ผักเหมียง ผักเหลียง หรือชื่ออื่นๆ เรียกว่า เขลียง,เหลียง, เรียนแก่ (นครศรีธรรมราช) ผักกะเหรี่ยง (ชุมพร) ผักเมี่ยง, เหมียง (พังงา) เนื้อใบบางแต่เหนียวคล้ายแผ่นหนังใบมีสีเขียวเป็นมัน ยอดใบอ่อนมีรสชาติหวานมัน รับประทานได้ทั้งดิบและสุก ผลจะมีลักษณะเป็นรูปกระสวย ผลอ่อนมีเปลือกสีเขียว เมื่อแก่จัดเปลือกและเนื้อจะมีสีเหลือง เนื้อมีรสหวาน
โดยธรรมชาติผักเหมียงเป็นพันธุ์ไม้ป่า เจริญเติบโตได้ดีภายใต้ร่มเงาของต้นไม้ พบได้ทั้งบริเวณเนินเขาและที่ราบในความสูงจากระดับน้ำทะเล 2 – 500 เมตร หรือสูงกว่านั้น ในบริเวณที่มีดินร่วนซุยและมีความอุดมสมบูรณ์สูง มีต้นไม้ปกคลุมให้ร่มเงาเพียงพอ ฝนตกชุกคือมีปริมาณน้ำฝนไม่น้อยกว่า 300 มิลลิเมตรต่อปี ระยะเวลาฝนตกไม่น้อยกว่า 150 วันต่อปีและฝนแล้งติดต่อกันไม่เกิน 45 วัน
การปลูกผักเหมียง
ผักเหมียงควรปลูกในที่ร่ม มีดินร่วนซุย มีความอุดมสมบูรณ์สูง และมีฝนตกชุกและต่อเนื่อง ในปัจจุบันมีการปลูกผักเหมียงมากขึ้น โดยการปลูกแซมสวนยางพารา สวนมะพร้าว และสวนสมรม การปลูกผักเหมียงเพื่อการบริโภคนั้น มักจะตัดต้น ไม่ให้สูงเกินมือเอื้อมถึง
![ผักเหมียง ผักเหลียง ผักพื้นบ้านในภาคใต้ นิยมปลูกแซมในสวนยางพารา](https://www.kasettambon.com/wp-content/uploads/2016/08/ต้นผักเหมียง.png)
การขยายพันธุ์ผักเหมียง
สามารถขยายพันธุ์ได้หลายวิธีคือ การเพาะเมล็ด ตอนกิ่ง และการใช้ต้นจากราก แขนง
- การเพาะเมล็ดผักเหลียง
นำเมล็ดมาล้างให้สะอาด แล้วนำไปเพาะบนกระบะที่มีส่วนผสมของดินทรายกับขี้เถ้าแกลบ กลบให้วัสดุเพาะเสมอเมล็ด รดน้ำให้ชุ่มอยู่เสมอ เมล็ดจะเริ่มงอกประมาณเดือนที่ 4 จนถึง 1 ปี ต้นที่ได้จากการเพาะเมล็ดจะมีอัตราการรอดสูง ทรงพุ่มสวย ทนแล้งได้ดี แต่อายุการเก็บเกี่ยวต้องใช้เวลาประมาณ 2 ปี - การตอนกิ่งผักเหลียง
การตอนกิ่งควรตอนจากต้นหรือกิ่งกระโดงที่ไม่อ่อนหรือแก่จนเกินไป โดยสังเกตเปลือกของกิ่งควรมีสีน้ำตาลอมเขียวเล็กน้อย การควั่นควรควั่นให้ชิดกับข้อ รอยควั่นมีระยะห่างกันเท่ากับเส้นรอบวงของต้นหรือกิ่งที่จะตอน เมื่อควั่นเสร็จแกะเปลือกขูดเนื้อเยื่อเจริญออกให้หมด ใช้ขุยมะพร้าวแช่น้ำจนอิ่มใส่ถุงพลาสติกผูกปากถุง กรีดถุงจากก้นถึงปากถุงนำมาหุ้มที่รอยควั่นผูกเชือกหัวท้ายให้แน่น หมั่นตรวจดูความชื้นอย่าปล่อยให้แห้งรากจะงอกภายในเวลาประมาณ 2 – 3 เดือน ตรวจดูรากสามารถดูดน้ำได้หรือไม่ เมื่อรากทำงานดีแล้วตัดเอาลงถุงปลูก เมื่อต้นแข็งแรงดีจึงนำลงหลุมปลูก การปลูกด้วยกิ่งตอนจะได้ทรงพุ่มดี ให้ผลผลิตมากและรวดเร็ว - การใช้ต้นจากรากแขนง
ผักเหมียงที่มีอายุประมาณ 4 – 5 ปี หากต้นและรากเจริญดีก็จะงอกต้นใหม่ สามารถขุดนำไปปลูกได้ แต่อัตราการรอดตายประมาณร้อยละ 50 – 80 เพื่อเพิ่มอัตราการรอดตายควรนำต้นใหม่มาปลูกในถุงเพาะชำจนมีความแข็งแรงเสียก่อนนำลงปลูก
![ผักเหมียง ผักเหลียง ผักพื้นบ้านในภาคใต้ นิยมปลูกแซมในสวนยางพารา](https://www.kasettambon.com/wp-content/uploads/2016/08/ใบผักเหมียง.png)
การเตรียมพื้นที่ปลูกผักเหลียง
ระยะปลูก 3 x 3 เมตร ต้นพันธุ์ที่ใช้ต้องเป็นพันธุ์ที่แข็งแรง วางต้นพันธุ์ให้เอียง 45 องศา ในหลุมที่ขุดแล้วกลบดินแต่พอแน่น รดน้ำให้ชุ่มใช้ไม้หลักปักผูกเชือกให้เรียบ ร้อยเพื่อป้องกันลม ควรปลูกในช่วงต้นฤดูฝนหรือช่วงฝนตกจะช่วยให้ไม่เสียเวลา และแรงงาน ในการรดน้ำ การให้ปุ๋ยแบ่งใส่ 2 ครั้ง ในช่วงต้นฤดูฝนและปลายฤดูฝน ใช้ปุ๋ยสูตร 15 -7 – 18, 15 – 15 – 15 ผสมกับปุ๋ย สูตร 12 – 5 – 14 อัตรา 30 กิโลกรัม/ไร่/ปี กรณีปลูกร่วมในสวนยาง ในสวนไม้ผล ในช่วงต้นฤดูฝนใช้ปุ๋ยสูตร 15 – 15 -15 อัตรา 50 กิโลกรัม/ไร่/ปี
การเก็บเกี่ยวผักเหลียง
เริ่มเก็บเกี่ยวเมื่อต้นผักเหมียงมีอายุ 2 ปีขึ้นไป เก็บเกี่ยว 15-30 วัน/ ครั้ง เก็บยอดอ่อนถึงยอดเพสลาด ควรเด็ดให้ชิดข้อ ไม่เด็ดกลางข้อหรือตัด เพราะจะทำให้การแตกยอดอ่อนในครั้งต่อไปจะช้า เมื่อเก็บแล้วอย่าให้ใบหรือยอดอ่อนนั้นถูกแสงแดดและลม ควรพรมน้ำแต่พอชุ่ม สามารถเก็บได้นาน ประมาณ 5-6 วัน
![ผักเหมียง ผักเหลียง ผักพื้นบ้านในภาคใต้ นิยมปลูกแซมในสวนยางพารา](https://www.kasettambon.com/wp-content/uploads/2016/08/ยอดผักเหมียง.png)
โรคและแมลงที่ปรากฏ
- โรคใบจุดส่าหร่าย (Agal leaf-spot, red rust)
เชื้อสาเหตุ : Cephaleuros virescens
ลักษณะของโรค : เป็นจุดกลมขนาด 3-5 มิลลิเมตร มองเห็นเป็นขุยฟูเหมือนกำมะหยี่ มีสีเขียวอมเหลือง สีส้มหรือสีน้ำตาลอมส้ม เมื่อขูดจุดแผลจะหลุดโดยง่าย เนื้อเยื่อเป็นสีเหลือง - ตะไคร่บนใบ (Leaf epiphyte)
เชื้อสาเหตุ : เป็นการเจริญร่วมกันของราและสาหร่าย
ลักษณะของโรค : เป็นจุดเล็ก ๆ อาจมีสีขาวอมเทา สีเขียวอ่อน หรือสีอื่น ๆ พบในพื้นที่ที่มีความชื้นสูง ทรงพุ่มหนาทึบ ไม่ตัดแต่งกิ่ง
การใช้ประโยชน์จากต้นเหมียง
ใบผักเหมียงใช้รับประทานสดและประกอบเป็นอาหาร เช่น แกงเลียง ต้มกะทิ ใช้ห่อเมี่ยงคำ ผัดวุ้นเส้น แกงไตปลา และผัดผัก ในประเทศมาเลเซียและอินโดนีเซีย นิยมนำเนื้อในเมล็ดของผักเหมียงมาทำข้าวเกรียบ
สรรพคุณทางยา : ใบ รับประทานเพื่อบำรุงเส้นเอ็น กระดูก สายตา และสามารถนำมาใช้ลอกฝ้าได้อีกด้วย
![ผักเหมียงผัดไข่](https://www.kasettambon.com/wp-content/uploads/2016/08/-1-1280x720-e1632647410310.jpeg)
แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ : https ://www.gotoknow.org
https ://www.youtube.com