กุ๊ก
ชื่ออื่นๆ : อ้อยช้าง (ภาคกลาง) กอกกั๋น (อุบลราชธานี) กุ้ก (ภาคเหนือ) ตะคร้ำ (ราชบุรี) หวีด (เชียงใหม่)
ต้นกำเนิด :
ชื่อสามัญ :
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Lannea coromandelica (Houtt.)
ชื่อวงศ์ : ANACARDIACEAE
ลักษณะของกุ๊ก
ต้น ไม้ยืนต้นสูง 5-12 เมตร เปลือกนอกสีน้ำตาลปนเทาแตกเป็นสะเก็ดรูปสี่เหลียม
ใบ ใบประกอบแบบขนนกปลายคี่เรียงเวียนสลับ มีใบย่อย 5-11 ใบย่อย เรียงตรงข้ามรูปไข่หรือรู้ใบหอกปลายใบแหลมหรือเรียวแหลม โคนใบมนหรือเฉียง ขอบใบเรียบ กว้าง 3-5 ซม. ยาว 3-8 ซม.
ดอก ดอกช่อแบบช่อกระจะออกตามซอกใบที่ปลายกิ่ง มีทั่งดอกสมบูณูเพศและแยกเพศ กลีบเลี้ยงมี 4 กลีบ กลีบดอกมี 4 กลีบ สีเหลืองอ่อน เกสรเพศผู้เป็นหมันมีขนาดสั้นมาก
ผล ผลเล็ก สุกสีเหลืองหรือสีแดง
การขยายพันธุ์ของกุ๊ก
ใช้เมล็ด/โดยการใช้เมล็ด และการตอนกิ่ง
ธาตุอาหารหลักที่กุ๊กต้องการ
ประโยชน์ของกุ๊ก
สรรพคุณทางยาของกุ๊ก
- เปลือก ใช้ใส่แผล รักษาอาการปวดฟัน ใช้เป็นยาต้มรักษาธาตุพิการและอ่อนเพลีย ใช้ต้มอาบเมื่อเป็นฝี รักษาโรคเรื้อน และรักษาโรคผิวหนัง หรือใช้เปลือกบดเป็นผงใช้ใส่แผลโรคผิวหนัง น้ำที่ได้จากเปลือกสด ๆ ใช้หยอดตารักษาอาการตาเจ็บ
- แก่น ใช้ปรุงเป็นยาแต่งรส เพราะมีรสหวาน บรรเทาอาการกระหายน้ำ ทำให้ชุ่มชื่นในลำคอ เกิดความชุ่มชื่นในอก
คุณค่าทางโภชนาการของกุ๊ก
การแปรรูปของกุ๊ก
แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ : http://www.bedo.or.th/lcdb/biodiversity/view.aspx?id=9509&SystemType=BEDO
www.flickr.com