คางควาย รากมีสรรพคุณทางยา

คางควาย

ชื่ออื่นๆ : ตานขโมย (สุราษฏร์ธานี) หางไหล (ตราด) เครือปี้ (เชียงใหม่)

ต้นกำเนิด : พบตามป่าเต็งรัง

ชื่อสามัญ : เครือคางควาย

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Dalbergia velutina Benth.

ชื่อวงศ์ : Leguminosae-Papilonoideae

ลักษณะของคางควาย

ต้น  ไม้เลื้อยเนื้อแข็ง ลำต้นสูง 2-4 เมตร ตามกิ่งก้านและยอดอ่อนมีขนหนาแน่น

ใบ  ใบประกอบแบบขนนกปลายคี่ เรียงแบบสลับ ใบย่อย รูปรีหรือรูปไข่ ยาว 2-4 เซนติเมตร กว้าง 1-2 เซนติเมตร ฐานใบกลม ปลายใบมนหรือเว้าเล็กน้อย ขอบใบเรียบ แผ่นใบบาง ผิวใบทั้งสองด้านมีขนหนาแน่น

ดอก  ช่อดอกแบบช่อแยกแขนง ออกตรงซอกใบ ดอกเรียงตัวหนาแน่นเป็นกระจุก มีขนสีน้ำตาลหนาแน่น กลีบเลี้ยง มี 5 กลีบ สีเขียว เชื่อมติดกันตรงโคนส่วนปลายแยกเป็นแฉก 5 แฉก กลีบดอก มี 5 กลีบ สีขาว เกสรเพศผู้ มี 10 อัน รังไข่อยู่เหนือวงกลีบ รูปขอบขนาน

ผล  ผลสีน้ำตาล รูปขอบขนาน

ต้นเครือคางควาย
ต้นเครือคางควาย ไม้เลื้อยเนื้อแข็ง ใบประกอบแบบขนนกปลายคี่

การขยายพันธุ์ของคางควาย

-/

ธาตุอาหารหลักที่คางควายต้องการ

ประโยชน์ของคางควาย

สรรพคุณทางยาของคางควาย

ราก ผสมหัวกระเทียมและรากพริกไทย ต้มน้ำดื่ม บำรุงน้ำนม

คุณค่าทางโภชนาการของคางควาย

การแปรรูปของคางควาย

แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ : http://www.bedo.or.th/lcdb/biodiversity/view.aspx?id=11807&SystemType=BEDO
https://www.flickr.com

Add a Comment