จุลินทรีย์หน่อกล้วย

ความรู้วิชาการเกษตร หมวดนี้สำหรับรวบรวม ความรู้ทางการเกษตร ทุกรูปแบบ
Thawatchai
โพสต์: 23
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ 28 พ.ย. 2018 8:46 pm

จุลินทรีย์หน่อกล้วย

ข้อมูล โดย Thawatchai »

วิธีทำจุลินทรีย์หน่อกล้วย

การทำจุลินทรีย์หน่อกล้วย คือการนำหน่อกล้วยมาหมักให้ได้จุลินทรีย์ที่มีประโยชน์เพื่อนำมาใช้ใน
การเกษตร เพราะในดินที่มีต้นกล้วยขึ้นจะเป็นดินที่มีสภาพอุดมสมบูรณ์ มีจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ต่อพืช
ทั้งยังสามารถนำจุลินทรีย์มาปรับสภาพดินให้เหมาะต่อการเจริญเติบโตของพืช จะเห็นได้ว่าที่ใดมี
ต้นกล้วยขึ้น ดินบริเวณนั้นจะร่วนซุย โปร่ง อุดมสมบูรณ์ไปด้วยแร่ธาตุอาหารต่าง ๆเราจึงทำจุลินทรีย์
หน่อกล้วยซึ่งเป็นจุลินทรีย์ดีเติมกลับลงไปในดิน

ข้อแตกต่าง
จุลินทรีย์หน่อกล้วยต่างจากจุลินทรีย์อีเอ็มอย่างไร
-จุลินทรีย์หน่อกล้วย ได้จากการนำหน่อกล้วยมาหมัก
-จุลินทรีย์อีเอ็ม ได้จากการนำผักผลไม้มาหมัก เช่น เศษผักต่าง ๆ ฟักทอง สับปะรด
โดยจุลินทรีย์ทั้งสองชนิดนี้ก็มีประโยชน์คล้าย ๆ กัน คือเป็นจุลินทรีย์จากธรรมชาติ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
และมีการนำมาใช้ในการทำเกษตรอินทรีย์กันอย่างแพร่หลาย โดยสิ่งที่ต้องเตรียมคือ

วัตถุดิบหรือสิ่งที่ต้องเตรียม
n7.PNG
(212.09 KiB) ดาวน์โหลดแล้ว 137 ครั้ง
กล้วย 1 ต้น สูงประมาณ 1 เมตร (ขุดให้ได้ส่วนรากด้วย)
น้ำตาลทรายแดง 1 กิโลกรัม (น้ำตาลไม่ฟอกสี)
ยาคูลท์ 1 ขวดเล็ก (ถ้าไม่มีให้ใช้นมเปรี้ยวที่มีจุลินทรีย์แลคโตบาซิลลัส)
น้ำเปล่า 4-5 ลิตร

วิธีทำจุลินทรีย์หน่อกล้วย
1.นำต้นกล้วยมาสับออกเป็นชิ้น ๆแล้วนำมาใส่ถัง
n1.PNG
(305.58 KiB) ดาวน์โหลดแล้ว 137 ครั้ง
2.เติมน้ำตาลทรายแดงลงไป
n3.PNG
(361.32 KiB) ดาวน์โหลดแล้ว 137 ครั้ง
3.ใส่ยาคูลท์
n4.PNG
(350.5 KiB) ดาวน์โหลดแล้ว 137 ครั้ง
4.เติมน้ำประมาณ 4-5 ลิตร เอาพอปริ่ม ๆ
n5.PNG
(364.49 KiB) ดาวน์โหลดแล้ว 137 ครั้ง
5.ทำการหมัก 7 วัน ระหว่างที่หมักให้เปิดคนวันละ 1 ครั้ง
n6.PNG
(380.54 KiB) ดาวน์โหลดแล้ว 137 ครั้ง
6.ผ่านไปหนึ่งสัปดาห์กรองเอาเฉพาะน้ำ ส่วนเศษกล้วยสามารถนำไปทำปุ๋ยต่อได้
(สามารถหมักถึง 2 สัปดาห์แล้วค่อยกรอง เพื่อให้มีความเปื่อยมากยิ่งขึ้น)

วิธีใช้
นำจุลินทรีย์หน่อกล้วย 4 ช้อนโต๊ะ ผสมน้ำ 20 ลิตร นำไปฉีดพ้นต้นพืชทางใบและต้น หรือรดบริเวณโคนต้นไม้
เราสามารถนำจุลินทรีย์หน่อกล้วยมาหมักปุ๋ยเพื่อทำงานร่วมกับปุ๋ยชนิดต่าง ๆและช่วยย่อยสลายอินทรีย์วัตถุให้เร็วขึ้น

ย้อนกลับไปยัง “ความรู้วิชาการเกษตร”