ราชดัด
ชื่ออื่นๆ : ดีคน , บีคน (อีสาน) มะดีควาย, มะขี้เหา, เท้ายายม่อมน้อย, กาจับหลัก (เชียงใหม่) พญาดาบหัก (ตราด) สอยดาว (จันทบุรี) กะดัด, ฉะดัด (ใต้) มะลาคา (ปัตตานี) เพี้ยฟาน (โคราช) โค้วเซียมจี้ (จีน)
ต้นกำเนิด :
ชื่อสามัญ : ราชดัด
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Bruceajavanica (L.) Merr.
ชื่อวงศ์ : SIMAROUBACEAE
ลักษณะของราชดัด
ต้น ไม้พุ่มหรือไม้ยืนต้นขนาดเล็ก สูง 0.5-4 เมตร เปลือกลำต้นเรียบ สีขาวปนเทา มีขนสีเหลืองปกคลุมหนาแน่น
ใบ เป็นใบประกอบ ใบย่อยออกแบบขนนก ขอบใบหยักแบบซี่ฟัน ตรงปลายใบจะแหลม ใบจะเป็นสีเขียวเข้ม
ดอก จะออกเป็นช่อเล็ก ๆ เป็นสีแดง มักจะออกตามง่ามกิ่งส่วนดอกตัวผู้ และดอกตัวเมีย จะอยู่คนละดอกในช่อดอกเดียวกัน หรืออาจเป็นช่อดอกตัวผู้ทั้งต้น
ผล จะเป็นรูปไข่ ถ้าผลยังไม่แก่จัดจะเป็นสีเขียว ถ้าแก่จะเป็นสีดำ เรียบไม่เป็นขรุขระ และมีลักษณะคล้ายเมล็ดมะละกอแห้ง ส่วนเมล็ดในจะเป็นสีขาว และมีรสขมจัด


การขยายพันธุ์ของราชดัด
ใช้เมล็ด
ธาตุอาหารหลักที่ราชดัดต้องการ
ประโยชน์ของราชดัด
สรรพคุณทางยาของราชดัด
- ทั้งต้น เมล็ด แก้บิด
- ใบ ตำพอกรักษาขี้กลาก ฝี
- เมล็ดในของผลแก่ ใช้เป็นยาขับพยาธิ แก้บิดบำรุงธาตุ แก้ไข้มาลาเลีย สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย ได้ทำการสกัดสารแสดงฤทธิ์ R-PAS ฆ่าเชื้อบิดมีตัว(บิดอมิบิค)ได้ ราก-รสขม ต้มดื่ม แก้ไข้ แก้บิดแก้เสียดท้อง แก้ปวดกล้ามเนื้อ เคี้ยวอม แก้ไอ
- ผล ใช้รักษาอาการปวดท้อง เมล็ด ใช้เป็นยาบำบัดโรคเกี่ยวกับลำไส้ ใช้เตรียมเป็นยาคุมธาตุ บำรุงธาตุ รักษาโรคบิดไม่มีตัว รักษาโรคพยาธิ หรือใช้ทั้งต้นและเมล็ด เป็นยารักษาโรคไข้มาเลเรีย
ในเมล็ดนั้น พบว่ามีสารอัลคาลอยด์ Brucamarine และ 20% ของ fatty
คุณค่าทางโภชนาการของราชดัด
การแปรรูปของราชดัด
แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ : http://www.bedo.or.th/lcdb/biodiversity/view.aspx?id=9197&SystemType=BEDO
https://www.flickr.com
One Comment