ยาแก้กะบังลมและมดลูกเคลื่อน ใช้รากต้นมะยม ทำยาสมุนไพร

แนะนำโรคและสมุรไพรแก้โรคต่างๆ เป็นข้อมูลที่ได้รวบรวมจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ไม่ควรใช้ติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน ทุกอย่างมีดีมีเสีย
1. ใช้ให้ถูกต้น สมุนไพรส่วนใหญ่มีชื่อพ้องหรือซ้ำกันมากแล้ว แต่ละท้องถิ่นก็อาจเรียกชื่อแตกต่างกัน ทั้งๆ ที่เป็นพืชชนิดเดียวกันหรือบางครั้งชื่อเหมือนกันแต่เป็นพืชคนละชนิด เพราะฉะนั้นจะใช้สมุนไพรอะไรก็ต้องใช้ให้ถูกต้นจริงๆ ดังเช่นกรณีของหญ้าปักกิ่งที่ยกตัวอย่างข้างต้นที่นำหญ้าชนิดอื่นมาขายคนที่ไม่รู้จัก
2. ใช้ถูกส่วน พืชสมุนไพรไม่ว่าราก ดอก ใบ เปลือก ผล หรือเมล็ด จะมีฤทธิ์ในการรักษาหรือบำบัดโรคไม่เท่ากัน แม้กระทั่งผลอ่อน หรือผลแก่ก็มีฤทธิ์แตกต่างกัน ดังนั้น การนำมาใช้ก็ต้องมีความรู้จริงๆ
3. ใช้ให้ถูกขนาด ธรรมชาติของยาสมุนไพร คือ หากใช้น้อยไป ก็จะรักษาไม่ได้ผล แต่ถ้าใช้มากไปก็อาจเกิดอันตรายต่อร่างกายได้ เช่นกัน
4. ใช้ให้ถูกวิธี สมุนไพรที่จะนำมาใช้ บางชนิดต้องใช้ต้นสด บางชนิดต้องผสมกับเหล้า บางชนิดใช้ต้มหรือชง ซึ่งหากใช้ไม่ถูกต้องก็ไม่เกิดผลในการรักษา
5.ใช้ให้ถูกโรค เช่น มีอาการท้องผูก ก็ต้องใช้สมุนไพรที่มีฤทธิ์เป็นยาระบาย ถ้าไปใช้สมุนไพรที่มีรสฝาด จะทำให้ท้องยิ่งผูกมากขึ้น
kafill
โพสต์: 458
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร 09 มี.ค. 2021 9:28 pm

ยาแก้กะบังลมและมดลูกเคลื่อน ใช้รากต้นมะยม ทำยาสมุนไพร

ข้อมูล โดย kafill »

ยาแก้กะบังลมและมดลูกเคลื่อน

รูปภาพ


ท่านให้เอา รากต้นมะยมตัวผู้ 1 รากต้นมะขามหวาน 1 รากต้นหนาด 1 (หรือใช้ใบขนุน แทนก็ได้) รากต้นส้มป่อย 1 แก่นแสมทะเล 1 ตัวยาทั้ง ๕ อย่างนี้ เอาหนักอย่างละ 1 ตำลึงเท่าๆกัน นำมาใส่หม้อดิน ต้มกับน้ำพอสมควร ใช้น้ำยารับประทานครั้งละ 1 ถ้วยแก้ว (ขนาดกลาง) เวลาก่อนอาหารเย็น วันละ 1 ครั้ง

สรรพคุณ

ทำให้มดลูก หรือกะบังลมที่เคลื่อนออกมา หลังจากการคลอดบุตรให้หดตัว ประมาณ 3-4 วันหายแล ข้อควรระวัง เมื่อรับประทานยาขนานนี้แล้ว ถ้าปรากฏว่า มีหนองหรือระดูขาวออกมามาก ให้เพิ่มหัวยาข้าวเย็นเหนือ 1 หัวยาข้าวเย็นใต้ 1 ตัวยาทั้ง 2 อย่างนี้ เอาหนักอย่างละ 4 บาทเท่ากัน ใส่เพิ่มในหม้อต้มยานั้น และเมื่อมดลูก หรือกะบังลมหดตัวแล้ว ให้หยุดรับประทานยานี้ทันที อย่ากินต่อจะเป็นอันตราย

ที่มา : ตำรายาแผนโบราณ
โดยหมอพร (กรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์)

ย้อนกลับไปยัง “ความรู้สมุนไพร ตำรายาแผนโบราณ”