วิธีตำน้ำพริกแมงดา น้ำพริกแมงดา วิธีทำ อาหารพื้นเมืองทางเหนือ

น้ำพริกแมงดา

น้ำพริกแมงดา เป็นน้ำพริกที่มีลักษณะค่อนข้างแห้งถึงข้น ชนิดของพริกที่นิยมใช้คือ พริกดิบ จะเป็นพริกชี้ฟ้า หรือพริกดิบพันธุ์ใดก็ได้ การทำน้ำพริกแมงดา หรือการตำน้ำพริกแมงดา ถ้าชอบเผ็ด ให้ใช้พริกชี้ฟ้า ส่วนผสมนี้ ถ้าเปลี่ยนเป็นต่อตัวอ่อน แตนตัวอ่อน ผึ้งตัวอ่อน ด้วง (หนอนไม้ไผ่ หรือด้วงยอดไผ่ หรือรถด่วน) ก็ใช้สูตรการทำเหมือนกัน และเรียกชื่อน้ำพริกว่า น้ำพริกต่อ น้ำพริกแตน น้ำพริกผึ้ง น้ำพริกด้วง แต่ส่วนผสมของน้ำพริกแมงดา ไม่ใส่กระเทียมเหมือนกับน้ำพริกอื่นๆ เนื่องจากมีกลิ่นฉุนมากเกินไป

แมงดานา จัดเป็นแมลงจำพวกมวนน้ำชนิดหนึ่ง มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Lethocerus indicus ลักษณะสำคัญของแมลงดาจะอยู่ที่หางยาวแหลมคล้ายเดือย ลักษณะเป็นเส้นเรียวยาว 2 เส้นคู่กัน ประกอบด้วยขนที่ละเอียดและไม่เปียกน้ำ ทำหน้าที่ในการหายใจโดยใช้รยางค์ที่โผล่ขึ้นมาจากผิวน้ำเพื่อดูดออกซิเจนสำหรับหายใจ แล้วนำไปเก็บในลำตัวทางปลายท่อ อวัยวะส่วนนี้จะมีต่อมกลิ่นหอมฉุนซึ่งจะมีเฉพาะในตัวผู้เท่านั้น ต่อมกลิ่นที่มีกลิ่นหอมนี้เป็นเอกลักษณ์ที่สำคัญของแมลงดาที่ดึงดูดให้ผู้คนบริโภค ตามธรรมชาติแล้ว ตัวผู้จะเป็นฝ่ายปล่อยกลิ่นนี้เพื่อดึงดูดตัวเมียและป้องกันตัว ขนาดลำตัวทั้งตัวผู้และตัวเมียจะมีขนาดใกล้เคียงกันคือ ลักษณะลำตัวยาวรีเหมือนใบไม้ ออกสีน้ำตาล ยาวประมาณ 2–4 นิ้ว แต่มีความแตกต่างกันคือ ตัวผู้มีลำตัวกลมป้อม และเล็กกว่าตัวเมียนิดหน่อย ส่วนตัวเมียมีลำตัวออกแบน ๆ ส่วนท้องใหญ่

น้ำพริกแมงดา
น้ำพริกแมงดาทำจากพริกหนุ่มย่าง

ส่วนผสม

  1. แมงดาย่างไฟ                       2        ตัว
  2. พริกหนุ่มย่างไฟ                    2        เม็ด
  3. หอมแดงย่างไฟ                    5        หัว
  4. เกลือ                                  1/2        ช้อนชา

วิธีทำน้ำพริกแมงดา

  1. นำแมงดามาย่างไฟให้สุก เด็ดปลายขาและปีก สับให้ละเอียด ใส่ถ้วย พักไว้ฟ

    ย่างแมงดา
    นำแมงดามาย่างไฟใ้ห้สุก
  2. โขลกเกลือ พริก และหอมแดง รวมกันให้ละเอียด

    โขลกพริก หอม
    โขลกพริก หอมแดง เกลือ รวมกัน
  3. ใส่แมงดา โขลกรวมกันให้ละเอียด

    ใส่แมงดา
    ใส่แมงดาที่ย่างไฟแล้วลงไป

เคล็ดลับในการปรุง/เลือกส่วนผสม

ใช้แมงดาตัวผู้ จะมีกลิ่นหอมกว่าตัวเมีย

สามารถติดตามความรู้เเกี่ยวกับการเกษตร เพิ่มเติมได้ที่ เกษตรตำบล.คอม

แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ : http://lannainfo.library.cmu.ac.th, www.th.wikipedia.org
ภาพประกอบ : www.rongkat.sungmennfe.go.th

2 Comments

Add a Comment