การเวก
ชื่ออื่นๆ : การเวก (ภาคกลาง), กระดังงัว กระดังงาป่า (ราชบุรี), กระดังงาเถา (ภาคใต้), หนามควายนอน (ชลบุรี), นมวัว
ต้นกำเนิด :
ชื่อสามัญ : Climbingllang-llang , Gara-Wek
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Artabotrys siamensis Miq.
ชื่อวงศ์ : ANNONACEAE
ลักษณะของการเวก
ต้น เป็นไม้เถาเลื้อยเนื้อแข็งที่มีขนาดใหญ่ ลำต้นกิ่งก้านมีขนทอดเลื้อยไปไกล 5 – 10 เมตร ยอดอ่อนสีเขียว ไม่มีขน
ใบ ใบรูปไข่กลับ กว้าง 4 – 5 เซนติเมตร ยาว 13 – 15 เซนติเมตร ปลายใบแหลม โคนใบมน แผ่นใบบางและเหนียวสีเขียวเข้ม
เส้นกลางใบมีขนทั้งด้านบนและด้านล่าง
ดอก ดอกเดี่ยวหรือเป็นกระจุก มี 1 – 3 ดอก ออกตามซอกใบกลีบเลี้ยงสีเขียวรูปไข่ ปลายกระดกขึ้น กลีบดอกสีเขียว มี 6 กลีบ ไม่เชื่อมติดกัน รูปรีปลายแหลม เรียงสลับกัน 2 ชั้น ๆ ละ 3 กลีบ กลีบดอกชั้นนอกเล็กกว่ากลีบชั้นใน เมื่อบานเต็มที่เปลี่ยนเป็นสีเหลือง มีกลิ่นหอม ดอกคล้ายกระดังงาจีน ต่างกันที่ขนาดเล็กกว่า ออกดอกตลอดปี แต่ดอกดกช่วงเดือนมีนาคม
ผล ผลเป็นกลุ่ม มีผลย่อย 4 – 15 ผล รูปกลมรี
การขยายพันธุ์ของการเวก
ตอนกิ่ง, เพาะเมล็ด
ธาตุอาหารหลักที่การเวกต้องการ
ประโยชน์ของการเวก
นิยมปลูกเป็นไม้ประดับ
สรรพคุณทางยาการเวกของการเวก
ใบการเวก ใช้เป็นยาขับปัสสาวะ
ดอกการเวก ปรุงเป็นยาหอม เมื่อลนไฟกลิ่นหอมรุนแรงยิ่งขึ้น แก้ลมวิงเวียน
คุณค่าทางโภชนาการของการเวก
การแปรรูปของการเวก
ดอกใช้ทำบุหงาอบร่ำและน้ำหอม หรือทำน้ำปรุง น้ำมันหอมระเหยที่สกัดจากดอกการเวกนั้นมีราคาสูงมาก ใช้เป็นหัวเชื้อ และส่วนผสมในการทำน้ำปรุง และน้ำหอมชนิดต่างๆได้
แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ : http://www.bedo.or.th/lcdb/biodiversity/view.aspx?id=11863&SystemType=BEDO
https://www.flickr.com
2 Comments