หน้าร้่อนนี้อันตรายกว่าที่่คิด ทุเรียนเขา ขาดน้ำ Heat stress
โพสต์แล้ว: จันทร์ 16 ธ.ค. 2019 12:33 am
หน้าร้่อนนี้อันตรายกว่าที่่คิด ....เตรียมพร้อมด่วน
ปีนีสภาพอากาศมาแนวปีที่่แล้วคับ คือ หน้าหนาว แต่ ร้อนเปรี้ยงๆๆ กลางวันอากาศแห้งความชื้นสัมพัทธ์ต่ำตกเย็น หนาววูป สภาพน้ำตามลำห้วย คลอง
แห้งลงอย่างรวดเร็ว ประเมินได้เลยครับ ว่าจะเจออะไรอีก 2-3 เดือนข้างหน้า
มีนา เมษา นี้ แล้งหนัก และ ร้อนจัดแน่
[img]http://snap.mindphp.com/index.php?view= ... 66c6e4cdff[/img]
1 ระบบน้ำ
2 ระบบราก
3 สะสม Ca B
4 ที่่เหลือก็ว่ากันตามหน้างานครับ
ผลที่่จะเจอในช่วงนี้คือ
1 ทุเรียนหยุดโต ผลแตกได้ ถ้าน้ำไม่ถึง ในเขต จันทบุรี ระยอง ยังพอไหวครับมีน้ำบ้างแต่อย่าวางใจ แต่ ตราดแถวสอยดาวขาดน้ำแน่ ไม่แย่แต่ลำไย ทุเรียนจะแย่ด้วย
2 พืชตระกลูลแตงใบเกิดการฟอกสียอดเปลี่่ยนเป็นสีเหลือง
3 มะม่วงโชคอนันต์ จะเกิดอาการท้าวแสนปม ราคาตกตลาดไม่รับซื้อ
4 ไม้ผลใบเกิดอาการซันเบริน แล้ว จะซ้ำด้วยราน้ำค้าง
5 ทุเรียนเขา ที่่ออกช่วงนี้ เช่น อุตรดิตย์ น่าน จะมีอาการขาดน้ำ และ Heat stress ที่่ชัดเจนมาก
6 ร้อนจัดรากจะเริ่มร้อนตายอันนี้ หนักสุดครับ เป็น อาการหนักสุดของภาวะ heat stress แล้วจะกู้คืนยาก แม้นว่า จะผ่านพ้นสภาพ heat stress แล้ว กว่าจะ ดีก็ ปาไป 6 เดือน 8 เดือน
7 ส้มลูกแตกกลาง
8 ผักไฮโดโปนิค ไม่เจริญเติบโต เพราะ อุณหภูมิน้ำร้อนค่า dissolve oxygen ต่ำ พิชไม่มี ออกซิเจนเพียงพอที่่จะเผาพผลาญพลังงานมาใช้ ทำให้ไม่เจริญเติบโต
9 ถั่วฝักยาว แตงกวา ผลงอ ฝักงอ โค้ง มากกว่าปรกติขายไม่ได้ราคาตกเกรด หน่อไม้ฝรั่ง ยอดงอหงิก
10 มะชือ เมล่อน ก็ โรคก้นเน่า พริกก็โรกกุ้งแห้ง
และ อีกสาระพัด
ทางแก้ ตอนนี้ยังมีเวลา่ครับ
1 อย่างแรกเตรียม ระบบน้ำไว้ ให้พอ อย่างที่่ผมบอก เข้าหน้าแล้ง อย่าให้ แล้ง ชนร้อน คือ ถึงร้อนยังไง ให้ มีระบบน้ำหล่อเลี้ยงราก ไม่งั้นรากตายคราวนี้กู่ไม่กลับเลยครับ
2 ให้ธาตอาหารเสริืมการเจริญเติบโตของราก เช่น ปุ๋ย N ต่ำ PK สูง เช่น 8-24-24 8-16-24
3 ให้พืชสะสม Ca B ให้เพียงพอ เพราะเป็นตัวเสริมความแข็งแรงของผนังเซลล์ ความแข็งแรงของผนังเซลล์ กับ ระบบ ราก เป็น ด่านสำคัญสุดของพืชในการสู้กับ Heat stress และ Drought Stress หรือ ภาวะร้อนจัด แล้งจัด คับ
รอบนี้เรื่อง Heat stress และ drought Stress หรือ ภาวะร้อนจัด แล้งจัด ต้องว่ากันยาวเลยคับ ปีนี้หนักแน่ สวนไหน ใครเตรียมตัวดี ปีนี้ฟันราคา แต่ ใครเตรียมตัวไม่ดี แย่แน่ครับ
ที่มา: เพจ to ใส่ปุ๋ยให้ถูกพืชก็งาม by อ.ภพ Pobsak Panasrithong
ปีนีสภาพอากาศมาแนวปีที่่แล้วคับ คือ หน้าหนาว แต่ ร้อนเปรี้ยงๆๆ กลางวันอากาศแห้งความชื้นสัมพัทธ์ต่ำตกเย็น หนาววูป สภาพน้ำตามลำห้วย คลอง
แห้งลงอย่างรวดเร็ว ประเมินได้เลยครับ ว่าจะเจออะไรอีก 2-3 เดือนข้างหน้า
มีนา เมษา นี้ แล้งหนัก และ ร้อนจัดแน่
[img]http://snap.mindphp.com/index.php?view= ... 66c6e4cdff[/img]
1 ระบบน้ำ
2 ระบบราก
3 สะสม Ca B
4 ที่่เหลือก็ว่ากันตามหน้างานครับ
ผลที่่จะเจอในช่วงนี้คือ
1 ทุเรียนหยุดโต ผลแตกได้ ถ้าน้ำไม่ถึง ในเขต จันทบุรี ระยอง ยังพอไหวครับมีน้ำบ้างแต่อย่าวางใจ แต่ ตราดแถวสอยดาวขาดน้ำแน่ ไม่แย่แต่ลำไย ทุเรียนจะแย่ด้วย
2 พืชตระกลูลแตงใบเกิดการฟอกสียอดเปลี่่ยนเป็นสีเหลือง
3 มะม่วงโชคอนันต์ จะเกิดอาการท้าวแสนปม ราคาตกตลาดไม่รับซื้อ
4 ไม้ผลใบเกิดอาการซันเบริน แล้ว จะซ้ำด้วยราน้ำค้าง
5 ทุเรียนเขา ที่่ออกช่วงนี้ เช่น อุตรดิตย์ น่าน จะมีอาการขาดน้ำ และ Heat stress ที่่ชัดเจนมาก
6 ร้อนจัดรากจะเริ่มร้อนตายอันนี้ หนักสุดครับ เป็น อาการหนักสุดของภาวะ heat stress แล้วจะกู้คืนยาก แม้นว่า จะผ่านพ้นสภาพ heat stress แล้ว กว่าจะ ดีก็ ปาไป 6 เดือน 8 เดือน
7 ส้มลูกแตกกลาง
8 ผักไฮโดโปนิค ไม่เจริญเติบโต เพราะ อุณหภูมิน้ำร้อนค่า dissolve oxygen ต่ำ พิชไม่มี ออกซิเจนเพียงพอที่่จะเผาพผลาญพลังงานมาใช้ ทำให้ไม่เจริญเติบโต
9 ถั่วฝักยาว แตงกวา ผลงอ ฝักงอ โค้ง มากกว่าปรกติขายไม่ได้ราคาตกเกรด หน่อไม้ฝรั่ง ยอดงอหงิก
10 มะชือ เมล่อน ก็ โรคก้นเน่า พริกก็โรกกุ้งแห้ง
และ อีกสาระพัด
ทางแก้ ตอนนี้ยังมีเวลา่ครับ
1 อย่างแรกเตรียม ระบบน้ำไว้ ให้พอ อย่างที่่ผมบอก เข้าหน้าแล้ง อย่าให้ แล้ง ชนร้อน คือ ถึงร้อนยังไง ให้ มีระบบน้ำหล่อเลี้ยงราก ไม่งั้นรากตายคราวนี้กู่ไม่กลับเลยครับ
2 ให้ธาตอาหารเสริืมการเจริญเติบโตของราก เช่น ปุ๋ย N ต่ำ PK สูง เช่น 8-24-24 8-16-24
3 ให้พืชสะสม Ca B ให้เพียงพอ เพราะเป็นตัวเสริมความแข็งแรงของผนังเซลล์ ความแข็งแรงของผนังเซลล์ กับ ระบบ ราก เป็น ด่านสำคัญสุดของพืชในการสู้กับ Heat stress และ Drought Stress หรือ ภาวะร้อนจัด แล้งจัด คับ
รอบนี้เรื่อง Heat stress และ drought Stress หรือ ภาวะร้อนจัด แล้งจัด ต้องว่ากันยาวเลยคับ ปีนี้หนักแน่ สวนไหน ใครเตรียมตัวดี ปีนี้ฟันราคา แต่ ใครเตรียมตัวไม่ดี แย่แน่ครับ
ที่มา: เพจ to ใส่ปุ๋ยให้ถูกพืชก็งาม by อ.ภพ Pobsak Panasrithong