พุดตาน นิยมปลูกเป็นไม้ดอกไม้ประดับ

พุดตาน

ชื่ออื่นๆ : ดอกสามสี สามผิว Cotton rose, Changeable rose

ต้นกำเนิด : ประเทศจีน

ชื่อสามัญ : Confederate rose

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Hibiscus mutabilis Linn.

ชื่อวงศ์ : MALVACEAE

ลักษณะของพุดตาน

ต้น ไม้พุ่ม สูงประมาณ 5 เมตร ต้นและกิ่งมีขนสีเทา

ใบ ใบเดี่ยว ออกสลับ รูปไข่โคนรูปหัวใจ ปลายแหลม ขอบใบเว้าลึก มี 3- 5 แฉก ใบมีขนสาก ฐานใบกว้างโค้งคล้ายหัวใจ มีเส้นใบใหญ่ออกจากโคนใบ ขอบใบมีรอยยักตื้นๆ ผิวใบด้านบนและด้านล่างมีขนลักษณะดาว ก้านใบยาว 4-10 ซม.

ดอก ซ้อนใหญ่งามมาก แรกบานมีสีขาว แล้วเปลี่ยนเป็นสีชมพูและแดง ออกตามซอกใบและปลายกิ่ง มีริ้วประดับ 7- 10 อัน มีกลีบก่อนกลีบเลี้ยงเป็นเส้นปลายแหลม 8-10 เส้น ยาว 1.5-25 ซม. มีขน กลีบเลี้ยงมี 5 กลีบ ยาว 3-4 ซม. มีขน กลีบดอกใหญ่สวยงามมี 5 กลีบ บางครั้งอาจมีกลีบช้อนกัน 2 ชั้นก็ได้ ด้านนอกมีขน มีเกสรตัวผู้มาก ก้านเกสรตัวผู้รวมกันเป็นหลอดหุ้มรอบก้านเกสรตัวเมีย รังไข่มี 5 ห้อง ปลายก้านเกสรตัวเมียมี 5 เส้น ปลายเส้นมีแยกมาเป็นตุ้มกลม

ผล กลม ผลแก่แล้วแตกเป็น 5 กลีบ ยาวประมาณ 2.5 ซม. ภายนอกมีขนค่อนข้างยาว

เมล็ด รูปไต มีขน ออกดอกตลอดปี เป็นพุ่มไม้ สูง 2-5 เมตร มีขนสั้นๆ ลักษณะคล้ายดาวทั่วทั้งต้น

พุดตาน
มีขนปกคลุมตามกิ่งก้าน ใบและยอด ดอกสีชมพู

การขยายพันธุ์ของพุดตาน

ใช้กิ่ง/ลำต้น/การขยายพันธ์โดยการเพาะเมล็ด หรือการปักกิ่ง

ธาตุอาหารหลักที่พุดตานต้องการ

ประโยชน์ของพุดตาน

ปลูกเป็นไม้ประดับ ตามสถานที่ราชการหรือบ้านเรือน หรือตามสวนยาจีน เป็นต้น

ส่วนที่ใช้ : ใช้ดอก ใบ และราก
ดอก ให้เก็บดอกตอนเริ่มบานเต็มที่
ใบ จะเก็บตากแห้งหรือใช้สดก็ได้
ราก เก็บได้ตลอดปีจะตากแห้งหรือใช้สดก็ได้

สรรพคุณ
ใบ รสฉุน สุขุม แก้พิษ บวมเจ็บ แผลจากไฟหรือน้ำร้อนลวก ตาแดงบวม เจ็บ แผลเกิดจากหกล้มหรือถูกกระทบกระแทก
ดอก รสฉุน สุขุมแก้พิษบวม แผลไฟลวก แก้ไอ อาเจียนเป็นเลือด มีระดูขาว
ราก แก้ฝีบวม ฝีหัวแก่ ไอหอบ มีระดูขาว

วิธีและปริมาณที่ใช้
ใบ ใช้ใบแห้งหรือสด บดเป็นผง ถู เช็ดหรือผสมพอกปิดแผลบวกอักเสบ
ดอก ใช้ดอกแห้งหนัก 6-12 กรัม (หรือดอกสด 30-60) ต้มน้ำกิน
ใช้ทาภายนอกให้บดเป็นผงผสมทาหรือใช้สดตำพอก

ตำรับยา
1. แก้ผดผื่นคันที่เกิดจากความชื้น ใช้ก้านและใบสด ปริมาณพอสมควร ต้มเอาน้ำชะล้างบริเวณที่เป็น
2. แก้ปวดเมื่อยเอว ใช้รากสด 15-30 กรัม หั่นเป็นฝอย ใส่รวมกับกระดูกหางหมู ใส่น้ำและเหล้าอย่างละเท่าๆ กัน ปริมาณพอสมควร ตุ๋นกิน
3. แก้ฝีฝักบัว และแผลเน่าเปื่อยต่างๆ ใช้รากแห้ง 30 กรัม ต้มน้ำกิน
4. แก้แผลฟกซ้ำ เกิดจากการกระทบกระแทก ใช้รากสด 30 กรัม ใส่น้ำและเหล้าอย่างละเท่า ๆ กัน ปริมาณพอสมควรต้มกิน และใช้ก้านใบตำพอกบริเวณที่เป็นด้วย

นิยมปลูกเป็นไม้ดอกไม้ประดับออกดอกตลอดปี

ใบพุดตาน
ใบใหญ่สีเขียว โคนใบเป็นรูปหัวใจ

สรรพคุณทางยาของพุดตาน

ผลรายงานการวิจัย
การสกัดก้านและใบสด ใช้เป็นยาชาที่ผิวและยาชาเฉพาะที่ในการผ่าตัดใหญ่และเล็กในคนไข้ 100 ราย ผลการทดสอบเบื้องต้นได้ผลดี ไม่มีผลข้างเคียง ในระหว่างผ่าตัด และหลังผ่าตัด ความดันเลือด ชีพจร และการหายใจเป็นปกติ ไม่มีผลเสียต่อตับและไต หรือผลข้างเคียงอื่นๆ ไม่มีการตกเลือด บวมหรือทำให้เนื้อตาย ออกฤทธิ์ได้นาน
ในการผ่าตัดกระเพาะ 49 ราย ยกเว้น 2 ราย ไม่ปรากฏว่า มีอาการปวด แต่ยังมีข้อเสีย คือ กล้ามเนื้อหน้าท้องไม่คลายดีนัก ทำให้การผ่าตัดในส่วนลึกๆ ลำบาก ขนาดที่ใช้ในการผ่าตัดกระเพาะใช้ฉีดสารละลาย 12.5 เปอร์เซ็นต์ 150-200 มิลลิลิตร ฉีดที่ปากแผล และใช้สารละลาย 6.5 เปอร์เซ็นต์ 250-200 ซี.ซี. ฉีดที่ตัวอวัยวะ
ส่วนการผ่าตัดเล็ก ใช้เพียง 30-40 ซี.ซี. ตามความเหมาะสม จะออกฤทธิ์ชาหลังฉีด 10-20 นาที การผ่าตัดอาจทำได้นานที่สุด 3 ชั่วโมง
ในการผ่าตัดเล็กไม่ต้องให้ยาเตรียมก่อนผ่าตัด ส่วนการผ่าตัดกระเพาะเราใช้โซเดียมบาร์บิโทน 0.1 กรัม หรือยานอนหลับที่เหมาะสมอื่นๆ ฉีดเข้ากล้าม สำหรับคนไข้ที่ตื่นเต้นง่าย ระหว่างผ่าตัดก็ให้ยานอนหลับช่วยด้วยเช่นเดียวกับผ่าตัดทั่วๆ ไป
การใช้ทำให้ชาภายนอก ใช้เป็นยาทา ในการผ่าตัดต่อมทอนซิล 108 ราย ได้ผลดี ทายานี้แล้วไม่กี่นาที จะออกฤทธิ์ชา ทำให้รู้สึกปวดน้อยลง อาการชานี้ยู่ได้นานประมาณ 10 นาที

วิธีเตรียมยา
ใช้ก้านและใบสดหนัก 1 ชั่ง (550 กรัม) ล้างให้สะอาด บดให้ละเอียด แช่ในแอลกอฮอล์ 50 เปอร์เซ็นต์ 1,000 มิลลิลิตร นาน 24 ชั่วโมง รินกรองออกมาใช้ หรือละลายทำเป็นยาฉีด
น้ำสกัดจากรากบัว ใช้เป็นยาช่วยเร่งการคลอด ใช้รากและต้นแก้วหนัก 1 ชั่ง (550 กรัม) หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ใส่น้ำลงไปเคี่ยวให้น้ำแห้งเหลือเพียง 250-300 ซี.ซี. กรองเอามาใช้ โดยใช้ผ้าก๊อสที่ฆ่าเชื้อแล้ว จุ่มดูดยาไป 5-10 ซี.ซี. สอดเข้าที่ปากมดลูก ในคนไข้ 177 ราย ยอเว้น 4 ที่ตั้งครรภ์อ่อนๆ นอกนั้นได้ผลดี มีบางรายเท่านั้น ที่ต้องให้ยากระตุ้นช่วยในการคลอดอื่นอีก บางรายที่มีรกค้างอยู่ต้องช่วยลอกออกมา ผลข้างเคียงของยานี้มีอาการหนาวสั่น เป็นไข้ ปวดหัว ปวดเอว และท้องน้อย
ขนาดน้ำหนักของสมุนไพรที่ใช้นี้ แปลและคิดคำนวณมาจากของประเทศจีนที่บันทึกไว้ ซึ่งเป็นขนาดที่ใช้ในผู้ใหญ่โตเต็มที่ เมื่อเราจะใช้ก็ต้องดัดแปลงลดลงให้เหมาะกับ อายุ สุขภาพ และน้ำหนักของคนไข้ด้วย ต้องหมั่นคอยติดตามผล และดัดแปลงแก้ไขให้ถูกต้องเหมาะสมกับคนไข้แต่ละรายด้วย

คุณค่าทางโภชนาการของพุดตาน

การแปรรูปของพุดตาน

แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ : http://www.bedo.or.th/lcdb/biodiversity/view.aspx?id=11225&SystemType=BEDO
https://www.flickr.com

Add a Comment