ผักเลียบ
ชื่ออื่นๆ : ผักฮี้ (ภาคเหนือ) ผักเลือด, ผักเลียบ (ภาคกลาง,ใต้) ผักเฮือด, ผักฮี้, ผักเฮือก
ต้นกำเนิด : พบในป่าผลัดใบผสมป่าโปร่ง ป่าแถบชายทะเล ป่าชายทุ่ง
ชื่อสามัญ :
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Ficus superba Miq. var. japonica Miq
ชื่อวงศ์ : MORACEAE
ลักษณะของผักเลียบ
ต้น เป็นไม้ยืนต้นประเภทมะเดื่อและไทรพัน ลำต้นสูง 5-15 เมตร ต้นที่อายุมาก จะแตกพุ่มใหญ่ มีปุ่มปม กิ่งก้านมาก จะแตกใบอ่อนช่วงปลายฤดูหนาว เข้าสู่ร้อน เดือนกุมภาพันธ์ มีนาคม ใบอ่อน ผลิยอดใบอ่อนสีชมพู หรือสีชมพูอมเขียว
ใบ ลักษณะคล้ายดอกจำปาตอนตูม กลมรียาวปลายแหลม มีปลอกบางๆ หุ้มเป็นกาบใบ มองดูใสโปร่งสวยงาม เด่นสะดุดตาน่าเชยชมไปทั่วทั้งกิ่งก้าน เมื่อยอดอ่อนใบอ่อนเจริญเป็นใบแก่สีเขียว เป็นใบเดี่ยวเรียงสลับ ใบแก่รูปรีหรือรูปไข่ขอบขนาน ปลายใบมน ขอบใบเรียว ผิวใบมัน กว้าง 5-8 เซนติเมตร ยาว 8-15 เซนติเมตร มีหูใบขนาดเล็กติดโคนใบนิดๆ ดอกออกเป็นช่อ ดอกเล็กเส้นผ่าศูนย์กลาง 0.4-0.6 เซนติเมตร ก้านดอกสั้น ดอกออกตามซอกใบ ผลอ่อนสีเขียว ขนาด 1-2 เซนติเมตร เมื่อแก่เปลี่ยนเป็นสีชมพูแดง ม่วง ม่วงอมดำ หรือดำ


การขยายพันธุ์ของผักเลียบ
การตอนกิ่ง และการปักชำกิ่ง
ธาตุอาหารหลักที่ผักเลียบต้องการ
เป็นพรรณไม้ที่ทนต่อความร้อนและแสงแดดได้ดีต้องการน้ำและความชื้น
ประโยชน์ของผักเลียบ
- ปลูกให้ร่มเงา
- ยอดอ่อนนำมาแกงใส่เนื้อหมู เนื้อวัว ปลาแห้ง กินเป็นผักสด หรือนึ่งกินกับน้ำพริก ลาบหมู หรือนำมายำ
สรรพคุณทางยาของผักเลียบ
- ใบขับพยาธิตัวกลม ขับฤดู ขับปัสสาวะ ไล่แมลง
- ดอกฆ่าเหา แก้โรคผิวหนัง
- ผล ทาแผลพุพองจากไฟไหม้หรือน้ำร้อนลวก
- เปลือกใช้เป็นยาทำให้อาเจียน
คุณค่าทางโภชนาการของผักเลียบ
การแปรรูปของผักเลียบ
แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ : http://www.bedo.or.th/lcdb/biodiversity/view.aspx?id=11562&SystemType=BEDO
www.flickr.com