แตงโม เป็นผลไม้ที่มีวิตามินและแร่ธาตุมากมาย

แตงโม

ชื่ออื่นๆ : แตงจีน (ตรัง) บะเต้า (ภาคเหนือ) บักโม (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) 

ต้นกำเนิด : ทวีปแอฟริกาในทะเลทรายคาลาฮารี

ชื่อสามัญ : Watermelon

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Citrullus lanatus

ชื่อวงศ์ : Cucurbitaceae

ลักษณะของแตงโม

ต้นแตงโม
ลำต้นเป็นเถาเลื้อย มีสีเขียว เถาสีเขียวอ่อน

ลำต้นแตงโม เป็นพืชล้มลุก มีอายุสั้นมี อายุเพียงปีเดียว หรือฤดูเดียว มีลำต้นเดี่ยว ลำต้นมีลักษณะกลมๆ ลำต้นเป็นเถาเลื้อย เถาแข็งและเหนียว เถาจะเลื้อยไปตามพื้นดิน มีสีเขียว มีขนอ่อนปกคลุม เถาสีเขียวอ่อน
รากแตงโม มีระบบรากแก้ว รากมีลักษณะกลมเล็กๆ จะมีรากฝอยๆ มีสีน้ำตาล
ใบแตงโม เป็นใบประกอบแบบฝ่ามือ ลักษณะใบจะรูปสามเหลี่ยมยาว ปลายใบแหลม ใบมีขนหยาบ
มีสีเขียว มีก้านใบรองรับ
ดอกแตงโม
-เป็นดอกเพศเมีย เป็นดอกเดี่ยว กลีบเลี้ยงสีเขียว กลีบดอกจะมีสีเหลือง ดอกตัวเมียมีลูกแตงโมเล็กๆ ติดมาด้วย
-ดอกตัวผู้ ดอกเป็นช่อ ออกตามซอกใบ ก้านช่อดอกจะยาว ดอกตัวผู้มีเกสรยื่นออกเล็กน้อย และไม่มีลูกเล็กๆ ติดที่โคนดอก
ผลแตงโม มีลักษณะทรงกลม หรือทรงกระบอก มีเปลือกแข็ง มีสีเขียวหรือสีเหลือง บางพันธุ์จะมีลวดลายบนเปลือก เมื่อสุกข้างในผล มีเนื้อสีแดงหรือสีเหลือง จะมีเมล็ดสีดำแทรกอยู่ มีรสชาติหวานเย็น ให้ผลผลิตดช่วงเดือนกุมภาพันธ์-เมษายน
เมล็ดแตงโม ภายในจะมีหลายเมล็ดในผล มีเมล็ดเรียงกันอยู่ เมล็ดมีลักษณะยาวรีๆ เมื่อดิบมีสีขาว เมื่อสุกจะค่อยๆ เปลี่ยนเมล็ดเป็นสีดำ

แตงโม
ใบจะรูปสามเหลี่ยมยาว ปลายใบแหลม

การขยายพันธุ์ของแตงโม

การใช้เมล็ด

แตงโมที่นิยมปลูกโดยทั่วไปมีอยู่ 3 สายพันธุ์คือ
1.พันธุ์ธรรมดา มีเมล็ดขนาดเล็ก มีรสชาติหวาน มีแบ่งย่อยได้อีกหลายพันธุ์
2.พันธุ์ไร้เมล็ด ไม่มีเมล็ดแก่สีดำภายใน เป็นพันธุ์ผสมผลิต เพื่อใช้ในการส่งออก
3.พันธุ์กินเมล็ด พันธุ์นี้มีเนื้อน้อย เมล็ดขนาดใหญ่ ปลูกเพื่อนำเมล็ดมาคั่ว

ธาตุอาหารหลักที่แตงโมต้องการ

ประโยชน์ของแตงโม

แตงโมเป็นผลไม้ที่มีวิตามินและแร่ธาตุอยู่ภายในมากมาย ได้แก่ คาร์โบไฮเดรตน้ำตาล เส้นใย โปรตีน วิตามินเอ วิตามินบีรวม วิตามินซี กรดโฟลิก แคลเซียม เหล็ก แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม และ สังกะสี แตงโมจัดเป็นพืชผลไม้ตระกูลเดียวกันกับ แคนตาลูป ฟักทอง และแตงกวา เนื้อของแตงโมมีน้ำเป็นส่วนประกอบหลักทำให้มีคุณสมบัติเย็น เมื่อทานแล้วให้ความรู้สึกหวานชื่นใจ ช่วยคลายร้อน จึงมักนิยมกินแตงโมกันในช่วงเวลาอากาศร้อนแตงโมมีสารชนิดหนึ่งคือสาร ซิทรูไลน์ (Citrulline) ซิทรูไลน์ (Citrulline) สารนี้มีประโยชน์สามารถช่วยขยายหลอดเลือดแดงภายในร่างกายได้ สารนี้จึงเป็นประโยชน์อย่างมากต่อคนเป็นโรคอ้วนและโรคเบาหวาน เพราะมีแคลลอรี่ต่ำมาก สามารถพบสารนี้ได้มากที่เปลือกของแตงโมดังนั้นการกินแตงโมให้ได้ประโยชน์มากที่สุด จึงควรทานเนื้อแตงโมกับเปลือกขาวๆ ด้วยเล็กน้อย แต่ก่อนทานต้องไม่ลืมล้างเปลือกให้สะอาดเสียก่อน เพื่อป้องกันสารพิษตกค้างที่บริเวณเปลือก

ผลแตงโมสีแดง
ผลทรงกลมมีเปลือกแข็ง ผลสุกเนื้อสีแดง มีเมล็ดสีดำ

สรรพคุณทางยาของแตงโม

1.ช่วยลดอาการไข้ คอแห้ง
2.บรรเทาแผลในปาก
3.เปลือกแตงโมนำไปต้มเดือด แล้วเติมน้ำตาลทราย ดื่มเพื่อป้องกันเจ็บคอ
4.ผลอ่อนใช้ทำอาหาร เช่น แกงส้ม
5.เนื้อผลมีเบตาแคโรทีน
6.เปลือกสีเขียวอ่อนหรือขาวนำไปทำไวน์
7.ใช้ทำเป็นทรีทเม้นท์บำรุงผิว ช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้แก่ผิว แก้ปัญหาผิวแห้งกร้าน
8.ช่วยดูดซับความมันบนใบหน้า และลดอาการแสบแดง
9.เป็นผลไม้ที่เหมาะกับผู้ต้องการลดความอ้วน
10.แตงโมมี “ไลโคปีน”ซึ่งเป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็งและโรคหัวใจ
11.นำไปแปรรูปเป็น แยมแตงโม เมล็ดแตงโม หรือทำเป็นสบู่แตงโม
12.ใช้รับประทานเป็นผลไม้สด ทำเป็นน้ำผลไม้ดื่มคลายร้อน ลดความร้อนในร่างกาย
แตงโมเนื้อสีเหลือง
แตงโมผลสุกเนื้อสีเหลือง

คุณค่าทางโภชนาการของแตงโม

แตงโม 100 กรัม ให้พลังงาน 38 แคลอรี่

การแปรรูปของแตงโม

แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ : http://www.bedo.or.th/lcdb/biodiversity/view.aspx?id=9702&SystemType=BEDO
https://primedetailing.ru/th
https://www.flickr.com

Add a Comment