเมาะและทุ่งนา

ธาตุอาหารหลักที่ตะโกนาต้องการ

ประโยชน์ของตะโกนา

  • ปลูกเป็นไม้ประดับ ทำไม้ดัด เนื้อไม้ แข็งแรง ใช้ทำเครื่องเรือน
  • ผลอ่อน ใช้ย้อมผ้า แห อวน
  • ผลสุก ใช้รับประทานได้ มีรสหวานอมฝาด
ผลตะโกนา
ผลตะโกนา ผลสีส้ม ทรงกลม ผิวมัน

สรรพคุณทางยาของตะโกนา

  • ราก แก้ไข้ บำรุงน้ำนม
  • ต้น แก้ไข้ บำรุงน้ำนม แก้ผื่นคัน
  • เปลือกต้น บำรุงธาตุ บำรุงกำลัง เป็นยาอายุวัฒนะ บำรุงความกำหนัด ขับระดูขาว แก้กามตายด้าน ขับปัสสาวะ รักษารำมะนาด แก้ปวดฟัน

คุณค่าทางโภชนาการของตะโกนา

การแปรรูปของตะโกนา

แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ : http://www.bedo.or.th/lcdb/biodiversity/view.aspx?id=10302&SystemType=BEDO
https://www.kasettambon.com

One Comment

Add a Comment