ขจร
ชื่ออื่นๆ : สลิด, ผักสลิดคาเลา, สลิดป่า, ผักสลิด, กะจอน, ขะจอน, ผักขิก, ผักสลิดคา (เหนือ)
ต้นกำเนิด : พบขึ้นในป่าดิบแล้ง ป่าละเมาะ และมีการปลูกตามบ้านทั่วไป
ชื่อสามัญ : Cowslip creeper
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Telosma minor Craib.
ชื่อวงศ์ : ASCLEPIADACEAE
ลักษณะของขจร
ต้น เป็นไม้เถาเลื้อยพาดพันต้นไม้ใหญ่หรือขึ้นตามร้านต้นไม้
ใบ ใบรูปร่างคล้ายหัวใจปลายเรียวแหลมยาว เหมือนใบต้นข้าวสาร ใบยาว 6-11 ซม. กว้าง 4-7.5 ซม. มีก้านใบยาว 1.2-2 ซม. ใบสีเขียวอมแดงเล็กน้อย
ดอก เป็นช่อกระจุกหรือเป็นพวงๆ คล้ายพวงอุบะ ดอกแข็งมีสีเขียวอมเหลือง ออกดอกตามซอกใบ ส่งกลิ่น หอมแรงกว่าดอกชำมะนาด หรือกลิ่นของใบเตยกลีบดอกสีเหลืองหรือเขียวอมเหลือง
ผล มีลักษณะกลมยาวคล้ายฝักนุ่นที่ยังเล็ก ผลแก่จะแตกออกได้ และมีเมล็ดใน ปลิวว่อนคล้ายนุ่นมีเมล็ดเกาะติดกับใยสีขาว
การขยายพันธุ์ของขจร
ใช้เมล็ด/ปักชำ เพาะเมล็ด
ธาตุอาหารหลักที่ขจรต้องการ
ประโยชน์ของขจร
การปรุงอาหาร ยอดอ่อน ดอก ผลอ่อน รับประทานสดหรือลวกให้สุกรับประทานร่วมกับน้ำพริก ดอกนำไปปรุง อาหาร เช่น ผัด แกงจืด แกงส้ม
สรรพคุณทางยาของขจร
- ยอดอ่อน ดอก ลูกอ่อน บำรุงธาตุ บำรุงตับ ปอด แก้เสมหะเป็นพิษ
- ราก ทำให้อาเจียน ถอนพิษเบื่อเมา
คุณค่าทางโภชนาการของขจร
ยอดอ่อนและดอกขจรในปริมาณ 100 กรัม มีวิตามิน แร่ธาตุต่างๆ คือ
- วิตามินเอ มากถึง 3,150 I.U.
- วิตามินซี 45 มิลลิกรัม
- แคลเซียม 70 มิลลิกรัม
- ฟอสฟอรัส 90 มิลลิกรัม
การแปรรูปของขจร
แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ : www.bedo.or.th
https://th.wikipedia.org
https://www.flickr.com
2 Comments