ขางครั่ง ยาพื้นบ้านล้านนา ใบอ่อนและช่อดอกรับประทานได้

ขางครั่ง

ชื่ออื่นๆ : ขางครั่ง (ลำพูน)  ดอกครั่ง (เชียงใหม่)  เถาครั่ง (เลย)

ต้นกำเนิด :

ชื่อสามัญ :

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Dunbaria bella Prain

ชื่อวงศ์ : LEGUMINOSAE – PAPILIONOIDEAE

ลักษณะของขางครั่ง

ไม้เถาล้มลุกอายุหลายปี ลำต้นเป็นแท่งกลม ใบ เป็นใบ ประกอบแบบขนนก มีใบย่อย 3 ใบ รูปรีแกมขอบขนาน กว้าง 1.5-5 ซม. ยาว 4-12 ซม. ปลายและโคนใบมน แผ่นใบหนาเหนียว คล้ายแผ่นหนัง ดอก สีม่วงดำแกมสีเหลือง ออกเป็นช่อตั้งตามซอกใบ ยาวถึง 25 ซม. ดอกย่อยรูปดอกถั่ว ขนาด 1-1.5 ซม. จำนวนมาก กลีบเลี้ยงโคนเชื่อมกัน ปลายกลีบแยก 5 แฉก กลีบดอก 5 กลีบ กลีบบนสีม่วงดำแผ่คลุมกลีบอื่น กลีบข้าง 2 กลีบสีเหลือง รูปไข่กลับ กลีบคู่ล่างเชื่อมกันสีเหลือง ส่วนปลายเรียวและบิดโค้ง ขึ้นเป็นงวง ผล เป็นฝักแบนรูปขอบขนาน กว้าง 0.8-1 ซม. ยาว 5-8 ซม. มีขนและปลายเรียวแหลม เมล็ดกลมขนาดเล็ก

ต้นขางครั่ง
ต้นขางครั่ง ไม้เถา ใบประกอบแบบขนนก

การขยายพันธุ์ของขางครั่ง

เพาะเมล็ด, ปักชำ

ธาตุอาหารหลักที่ขางครั่งต้องการ

ประโยชน์ของขางครั่ง

  • ใบอ่อนและช่อดอกรับประทานเป็นผักสดกับน้ำพริก รสฝาด มัน
  • เป็นแหล่งอาหารสัตว์ตามธรรมชาติ สำหรับแทะเล็มของโค-กระบือ
ดอกขางครั่ง
ดอกขางครั่ง ดอกรูปถั่ว กลีบดอกสีม่วง

สรรพคุณทางยาของขางครั่ง

ยาพื้นบ้าน ล้านนา ใช้ใบหรือรากผสมใบโผงเผง บดเป็นผงละเอียดปั้นเป็นยาลูกกลอนกินแก้ไข้ (วงศ์สถิตย์และคณะ, 2539)

คุณค่าทางโภชนาการของขางครั่ง

การแปรรูปของขางครั่ง

แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ : http://www.bedo.or.th/lcdb/biodiversity/view.aspx?id=10742&SystemType=BEDO
http://202.28.248.55:5010/plantencyclopedia

Add a Comment