พังแหร เนื้อไม้อ่อนใช้สร้างสิ่งก่อสร้างชั่วคราว

พังแหร

ชื่ออื่นๆ : พังแกรใหญ่ (ยะลา) กีกะบะซา (มลายู นราธิวาส) ขางปอยป่า (ภาคเหนือ) ตะคาย (ภาคกลาง) ปะดัง (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน) ปอ (เชียงใหม่) พังแหร (แพร่) ตายไม่ทันเฒ่า (ยะลา) บาเละอางิงิ, กีกะบะซา (มลายู นราธิวาส)

ต้นกำเนิด :

ชื่อสามัญ : พังแหร

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Trema orientalis

ชื่อวงศ์ : ULMACEAE

ลักษณะของพังแหร

ต้น  ไม้ต้นขนาดกลาง สูง 4-12 เมตร กิ่งอ่อนมีขนปกคลุม

ใบ  ใบเดี่ยว รูปไข่แกมรูปใบหอก กว้าง 3-5 ซม. ยาว 7-12 ซม. ปลาย ใบเรียวแหลม โคนใบไม่สมมาตร ขอบใบจักแบบฟันเลื่อยละเอียด ใบแก่มีสีเหลือง

ดอก  สีนวลแกมเขียว ขนาดเล็กออกเป็นช่อสั้นๆ เป็นกระจุกที่ซอกใบ ดอกเพศผู้และดอกเพศเมียอยู่บนต้นเดียวกัน ดอกย่อยมีกลีบรวม 5 กลีบ

ผล  ลักษณะกลม ขนาด 1-2 มม. สีเขียวเข้ม เมื่อสุก มีสีดำ มีเมล็ดเดียว

พังแหร
พังแหร กิ่งอ่อนมีขนปกคลุม ใบรูปไข่ ปลายใบเรียวแหลม
ผลพังแหร
ผลพังแหร ผลกลม สีเขียวเข้ม

การขยายพันธุ์ของพังแหร

ใช้เมล็ด

ธาตุอาหารหลักที่พังแหรต้องการ

ประโยชน์ของพังแหร

  • เปลือกต้นทำเชือกมัดของ
  • เนื้อไม้อ่อนใช้สร้างสิ่งก่อสร้างชั่วคราว ใช้ทำอุปกรณ์ในทางเกษตร

สรรพคุณทางยาของพังแหร

  • เปลือกต้น เคี้ยวอมไว้นาน 30 นาที แก้ปากเปื่อย เปลือกต้นใช้ทำเชือก
  • แก่นหรือราก ฝนน้ำกินเป็นยาเย็น แก้ร้อนในกระหายน้ำ

คุณค่าทางโภชนาการของพังแหร

การแปรรูปของพังแหร

แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ : http://www.bedo.or.th/lcdb/biodiversity/view.aspx?id=11759&SystemType=BEDO
www.flickr.com

Add a Comment