สายบัว ก้านดอกและไหลใช้รับประทานได้

สายบัว

ชื่ออื่นๆ : บัวสายกิน, บัวกินสาย, สายบัว, บัวขม, บัวขี้แพะ, บัวแดง, บัวสายสีชมพู, บัวจงกลนี

ต้นกำเนิด :

ชื่อสามัญ : สายบัว

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Nymphaea lotus

ชื่อวงศ์ : NYMPHAEACEAE

ลักษณะของสายบัว

ต้น เป็นพืชน้ำชนิดหนึ่ง มีลำต้นใต้ดินเป็นหัว หรือเหง้า ลักษณะคล้ายหัวเผือก

ใบ ใบเดี่ยวแตกจากเหง้า ก้านใบยาว อ่อน ส่งใบขึ้นมาลอยบนผิวน้ำ แผ่นใบค่อนข้างกลม ผิวใบด้านบนเรียบเป็นมัน ด้านล่างมีขนละเอียด

ดอก ดอกเป็นดอกเดี่ยว ก้านดอกเหมือนก้านใบ ภายในมียางใสและท่ออากาศมาก

ผล ผลเรียกโตนดบัว รับประทานได้ มีแป้งมาก ก้านดอกเรียกสายบัว รับประทานได้

ดอกบัวสาย
พืชน้ำ ก้านอยู่ใต้น้ำ ดอกสีม่วง ก้านดอกอ่อนมีเปลือกลอกออกได้เป็นสายใย

การขยายพันธุ์ของสายบัว

ใช้เหง้า, ไหล, และเมล็ดบัว

ธาตุอาหารหลักที่สายบัวต้องการ

ประโยชน์ของสายบัว

ก้านดอกและไหลใช้รับประทานได้ โดยนำก้านดอกหรือใบมาลอกผิวหรือเปลือกที่หุ้มอยู่ออกแล้วเด็ดดอกและใบทิ้ง แล้วนำมาใช้รับประทานเป็นผักสดร่วมกับน้ำพริก หรือนำไปปรุงเป็นอาหาร เช่น การทำแกง ผัด แกงส้ม แกงกะทิ ฯลฯ

สรรพคุณทางยาของสายบัว

  • ช่วยบำรุงร่างกาย (หัว)
  • ช่วยบำรุงกำลัง (ดอก, เมล็ด)
  • ช่วยบำรุงธาตุในร่างกาย (หัว, เมล็ด)
  • ช่วยบำรุงหัวใจ ทำให้สดชื่น (ดอก, หัว)
  • ช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง (สายบัว)
  • ดอกช่วยแก้ไข้ตัวร้อน (ดอก)
  • ช่วยแก้อาการร้อนใน (ดอก)

คุณค่าทางโภชนาการของสายบัว

การแปรรูปของสายบัว

แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ : http://www.bedo.or.th/lcdb/biodiversity/view.aspx?id=10007&SystemType=BEDO
https://www.flickr.com

2 Comments

Add a Comment