ต้นลิ้นกวาง ชื่อวิทยาศาสตร์ ทั้งต้นมีสรรพคุณทางยา

ลิ้นกวาง

ชื่ออื่นๆ : ลิ้นควาย (ลำปาง) หางกวาง (นครพนม) ค้อนหมาแดง (นครราชสีมา) หูกลวง (ปราจีนบุรี, ตราด) โคนมะเด็น (สุพรรณบุรี) คันทรง, ทองคันทรง (ชลบุรี) ค้อนตีหมา (ยะลา) พันทรง (นราธิวาส) ค้อนหมาขาว (ภาคกลาง) ยูลง, ลิดาซาปี (มลายู-ภาคใต้) กระม้า (เขมร-สระบุรี) ขุนม้า, ขุนมา (เขมร-สุรินทร์) ซินตะโกพลี (กะเหรี่ยง-ลำปาง) กะม้า และ ขุนนา (เขมร)

ต้นกำเนิด : ทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ชื่อสามัญ :

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Ancistrocladus tectorius (Lour.) Merr.

ชื่อวงศ์ :  ANCISTROCLADACEAE

ลักษณะของลิ้นกวาง

ต้น  ไม้เถาเลื้อยเนื้อแข็งขนาดใหญ่ ลำต้นขึ้นใหม่เป็นพุ่ม มักเลื้อยพาดพันไปตามต้นไม้อื่น สามารถเลื้อยไปได้ไกลถึง 15-20 เมตร ส่วนกิ่งก้านเล็กๆ มีตะเป็นมือ มีลักษณะเป็นข้อแข็งๆ สำหรับเป็นที่ยึดเกาะพันไม้อื่น เถาแก่เป็นสีน้ำตาล เถาแตกเป็นรอยตื้นตามยาว

ต้นลิ้นกวาง
ต้นลิ้นกวาง กิ่งก้านเล็ก เป็นข้อแข็ง

ใบ  ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเป็นกระจุกที่ปลายกิ่ง เรียงเวียนสลับ ลักษณะของใบเป็นรูปหอกกลับ รูปรี หรือรูปขอบขนานแกมรูปหอก ปลายใบแหลม โคนใบเรียวแหลมและค่อยๆ สอบเข้าหาก้านใบ ส่วนขอบใบเรียบหรือเป็นคลื่น ใบมีขนาดกว้างประมาณ 3.5-7 เซนติเมตร และยาวประมาณ 12-19 เซนติเมตร แผ่นใบแข็งกระด้าง มีเส้นใบเชื่อมกันก่อนถึงขอบใบ ยอดอ่อนเป็นสีแดงหรือสีเขียวอมขาวอ่อนๆ

ใบลิ้นกวาง
ใบลิ้นกวาง ใบเป็นรูปหอกกลับ รูปรี ปลายใบแหลม

ดอก  ออกดอกเป็นช่อกระจะที่ปลายยอด แต่ละดอกจะมีขนาดเล็ก ฐานดอกเป็นสีเขียว ส่วนกลีบดอกเป็นสีขาวอมแดงถึงสีแดงคล้ำ ส่วนโคนเป็นท่อสั้นๆ แยกออกเป็น 5 กลีบ ออกดอกในช่วงประมาณเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนมีนาคม

ดอกลิ้นกวาง
ดอกลิ้นกวาง ดอกจะมีขนาดเล็ก ฐานดอกเป็นสีเขียว ส่วนกลีบดอกเป็นสีขาวอมแดง

ผล ผลมีขนาดประมาณ 0.5 เซนติเมตร และมีปีกอยู่ 5 ปีก ซึ่งจะมีความยาวไม่เท่ากันรองรับ แบ่งเป็นอีกเล็ก 2 ปีก และปีกใหญ่ 3 ปีก เมื่อแก่จะแห้งเป็นสีน้ำตาล ออกผลในช่วงประมาณเดือนมีนาคมถึงเดือนเมษายน

ผลลิ้นกวาง
ผลลิ้นกวาง ปีกเล็ก 2 ปีก และปีกใหญ่ 3 ปีก เมื่อแก่จะแห้งเป็นสีน้ำตาล

การขยายพันธุ์ของลิ้นกวาง

การใช้เมล็ด

ธาตุอาหารหลักที่ลิ้นกวางต้องการ

ชอบดินค่อนข้างชื้นและดินอุดมสมบูรณ์พอเหมาะ อุ้มน้ำได้ดี ชอบแสงแดดรำไร

ประโยชน์ของอาศัยลิ้นกวาง

  • ใช้ทำเครื่องจักสานและเครื่องใช้สอยได้ดี
  • ใบอ่อนหรือยอดอ่อนสามารถใช้รับประทานเป็นผักสดจิ้มกับน้ำพริกรวมกับผักอื่นๆ โดยจะมีรสฝาดมัน

สรรพคุณของลิ้นกวาง

ส่วนที่นำมาใช้ประโยชน์ : ทั้งต้น, ราก, เถา และ ใบอ่อน

  • ทั้งต้น ยาแก้โรคกระษัย ไตพิการ และไข้ป่า
  • ราก ยารักษาโรคไข้จับสั่น  ยารักษาโรคบิด ยาแก้ปวดเมื่อย
  • เถา ยาขับพยาธิ
  • ใบอ่อนยาขับพยาธิ ยารักษาอาการบวมตามตัวและเม็ดผื่นคันตามผิวหนัง

วิธีการใช้ :                                     

  1. ยาแก้โรคกระษัย ไตพิการ และไข้ป่า นำทั้งต้นมาต้มกับน้ำ ดื่มรับประทาน
  2. ยารักษาโรคไข้จับสั่น  ยารักษาโรคบิด นำรากมาต้มกับน้ำ ดื่มรับประทาน
  3. ยาแก้ปวดเมื่อย นำรากลิ้นกวางใช้ผสมกับรากช้างน้าว นำมาต้มกับน้ำดื่มเป็นยาแก้ปวดเมื่อย
  4. ยาขับพยาธิ นำเถาและใบอ่อนนำมาต้มเคี่ยวให้น้ำเข้มข้น ใช้กินก่อนอาหารครั้งละครึ่งแก้วเป็นยาขับพยาธิ
  5. ยารักษาอาการบวมตามตัวและเม็ดผื่นคันตามผิวหนัง นำใบอ่อนนำมาต้มเอาน้ำอาบเป็นยารักษาอาการบวมตามตัวและเม็ดผื่นคันตามผิวหนัง

คุณค่าทางโภชนาการของลิ้นกวาง

การแปรรูปลิ้นกวาง

สามารถติดตามความรู้เเกี่ยวกับการเกษตร เพิ่มเติมได้ที่ เกษตรตำบล.คอม

แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ :  www.thaiherbal.org
ภาพประกอบ :  www.flickr.com

One Comment

Add a Comment