ผักบุ้ง ผักช่วยบำรุงสายตา กินผักบุ้งแล้วตาหวาน
ชื่ออื่นๆ : –
ต้นกำเนิด : ทวีปเอเซีย
ชื่อสามัญ : ผักบุ้งนา
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Ipomcea aquatica Forsk.
ชื่อวงศ์ : CONVOLVULACEAE

ลักษณะของผักบุ้ง
ผักบุ้ง เป็นพรรณไม้เลื้อยชนิดหนึ่งที่มีเนื้ออ่อน ลำต้นจะกลวงและเป็นปล้อง ๆ มีสีเขียว จะเลื้อยขึ้นแผ่ตามหน้าน้ำ หรือในที่ลุ่ม ตามพื้นที่มีความชื้น และแฉะ ใบมีสีเขียวเข้ม ลักษณะของใบจะเป็นรูปสามเหลี่ยมมุมแหลม จะออกเป็นใบเดี่ยวสลับทางกันตามข้อต้น ใบยาวประมาณ 2-3 นิ้วลักษณะของดอกเป็นรูประฆังเล็ก มีสีม่วงอ่อน ๆ หรือสีชมพู ดอกจะบานเต็มที่ประมาณ 2 นิ้วดอกจะดกในฤดูแล้ง
การขยายพันธุ์ของผักบุ้ง
ใช้หัว/เหง้า/หน่อ/แยกเหง้าปลูกได้เลย
ธาตุอาหารหลักที่ผักบุ้งต้องการ
–
ประโยชน์ของผักบุ้ง
นำมาทำอาหาร/เลี้ยงสุกร

สรรพคุณทางยาของผักบุ้ง
ผักบุ้งช่วยบำรุงสายตา ไม่ทำให้ปวดตา สายตาสั้น แสบตา หรือตาแห้ง เป็นเพราะผักบุ้งมีสารที่สามารถเปลี่ยนไปเป็นวิตามิน A ที่เรียกว่า เบต้า-แคโรทีนเยอะมาก แล้ววิตามิน A นี้เองเป็นสารที่ช่วยบำรุงสายตา และยังช่วยให้ดวงตามีน้ำหล่อเลี้ยงให้ตาเป็นประกาย ไม่แสบ ไม่แห้ง ผักบุ้งมิใช่มีแต่วิตามิน A เท่านั้น วิตามิน C ก็มีไม่น้อยเหมือนกัน แต่ถ้าอยากได้วิตามิน C จากผักบุ้ง ก็ต้องกินผักบุ้งดิบ ทั้งวิตามิน A และวิตามิน C รวมถึงเบต้า-แคโรทีน เป็นวิตามินที่ช่วยป้องกันมะเร็งได้ด้วย นอกจากวิตามินแล้ว ผักบุ้งยังมีเกลือแร่ มีธาตุเหล็กที่ช่วยบำรุงเลือด อีกทั้งแคลเซียม และฟอสฟอรัสที่ช่วยบำรุงกระดูกและฝัน เป็นต้น ผักบุ้งยังช่วยในการขับถ่ายอีกด้วย เพราะผักบุ้งมีใยอาหาร เรียกได้ว่าประโยชน์ของผักบุ้งมีมากมาย และเหมาะกับคนทุกวัย แต่ใช่ว่าผักบุ้งจะรับประทานเป็นอาหารได้เพียงอย่างเดียว ยังสามารถรับประทานเป็นยาได้ด้วย ในผักบุ้งมีสารชนิดหนึ่งที่มีโครงสร้างคล้ายอินซูลินที่สามารถลดน้ำตาลในกระแสเลือดสำหรับคนเป็นโรคเบาหวาน และผักบุ้งเป็นผักที่มีฤทธิ์เย็นจึงช่วยบรรเทาอาการร้อนในได้ (แต่ไม่ควรทานผักบุ้งผัดน้ำมัน เพราะเวลาร้อนในควรจะเลี่ยงอาหารมันๆ) ควรทานผักบุ้งลวกจะดีกว่า แต่ในทางกลับกัน ถ้าทานผักบุ้งมากเกินไปก็จะทำให้ปวดเมื่อยขา และเข่าได้เหมือนกัน ผักบุ้งที่ทานกันอยู่มี 2 ประเภท คือ ผักบุ้งไทย และผักบุ้งจีน ผักบุ้งไทยจะมีสรรพคุณทางยามากกว่าผักบุ้งอื่น แต่สำหรับผักบุ้งจีนจะมีแคลเซี่ยม และเบต้า-แคโรทีน มากกว่าผักบุ้งอื่น
คุณค่าทางโภชนาการของผักบุ้ง
- คุณค่าทางโภชนาการของผักบุ้งต่อ 100 กรัม
- พลังงาน 19 กิโลแคลอรี่
- คาร์โบไฮเดรต 3.14 กรัม
- เส้นใย 2.1 กรัม
- ไขมัน 0.2 กรัม
- โปรตีน 2.6 กรัม
- วิตามินเอ 315 ไมโครกรัม 39%
- วิตามินบี1 0.03 มิลลิกรัม 3%
- วิตามินบี2 0.1 มิลลิกรัม 8%
- วิตามินบี3 0.9 มิลลิกรัม 6%
- วิตามินบี5 0.141 มิลลิกรัม 3%
- วิตามินบี6 0.096 มิลลิกรัม 7%
- วิตามินบี9 57 ไมโครกรัม 14%
- วิตามินซี 55 มิลลิกรัม 66%
- ธาตุแคลเซียม 77 มิลลิกรัม 8%
- ธาตุเหล็ก 1.67 มิลลิกรัม 13%
- ธาตุแมกนีเซียม 71 มิลลิกรัม 20%
- ธาตุแมงกานีส 0.16 มิลลิกรัม 8%
- ธาตุฟอสฟอรัส 39 มิลลิกรัม 6%
- ธาตุโพแทสเซียม 312 มิลลิกรัม 7%
- ธาตุโซเดียม 113 มิลลิกรัม 8%
- ธาตุสังกะสี 0.18 มิลลิกรัม 2%
การแปรรูปของผักบุ้ง
ผักบุ้งสามารถนำมาแปรรูปเป็นเมนูอาหารได้หลากหลาย เช่น ผัดผักบุ้งไฟแดง, แกงเทโพ, ผักบุ้งผัดน้ำมันหอย เป็นต้น
References : www.bedo.or.th
รูปภาพจาก : upload.wikimedia.org, www.aliexpress.com
เรียบเรียงข้อมูลโดย : เกษตรตำบล.คอม
4 Comments