ต้นพญาสัตบรรณ ต้นตีนเป็ด ดอกมีกลิ่นหอมแรง

ต้นพญาสัตบรรณ ต้นตีนเป็ด

ชื่ออื่นๆ : ชบา, ตีนเป็ด, พญาสัตบรรณ (ภาคกลาง) ยางขาว (ลำปาง) หัสบรรณ (กาญจนบุรี) ตีนเป็ดดำ (นราธิวาส) บะซา, ปูลา, ปูแล (ปัตตานี)

ต้นกำเนิด : เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และพบได้ทุกภาคในประเทศไทย

ชื่อสามัญ : White Cheesewood

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Alstonia scholaris R. Br

ชื่อวงศ์ : APOCYNACEAE

ลักษณะของต้นพญาสัตบรรณ ต้นตีนเป็ด

ต้น เป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่มีความสูงประมาณ 12-20 เมตรผิวลำต้นมีสะเก็ดเล็กๆสีขาวปนน้ำตาลกรีดดูจะมียางสีขาว ลำต้นตรง แตกกิ่งก้านสาขามากลักษณะเป็นชั้นๆ

ใบ ใบออกเป็นกลุ่มบริเวณปลายกิ่งช่อหนึ่งมีใบประมาณ 5-7 ใบ ก้านใบสั้น ใบสีเขียวถ้าเด็ดก้านใบจะมียางสีขาวลักษณะใบยาวรีปลายใบมนโคนใบแหลมขนาดใบยาวประมาณ 10-12 เซนติเมตร

ดอก ออกดอกเป็นช่อตามปลายกิ่งหรือส่วนยอดของลำต้นดอกเป็นกลุ่มคล้ายดอกเข็ม ช่อหนึ่งจะมีกลุ่มดอกประมาณ กลุ่มดอกมีสีขาวอมเหลือง

ผล ผลเป็นฝักยาว  มีกลิ่นหอมแรง ลักษณะเป็นเส้นๆ มีขุยสีขาวคล้ายฝ้ายปลิวไปตามลมได้ ในฝักมีเมล็ดเล็กๆ ติดอยู่กับขุยนั้น

ต้นตีนเป็ด
ต้นตีนเป็ด ไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ แตกกิ่งก้านสาขามาก
ใบพญาสัตบรรณ
ใบพญาสัตบรรณ ใบสีเขียวถ้าเด็ดก้านใบจะมียางสีขาว

การขยายพันธุ์ของต้นพญาสัตบรรณ ต้นตีนเป็ด

การใช้เมล็ด

ธาตุอาหารหลักที่ต้นพญาสัตบรรณ ต้นตีนเป็ดต้องการ

ประโยชน์ของต้นพญาสัตบรรณ ต้นตีนเป็ด

  • พญาสัตบรรณเป็นพืชที่มีฤทธิ์ทางอัลลีโลพาที สารสกัดจากใบสามารถยับยั้งการเจริญของคะน้าได้
  • สารสกัดจากเปลือกลำต้นสามารถยับยั้งการเจริญของข้าว ข้าวโพด คะน้า ถั่วเขียวผิวดำ ถั่วเขียวผิวมันได้
  • พันธุ์ไม้มงคลพระราชทานประจำจังหวัดสมุทรสาคร โดยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถได้พระราชทานให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดของแต่ละจังหวัด เพื่อให้นำไปปลูกเป็นสิริมงคลแก่จังหวัดและเพื่อเป็นการรณรงค์ให้ประชาชนปลูกต้นไม้ใน “โครงการปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติ” เนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ 9 ทรงครบรอบปีที่ 50 ในการครองราชสมบัติ ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2537

สรรพคุณทางยาของต้นพญาสัตบรรณ ต้นตีนเป็ด

ในเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ใช้เปลือกต้นพญาสัตบรรณรักษาโรคบิด ลำไส้ติดเชื้อ และมาลาเรีย ใบใช้ในการรักษาโรคระบบทางเดินหายใจเรื้อรัง ในประเทศอินเดียมีการนำส่วนต่างๆ ของต้น พญาสัตบรรณมาใช้เป็นพืชสมุนไพรเช่นใช้เป็นยาสมุนไพรรักษาโรคมาลาเรีย ในชื่อ Ayush-64 ซึ่งมีขายตามท้องตลาด นำยางสีขาวและใบรักษาแผล แผลเปื่อย และอาการปวดข้อ นอกจากนี้ ต้นพญาสัตบรรณยังเป็นแหล่งของสารอัลคาลอยด์ที่สาคัญ ในบอร์เนียว นำเนื้อไม้ไปทำทุ่นของแหและอวน

นอกจากนี้ไม่ตีนเป็ดยังเป็นพืชสมุนไพรอีกด้วยส่วนต่าง ๆ ของต้นตีนเป็ดมีสรรพคุณทางยาได้แก่

  • เปลือก ใช้แก้ไข้ ขับระดู ขับพยาธิ ขับน้ำเหลืองเสีย ขับน้ำนมรักษามาเลเลีย แก้ท้องเสีย แก้บิด แก้ไอ รักษาเบาหวาน
  • Latex จากต้น อุดฟัน แก้ปวดฟัน แก้แผลอักเสบหยอดหูแก้ปวด
  • ใบอ่อนใช้ชงดื่ม รักษาโรคลักปิดลักเปิด แก้ไข้หวัด

ส่วนประกอบทางเคมี มีปริมาณสารละลายในแอลกอฮอล์ เบนซินร้อยละ 4.01

  • น้ำเย็นร้อยละ3.99
  • น้ำร้อนร้อยละ 5.55
  • โซเดียมไฮดร๊อกไซด์ 1%

ร้อยละ 13.99 มีปริมาณ

  • ขี้เถ้าร้อยละ1.24
  • เพ็นโตซานร้อยละ 13.15
  • ลิกนินร้อยละ 31.75
  • โฮโลเซลลูโลสร้อยละ 69.35
  • เซลลูโลส(ดร๊อซซ์และบีแวน) ร้อยละ 53.51
ดอกพญาสัตบรรณ
ดอกพญาสัตบรรณ ดอกมีสีขาวอมเหลือง

คุณค่าทางโภชนาการของต้นพญาสัตบรรณ ต้นตีนเป็ด

การแปรรูปของต้นพญาสัตบรรณ ต้นตีนเป็ด

แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ : http://www.bedo.or.th/lcdb/biodiversity/view.aspx?id=9864&SystemType=BEDO
www.satitm.chula.ac.th
www.th.wikipedia.org
www.dnp.go.th
www.flickr.com

3 Comments

Add a Comment