กระทกรก ยอดเป็นผักสด มีรสขมเล็กน้อย ผลกินเมล็ดและเยื่อหุ้มเมล็ด

กระทกรก

ชื่ออื่นๆ : รก, กระโปรงทอง, ละพุบาบี, หญ้ารกช้าง (ใต้) ตำลึงฝรั่ง

ต้นกำเนิด : การแพร่กระจายขึ้นอยู่ตามที่รกร้างหรือขอบไร่ชายนา โดยเลื้อยพันกิ่งต้นไม้อื่น ๆ

ชื่อสามัญ : Fetid passionflower, Scarletfruit passionflower, Stinking passionflower

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Passiflora foetida

ชื่อวงศ์ : Passifloraceae

ลักษณะของกระทกรก

ต้น  เป็นไม้เถาเลื้อยคล้ายตำลึง เถาค่อนข้างคดไปงอมา เถามีหนามเล็ก ๆ ขึ้นอยู่ห่าง ๆ โดยทั่วไป

ใบ  เป็นใบเดี่ยว รูปใบมนโค้งผิวเรียบปลายใบแหลมโดยแยกเป็นสามแฉก ใบและเส้นใบบริเวณที่ติดต่อกันมีสีแดงเรื่อ บริเวณใกล้โคนก้านใบมีแฉกแหลมเล็กเรียงตรงกันข้ามสลับกัน ก้านใบ มีขนาดก้านไม้ขีด ยาว 5 –6 เซนติเมตร มีขนอ่อนเป็นฝอยขนาดเล็ก

ดอก  มีลักษณะก้านดอกยาวกว่าใบ ดอกบานออกกลมกว้าง กลีบดอกสีขาวแซมด้วยริ้วสีม่วง

ผล  ผลค่อนข้างกลมขนาดปลายนิ้วมือ และห่อหุ้มด้วย “รก” ผลสุกมีสีเหลือง

ต้นกะทกรก
ต้นกะทกรก ลำต้นมีริ้วและขนสั้นนุ่มกระจาย

การขยายพันธุ์ของกระทกรก

ใช้เมล็ด/ขยายพันธุ์โดยการใช้เมล็ด

ธาตุอาหารหลักที่กระทกรกต้องการ

ประโยชน์ของกระทกรก

  • ยอด ใช้เป็นผักสด มีรสขมเล็กน้อย หรือลวกจิ้มกับน้ำพริกและใช้แกงเลียง
  • ผล ใช้กินเมล็ดและเยื่อหุ้มเมล็ด
ผลกะทกรก
ผลกะทกรก ผลค่อนข้างกลม และห่อหุ้มด้วยรก ผลดิบสีเขียว

สรรพคุณทางยาของกระทกรก

  • เนื้อไม้ ใช้เป็นยาควบคุมธาตุ ถอนพิษเบื่อเมาทุกชนิดและใช้รักษาบาดแผล
  • ราก ใช้ต้มน้ำดื่มแก้ไข แก้กามโรค
  • ใบ ใช้ตำให้ละเอียดแล้วคั้นเอาน้ำดื่มเป็นยาเบื่อและขับพยาธิ
  • ดอก ขับเสมหะ แก้ไอ
  • ผล แก้ปวด บำรุงปอด
  • ใบสด ใช้พอกแก้สิว ต้น ใช้ขับปัสสาวะ ขับเสมหะ แก้ไอ และอาการบวม

คุณค่าทางโภชนาการของกระทกรก

การแปรรูปของกระทกรก

แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ : http://www.bedo.or.th/lcdb/biodiversity/view.aspx?id=10734&SystemType=BEDO
www.flickr.com

Add a Comment