ยางบง ประโยชน์ใช้ยางอุดรอยรั่ว

ยางบง

ชื่ออื่นๆ : ยางบง, ยางโบง (นครพนม, นครราชสีมา) บงปง, มง, หมี

ต้นกำเนิด : เป็นไม้ที่ขึ้นอยู่ในป่าดิบแล้ง ป่าเต็งรัง

ชื่อสามัญ :

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Persea kurzii Kosterm

ชื่อวงศ์ : LAURACEAE

ลักษณะของยางบง

ต้น ไม้ต้นขนาดเล็กถึงขนาดกลาง ไม่ผลัดใบ ความสูงประมาณ 10-15 เมตร เปลือกต้นเรียบ มีสีเทาแก่ ทรงต้นเป็นพุ่ม แตกกิ่งก้านมาก

ต้นยางบง
ต้นยางบง เปลือกต้นเรียบ มีสีเทาแก่ ทรงต้นเป็นพุ่ม

ใบ  มีขนาดกลางเป็นรูปไข่โคนเรียวปลายใบแหลม ผลิออกจากกิ่งสลับกัน เนื้อใบหนา แสดงลักษณะอุ้มน้ำมาก มีเส้นใบ 7-11 คู่

ใบยางบง
ใบยางบง ใบรูปไข่โคนเรียวปลายใบแหลม เนื้อใบหนา

ดอก  ดอกเป็นดอกช่อ ออกที่ปลายกิ่งผล ดอกมีขนาดเล็กสีเหลือง

ผล  ผลกลมเล็กคล้ายผลหว้า เมื่อสุกจะมีสีดำ มีเยื้อหุ้มผล เมล็ดมีเมล็ดเดี่ยว

ผลยางบง
ผลยางบง ผลกลมเล็ก ผลดิบดีเขียว เมื่อสุกเป็นสีดำ

การขยายพันธุ์ของยางบง

การเพาะเมล็ด, การตอนกิ่ง, การปักชํากิ่ง

พบขึ้นอยู่ในป่าดิบแล้ง ป่าเต็งรังเป็นไม้ที่ไม่ผลัดใบ มีมากในบางจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือโดยเฉพาะในแถบที่มีฝนตกชุกมากๆ จังหวัดมุกดาหาร นครพนม อุบลราชธานีและบางท้องที่ในภาคเหนือ

ธาตุอาหารหลักที่ยางบงต้องการ

ขึ้นได้ดีในทุกสภาพดิน ชอบความชื้นและแสงแดดปานกลาง

ประโยชน์ของยางบง

  • เนื้อไม้ใช้ในการทำเครื่องมือเครื่องใช้และใช้ทำเชื้อเพลิง ใช้ก่อสร้าง
  • เปลือกไม้ใช้ผสมทำธูป ผสมสารกำมะถันทำยากันยุง
  • ยางไม้ใช้อุดรอยรั่ว

สรรพคุณทางยาของยางบง

คุณค่าทางโภชนาการของยางบง

การแปรรูปของยางบง

แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ : www.forest.go.th

ภาพประกอบ : www.teaoilcenter.org, www.ecoforest.phsmun.go.th

เรียบเรียงข้อมูลโดย :  เกษตรตำบล.คอม

2 Comments

Add a Comment