มะตาด ปลูกไว้ประดับบริเวณบ้านเพื่ออาศัยร่มเงา

มะตาด

ชื่ออื่นๆ : ส้มปรุ ส้านกวาง ส้านท่า ส้านป้าว ส้านปรุ ส้านใหญ่ (เชียงใหม่), แส้น (นครศรีธรรมราช, ตรัง),สั้นบักสั้นใหญ่ (อีสาน), แอปเปิ้ลมอญ, ส้านมะตาด, ไม้ส้านหลวง (ไทใหญ่),ตึครือเหมาะ (กะเหรี่ยงแดง), ลำส้าน(ลั้วะ), เปียวกับ (เมี่ยน)

ต้นกำเนิด : ประเทศอินเดีย คาบสมุทรมลายูไทย ลาว พม่า และอินโดจีน

ชื่อสามัญ : มะตาด Chulta, Chalta, Ouu, Elephant apple

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Dillenia indica L.

ชื่อวงศ์ : DILLENIACEAE

ลักษณะของมะตาด

ต้น มะตาดเป็น เป็นไม้พุ่มขนาดใหญ่หรือไม้ยืนต้นขนาดเล็กถึงขนาดกลางสูง 15 ม. สีของลำต้นและกิ่งก้าน เป็นสีน้ำตาล เนื้อไม้อ่อน

ใบ ออกตามกิ่ง มีสีเขียวเข้ม เส้นใบนูนเห็นได้ชัดเจน ขอบใบเป็นจักร ๆสวยงามมากขนาดของใบกว้าง 12 เซ็นติเมตรยาว 30-32 เซ็นติเมตร เป็นต้นไม้ที่ทนแล้งและน้ำท่วมไม่ตายจะ เริ่มผลัดใบในราวเดือนเมษายนและพฤษภาคม เมื่อใบ แก่ร่วงหล่นหมดแล้วใบอ่อนก็จะแตกขึ้น มาใหม่หลังจากนั้นอีกไม่นานในราวเดือน มิถุนายนหรือกรกฎาคม ก็จะเริ่มออกดอกผล

ดอก มะตาดจะเริ่มออกเป็นตุ่มที่ยอดแล้วโตขึ้น เรื่อยๆ ดูแล้วก็เหมือนผลมะตาดพอโตขนาดเท่า ผลส้มเขียวหวานขนาดใหญ่ ดอกที่เหมือนผลนี้ก็ จะบานออกกลีบเลี้ยงของดอกมี 5 กลีบยาว ประมาณ 6 เซ็นติเมตร หนา 1 เซ็นติเมตร สี ของกลีบเลี้ยงขอบกลีบขาวตรงสันกลีบสีเขียว เข้มภายในกลีบเลี้ยงจะมีกลีบดอกลักษณะบาง สีขาวสะอาดอีก 5 กลีบ ยาวประมาณ 8 เซ็นติ เมตรกลีบนี้รูปร่างคล้ายลิ้นสุนัขภายในดอก จะมีเกสรตัวผู้สีเหลืองคล้ายดอกบัวจำนวนมาก ล้อมรอบเกสรตัวเมียซึ่งอยู่ตรงกลาง มีสี ขาวเป็นตัวเมียแล้วกลีบดอกสีขาวก็จะ เหี่ยวร่วงโรยหลุดออก ต่างจากนั้นกลีบเลี้ยงซึ่ง มีลักษณะหนาก็จะเริ่มห่อเข้ามาใหม่เป็น

ผล กลมเหมือนเมื่อตอนดอกยังไม่บาน และเจริญ เติบโตขึ้นเรื่อยๆ เมื่อผลแก่เต็มที่จะมี ขนาดเท่าๆ กระท้อนห่อ สีเขียวจะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง มีกลิ่นหอม แล้วหล่นลงแตกเมล็ดภายในกระจาย ออกขึ้นเป็นต้นอ่อนต่อไป มะตาดจะให้ผล ปีละครั้ง
บางต้นดกมาก ออกผลแต่ละ ครั้งนับเป็นร้อย ๆ

ผล มะตาดมี 2 ชนิด
คือชนิดข้าวเหนียวกับชนิดข้าวเจ้า
ชนิดข้าวเหนียว เนื้อนิ่ม มีกากน้อย ผลมีสีเขียวจัดรส อร่อยกว่าชนิดข้าวเจ้า
ชนิดข้าวเจ้า เนื้อหยาบ กระด้าง มีเส้นกากมาก ผลสีเขียวอมเขียว

มะตาดเป็นไม้ที่ผลมียางเป็นเมือก คล้ายกระเจี๊ยบ มอญมีรสเปรี้ยว ยิ่งแก่ยิ่งเปรี้ยวจัด มะตาดปลูก ง่าย เจริญเติบโตเร็ว ไม่ต้องปฏิบัติดูแลรักษา เหมือนต้นไม้อื่น ศัตรูไม่รบกวน

ต้นมะตาด
ต้นมะตาด ลำต้นและกิ่งก้าน เป็นสีน้ำตาล

การขยายพันธุ์ของมะตาด

ใช้เมล็ด

ธาตุอาหารหลักที่มะตาดต้องการ

ประโยชน์ของมะตาด

ประโยชน์ของ มะตาด มีหลายอย่าง คือปลูกไว้เพื่ออาศัยร่มเงา ทำฟืน เพื่อประดับบริเวณบ้านให้สวยงาม เพราะใบ ดอก และผลมะตาด มีลักษณะสวยงามน่าดู นอก จากที่กล่าวนี้แล้ว ยังใช้ผลประกอบเป็นอาหาร ได้อีกด้วย โดยนำผลอ่อนมาแกงคั่ว ซึ่ง ชาวไทยรามัญ (มอญ) นิยมรับประทานผลมะตาด กันมาก เวลาแกงจะใส่กะทิหรือไม่ใส่กะทิ ก็มีรสอร่อยเหมือนกัน แล้วแต่คนชอบ ผลมะตาดนอกจากจะนำมาปรุงเป็นอาหารสำหรับ รับประทานแล้วยังเป็นยาป้องกันโรคกระเพาะได้ อีกด้วย เพราะเมือกที่ผลมะตาดมีลักษณะเป็นวุ้น เหนียวรื่น ๆ จะไปช่วยเคลือบแผลในกระเพาะ ไม่ให้เจ็บได้ดีเหมือนกับยางกระเจี๊ยบมอญเหมือน กัน และสะดวกในการขับถ่าย ถ่ายคล่องขึ้น ทำ ให้ท้องไม่ผูกฉะนั้นฤดูฝนนี้ จึงขอแนะ นำให้ลองหาต้นมะตาดมาปลูกกันดูบ้าง เพราะเป็นต้นไม้ที่ให้ประโยชน์หลายอย่างใบก็สวย งามอย่างประหลาดอีกด้วย

ผลมะตาด
ผลมะตาด ผลสีเขียวจะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง มีกลิ่นหอม

สรรพคุณทางยาของมะตาด

รากใช้เป็นยาถอนพิษจากแมลงกัดต่อย เปลือกและใบมีรสฝาดใช้เป็นยาสมานแผลได้ดี เมือกที่ผลมะตาดมีลักษณะเป็นวุ้น ช่วยเคลือบแผลในกระเพาะ ขับถ่ายสะดวก

คุณค่าทางโภชนาการของมะตาด

การแปรรูปของมะตาด

แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ : http://www.bedo.or.th/lcdb/biodiversity/view.aspx?id=11882&SystemType=BEDO
https://www.flickr.com

Add a Comment