มันแกว ไม้ล้มลุกลำต้นเลื้อย พืชตระกูลถั่ว พืชรับประทานหัว

มันแกว ไม้ล้มลุกลำต้นเลื้อย พืชตระกูลถั่ว พืชรับประทานหัว 

ชื่ออื่นๆ : มันแกว (กลาง) หัวแปะกัวะ (ใต้) มันแกวละแวก, มันแกวลาว (เหนือ) มันเพา (อีสาน) เครือเขาขน, หมากบัง (เพชรบูรณ์) ถั่วกินหัว, ถั่วบ้ง

ต้นกำเนิด : แถบอเมริกากลาง แอฟริกาตะวันออก และในประเทศแถบทวีปเอเชีย

ชื่อสามัญ : มันเทศ เร็ดสวีทโพเตโต [Red sweet potato

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Ipomoea batatus Lamk.

ชื่อวงศ์ : Convolvulaceae

ชื่อภาษาอังกฤษ : Jícama

มันแกว ไม้ล้มลุกลำต้นเลื้อย พืชตระกูลถั่ว พืชรับประทานหัว
มันแกว

ลักษณะของมันแกว

มันแกว  เป็นพืชตระกูลถั่ว มีชื่อทวินามว่า “Pachyrhizus erosus (L.) Urbar” ลักษณะต้นเป็นเถาเลื้อย หัวอวบใหญ่ โคนตันเนื้อแข็ง ใบประกอบด้วย 3 ใบย่อยมีจักใหญ่ ดอกมีสีขาวหรือชมพูเป็นช่อ เมล็ดมีสีเหลือง สีน้ำตาล หรือสีแดงลักษณะสี่เหลี่ยมจตุรัสแบน โดยต้นมันแกว 1 ต้นมีเพียงหัวเดียว ส่วนที่ใช้รับประทานคือส่วนของรากแก้ว ชาวเม็กซิโกชอบรับประทานมันแกวตั้งแต่สมัยอารยธรรมมายาและแอซเต็ก นิยมใช้เป็นอาหารว่าง ใส่น้ำมะนาว พริกผง และเกลือ

การขยายพันธุ์ของมันแกว

ใช้เมล็ด/นิยมใช้เมล็ด และการเก็บต้นพันธุ์ และการใช้หัวในการปลูก

ธาตุอาหารหลักที่มันแกวต้องการ

ประโยชน์ของมันแกว

มันเทศ เป็นพืชอาหารของมนุษย์และสัตว์ โดยใช้ทั้งหัว เถา ใบ และยอดอ่อน มาประกอบอาหารทั้งคาวและหวาน เช่น แกงเลียง แกงคั่ว มันเชื่อม มันเทศรังนก ทำไส้ขนมต่างๆ ในด้านอุตสาหกรรมมีการสกัดแป้งมันเทศเป็นส่วนผสมของอาหารเด็ก และกาว เป็นต้น นอกจากนี้มันเทศยังใช้เป็นอาหารสัตว์ได้หลายชนิด เช่น สุกร วัว ควาย กระต่าย เป็ด ไก่ และปลา เป็นต้น

สรรพคุณทางยาของมันแกว

สรรพคุณของมันเทศและวิธีใช้

  • มันเทศเป็นแหล่งพลังงาน และให้วิตามินบี 2 และโพเลทสูง รองลงมาจากผักใบเขียว มีสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีเยี่ยม ส่วนที่ใช้ประโยชน์ของ “มันเทศ” คือ หัว ต้นและใบ ซึ่งแต่ละส่วนจะให้สรรพคุณแตกต่างกันดังต่อไปนี้
  • หัวมันเทศ ปรุงอาหาร ชงน้ำดื่มแก้กระหายในผู้ป่วยที่มีไข้ตัวร้อน ช่วยบำรุงกระเพาะอาหาร บำรุงม้าม ไต แก้เมาคลื่น เป็นยาระบาย
  • น้ำคั้นจากหัวมันเทศใช้ทาแก้แผลไฟไหม้
  • ใบมันเทศ ตำพอกฝีร่วมกับเกลือและราก ต้มดื่ม แก้ไขข้ออักเสบ และใบตำพอกแก้สัตว์มีพิษกัด
  • ทั้งต้นและหัว มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา
    (ข้อมูลจากหนังสือผักพื้นบ้านภาคกลาง สถาบันการแพทย์แผนไทย กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข)

มันเทศ” มีคุณค่าทางโภชนาการคือ ประกอบด้วย คาร์โบไฮเดรต เส้นใย โปรตีน แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก วิตามินเอ(สูงมาก) วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 ไนอาซิน โพเลท วิตามินซี สารเริ่มต้นของสารแคโรทีน และเบต้าแคโรทีน
“มันเทศ” เป็นแหล่งคาร์โบไฮเดรตชั้นดีที่ให้พลังงานโดยไม่ก่อพิษต่อร่างกายแบบอาหารที่แปรรูปจากแป้งและน้ำตาลแบบอื่นๆ
หัวมันเทศชนิดหัวสีเหลืองแสดงว่าเป็นแหล่งเบต้าแคโรทีนชั้นเยี่ยมกินแล้วจะได้วิตามินเอ มันเทศจึงมีส่วนช่วยบำรุงสายตา เสริมสร้างระบบคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแกร่ง ลดความเสี่ยงต่อโรคต่างๆ ทั้งน้อย และใหญ่ รวมทั้งมะเร็ง
**ข้อควรระวัง ในยอดอ่อนของมันเทศ มีกรดไฮโดรไซยาไนด์ปริมาณสูง ไม่ควรนำมรับประทาน อาจทำให้เกิดอันตรายได้

ออกฤทธิ์ : ระคายเคืองต่อระบบทางเดินอาหาร

ส่วนที่เป็นพิษ : เมล็ด

สารพิษ : Routinone

อาการ : คลื่นไส้ อาเจียน ถ้าได้รับมาก จะกระตุ้นระบบหายใจ แล้วกดการหายใจ ชัก และอาจเสียชีวิต

วิธีการรักษา :

  1. รับประทานไข่ขาว เพื่อลดการดูดซึมสารพิษ
  2. นำส่งโรงพยาบาล เพื่อให้น้ำเหลือชดเชยการสูญเสียน้ำและเกลือแร่
  3. รักษาตามอาการต่างๆ เช่น ถ้าผู้ป่วยหยุดหายใจ ช็อค ต้องรีบช่วยให้ผู้ป่วย หายใจได้ด้วยตัวเอง หรือใส่เครื่องช่วยหายใจ ให้น้ำเกลือเพื่อรักษาความ สมดุลย์ของน้ำและเกลือแร่ในร่างกาย ให้ยาตาม ความเหมาะสมตามแพทย์ ที่ทำการรักษา

หมายเหตุ ยังไม่มีวิธีการเฉพาะสำหรับแก้พิษเมื่อมีการดูดซึมสารพิษเข้า สู่ร่างกาย

คุณค่าทางโภชนาการของมันแกว

คุณค่าทางอาหารของมันแกวนั้นประกอบด้วย

  • น้ำ 90.5%
  • โปรตีน 0.9%
  • คาร์โบไฮเดรต 7.6%
  • โดยรสหวานนั้นมาจาก oligofructose ซึ่ง inulin ในร่างกายของมนุษย์ ไม่สามารถเผาผลาญได้ ดังนั้นมันแกวจึงเหมาะสำหรับผู้เป็นโรคเบาหวาน หรือผู้ควบคุมน้ำหนัก

การแปรรูปของมันแกว

เกษตรตำบล ศูนย์รวมความรู้การเกษตร ปลูกได้ ขายเป็น เน้นเกษตรอินทรีย์ เทคโนโลยีเกษตร กับมันแกว

References : www.bedo.or.th , https://medplant.mahidol.ac.th

ภาพประกอบ : dict.meemodel.com

เรียบเรียงข้อมูลโดย :  เกษตรตำบล.คอม

2 Comments

Add a Comment