องุ่น ผลไม้ลูกกลม รสหวาน

องุ่น

ชื่ออื่นๆ : เครืออีโกย, กุ่ย, เถาวัลย์ขน, ส้มกุ้ง, ตะเปียงจู, เถาเปรี้ยว

ต้นกำเนิด : ในเอเซีย

ชื่อสามัญ : Grape, Grape vine

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Vitis vinifera L.

ชื่อวงศ์ : VITACEAE

ลักษณะขององุ่น

ต้น องุ่นเป็นพืชยืนต้น มีลักษณะเป็นไม้พุ่มเลื้อย เนื้อแข็งและมีลำต้น กิ่งถาวรอายุเกิน 1 ฤดู ถ้าปล่อยให้เจริญเติบโตตามธรรมชาติจะเลื้อยเกาะกิ่งไม้

ใบ ใบกลมขอบหยักเว้าลึก 5 พู โคนใบเว้าเป็นรูปหัวใจ

ดอก ออกเป็นช่อแยกแขนง ดอกย่อยขนาดเล็กสีเขียวมีหมวก จะหลุดออกเมื่อดอกบานกลีบดอกเมื่อบานสีขาว โคนเชื่อมติดกัน ปลายแยก 5 กลีบ

ผล ผลเดี่ยวที่ออกเป็นพวง (เป็นผลเดี่ยวที่เกิดจากดอกช่อแต่ดอกไม่หลอมรวมกัน)  ผลย่อยรูปกลมรีและฉ่ำน้ำ มีผิวนวลเกาะและรสหวาน มีหลายสี เช่น สีเขียว ม่วง ม่วงแดง และม่วงดำ แล้วแต่พันธุ์ ในผลมีเมล็ดประมาณ 1-4 เมล็ด ให้ผลผลิตในช่วงเวลาที่ผลผลิตมีคุณภาพสูงคือ ในช่วงเดือนธันวาคมถึงมกราคม และเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม องุ่นสามารถตัดแต่งต้นให้มีผลผลิตได้ตลอดปี

ต้นองุ่น
ต้นองุ่น บกลมขอบหยักเว้าลึก 5 พู โคนใบเว้าเป็นรูปหัวใจ

การขยายพันธุ์ขององุ่น

องุ่นเป็นผลไม้ที่ต้องการ การเพาะปลูก และการดูแล ที่ถูกต้องเหมาะสม โดยเฉพาะปัญหาเรื่องดินเพื่อเพาะปลูก ภูมิอากาศ การให้น้ำ การใส่ปุ๋ย การกำจัดแมลงศัตรูพืช เช่น เชื้อรา แมลง และอื่นๆ

ขั้นตอนการปลูก

  1. เลือกสายพันธุ์ที่ต้องการจะปลูกให้เหมาะสม เช่น สภาพดิน พื้นที่ และอากาศของพื้นที่ปลูก
  2. นำเมล็ดองุ่นที่เลือกมาแล้วไปแช่น้ำ ถ้าจมน้ำแสดงว่าสามารถนำไปปลูกได้ จากนั้นนำเมล็ดองุ่นที่ได้ไปทำความสะอาด แล้วแช่น้ำกลั่นทิ้งไว้ประมาณ 24 ชั่วโมง
  3. นำทิชชู่ชุบน้ำ มอส หรือทรายใส่รองก้นถุงสูญญากาศ แล้ววางเมล็ดองุ่นลงไป คลุมเมล็ดด้วยทิชชู่ชุบน้ำ ทราย หรือมอสทับด้านบนอีกชั้น จากนั้นนำไปแช่ในตู้เย็นประมาณ 2–3 เดือน
  4. นำเมล็ดองุ่นลงปลูกในกระถางเพาะ โดยวางให้ห่างกันอย่างน้อย 3.5 ซ.ม. แล้ววางกระถางในบ้านและรอจนกระทั่งต้นอ่อนงอกขึ้นมา (ใช้เวลาประมาณ 2 – 8 สัปดาห์) หมั่นดูแล ไม่ให้ดินแห้งหรือชุ่มน้ำเกินไป รดน้ำโดยการฉีดน้ำจากขวดสเปรย์แทนการเทน้ำรดดินโดยตรง
  5. เมื่อต้นอ่อนมีความสูง 8 เซนติเมตร ให้ย้ายลงปลูกกระถางใหญ่ วางไว้ในที่ร่มจนกระทั่งลำต้นสูงประมาณ 30 ซ.ม. หรือมี 5 – 6 ใบ
  6.  ผสมดินร่วนปนทรายกับปุ๋ยหมักเพื่อนำไปทำแปลงปลูก แปลงควรอยู่ในพื้นที่ที่มีแดดส่อง เพราะต้นองุ่นต้องการแสงแดดวันละ 7-8 ชั่วโมงในการเจริญเติบโต
  7. นำต้นองุ่นลงปลูกแปลงใหญ่ เว้นระยะห่างระหว่างต้น 2.5 เมตร นำเสาไม้เล็กๆหรือไม้ไผ่ปักข้างต้นองุ่น ใช้เชือกผูกต้นองุ่นติดกับเสาเพื่อให้องุ่นเลื้อยขึ้นร้าน
  8.  เมือต้นแข็งแรง กิ่งมีสีน้ำตาล ใบแก่แล้ว ควรตัดกิ่งออกเพื่อให้กิ่งที่ออกมาใหม่ติดพวงดอก โดยก่อนตัดกิ่งต้องงดให้น้ำอย่างน้อย 7 วัน และตรวจ ทำลาย แมลงหรือศัตรูพืชด้วย
ผลองุ่น
ผลดิบมีสีเขียว เมื่อสุกจะมีสีม่วงเข้มและดำ

ธาตุอาหารหลักที่องุ่นต้องการ

ประโยชน์ขององุ่น

มีคุณค่าทางอาหารสูง ประโยชน์ ขององุ่น ถูกนำมาใช้ในหลายด้าน เช่น น้ำองุ่นสด ถูกนำมาใช้เพื่อบำรุงเส้นผมให้นุ่มสลวยเป็นประกายเงางาม เมื่อนำมาสระผมร่วมกับแชมพูปกติ หรือในแง่ของความงามบนใบหน้า ก็ทำได้ง่ายๆ ด้วยการนำผลองุ่นแดงทั้งผลปั่นรวมกับแตงกวาสดและน้ำผึ้งแท้ แล้วทาเพื่อกระชับรูขุมขน สร้างผิวที่เปล่งปลั่งชุ่มชื่นได้ดี แต่โดยส่วนใหญ่เราจะผลิตองุ่นออกมาเพื่อจำหน่ายเป็นผลสดหรือนำไปแปรรูปเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มมากกว่า เช่น นำมาผลิตเป็นไวน์หรือบรั่นดี หรือนำไปอบแห้งเป็นลูกเกด หรือกวนเป็นแยม เป็นต้น

สรรพคุณทางยาขององุ่น

สรรพคุณทางยาที่ดีหลายชนิด โดยสารอาหารที่สำคัญคือ น้ำตาล และสารอาหารจำพวกกรดอินทรีย์อีกหลายชนิด เช่น น้ำตาลกลูโคส น้ำตาลซูโคลส วิตามินซี เหล็ก และแคลเชียม นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยกรดเอลลาจิก ซึ่งเป็นสารฟลาโวยอยด์ช่วยในการต่อสู้กับมะเร็ง

คุณค่าทางโภชนาการขององุ่น

การแปรรูปขององุ่น

แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ : http://www.bedo.or.th/lcdb/biodiversity/view.aspx?id=10066&SystemType=BEDO
www.flickr.com

2 Comments

Add a Comment