เพกา ประโยชน์ทางยาของส่วนต่างๆ

เพกา

ไม้ยืนต้นขนาดกลาง สูง 5-12 เมตร ตั้งตรงได้เอง ผิวลำต้นเรียบ สีของลำต้นเป็นสีเทา ใบเป็นใบประกอบแบบขนนก 3 ชั้น สีใบสีเขียวอ่อน ใบแก่สีเขียวแก่ แผ่นใบกว้าง 4-5 เซนติเมตร ยาว 16-18 เซนติเมตรปลายใบแหลม ดอกเป็นดอกช่อ ออกที่ปลายยอด สีของดอกเป็นสีเหลืองนวล หรือขาวอมเขียวกลีบเลี้ยง ติดกัน 5 กลีบ กลีบดอกติดกันจำนวน 5 กลีบสีเหลือง ผลแห้ง ผลแก่แล้วแตกผลอ่อนสีเขียว ผลแก่สีน้ำตาล รูปร่างแบนยาวเป็นฝัก เมล็ดมีเมล็ดจำนวนมาก รูปร่างแบนมีปีกสีขาวโปร่งแสง

เพกา
เพกา ฝักแบนยาวคล้ายดาบ

การขยายพันธุ์ของเพกา

การเพาะเมล็ด

ให้ต้นกล้าสูง 30-50 ซม. แล้วเตรียมหลุมกว้างและลึก 50-75 ตากดินทิ้งไว้ 10-15 วัน ใส่ปุ๋ยคอกกรองก้นหลุม นำต้นกล้าลงปลูก กลบดินให้แน่น รดน้ำให้ชุ่ม ควรปลูกในฤดูฝน

ประโยชน์ทางยาของเพกา

  • ใบ รสฝาด ใช้ต้มดื่มแก้อาการปวดท้อง แก้ปวดข้อ และเจริญอาหาร
  • เปลือกต้น รสฝาดขมเย็น เป็นยาฝาดสมานแผล ดับพิษโลหิต แก้น้ำเหลืองเสีย แก้ฟกช้ำ ป่นเป็นผงหรือยาชงดื่มแก้ขับเหงื่อ แก้ไขข้ออักเสบชนิดฉับพลัน ช่วยเจริญอาหาร ผงเปลือกผสมกับขมิ้นชันเป็นยาแก้โรคปวดหลังของม้า
  • ลำต้น รสขม แก้แมลงสัตว์กัดต่อย
  • ผลอ่อนหรือฝักอ่อน รสขมร้อน ขับผายลม เป็นยาบำรุงธาตุ
  • ผลแก่หรือฝักแก่ รสขม แก้ร้อนในกระหายน้ำ
  • เมล็ดแก่ รสขม เป็นยาอมแก้ไอ ขับเสมหะ แก้ร้อนใน
  • เปลือกราก รสฝาดขม แก้ปวดท้อง เป็นยาฝาดสมาน ยาบำรุง แก้บิด ท้องเสีย ขับเหงื่อ
  • ราก รสฝาดขม เป็นยาบำรุงธาตุ แก้ท้องร่วง ช่วยเจริญอาหาร ทำให้เกิดน้ำย่อยอาหาร ฝนกับน้ำปูนใสทาแก้อาการอักเสบ ฟกช้ำ บวม
  • ทั้งห้า (ผลแก่ ผลอ่อน เมล็ดแก่ เปลือกต้น ราก) รสฝาดขมเย็น เป็นยาสมาน แก้ไข้เพื่อลมและโลหิต แก้น้ำเหลืองเสีย แก้ท้องร่วง แก้อักเสบ ฟกบวม

สรรพคุณทางยาและวิธีการใช้

  • แก้ท้องร่วง : ใช้ราก เพกา ต้มกับน้ำ 3-4 แก้ว ต้มให้เหลือ 2 แก้ว ใช้ดื่ม
  • แก้ไอ ขับเสมหะ : ใช้เมล็ดแห้ง 1/2-3 กำมือ หนัก 1.5-3 กรัม ต้มกับน้ำ 1 ถ้วยแก้ว ใช้ไฟอ่อน ๆ เคี่ยวนาน 1 ชั่วโมง ดื่มแต่น้ำครั้งละ 1/3 แก้ว วันละ 3 ครั้ง
  • แก้แผลน้ำร้อนลวก : ใช้เปลือกเพกาฝนกับน้ำปูนใส ทาบริเวณที่โดนน้ำร้อนลวกเป็นประจำ
  • แก้ฝี ผดผื่นคัน : ใช้เปลือกสด ๆ ฝนกับน้ำปูนใสทาบริเวณที่เป็น หรือ ใช้เปลือกสดมาตำผสมเหล้าขาว พ่นบริเวณที่เป็น

คุณค่าทางโภชนาการของเพกา

ในยอดอ่อน 100 กรัม พบว่าให้พลังงาน 101 กิโลแคลอรี โปรตีน 6.4 กรัม ไขมัน 2.6 กรัม คาร์โบไฮเดรต 13.0 กรัม วิตามินบี1 0.18 มิลลิกรัม วิตามินบี2 0.69 มิลลิกรัมและวิตามินบี3 2.4 มิลลิกรัม นอกนั้นเป็นเถ้าและน้ำ

ฝักอ่อนเพกา100 กรัม มีวิตามินซีสูงมาก ถึง484 มิลลิกรัม วิตามินเอ 8.3 กรัม มีประโยชน์ช่วยป้องกันมิให้เซลล์ร่างกายแก่เร็วเกินไป ปกป้องอนุมูลอิสระมิให้เกิดขึ้นในร่างกาย อันเป็นผลทำให้เกิดเป็นโรคมะเร็งได้ หากรับประทานร่วมกับอาหารที่มีวิตามินอีสูง ๆ เช่น รำข้าวในข้าวกล้อง ช่วยเสริมฤทธิ์ในการป้องกันการเกิดอนุมูลอิสระในร่างกายได้อย่างสมบูรณ์อีกด้วย

แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ : http://www.bedo.or.th/lcdb/biodiversity/view.aspx?id=10320&SystemType=BEDO
http://pharmacy.su.ac.th
https://www.flickr.com

One Comment

Add a Comment