จันทน์ผา
ชื่ออื่นๆ : จันทน์แดง (ภาคกลาง-สุราษธานี, ลักกะจันทน์ (Central) จันทน์ผา (ภาคเหนือ), ลักจั่น
ต้นกำเนิด : ในประเทศไทย โดยเฉพาะตามป่าเขา
ชื่อสามัญ : จันทน์ผา
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Dracaena loureiri Gagnep
ชื่อวงศ์ : AGAVACEAE
ลักษณะของจันทน์ผา
ต้น เป็นไม้พุ่มขนาดใหญ่หรือไม้ต้นขนาดเล็ก ไม่ผลัดใบ เรือนยอดรูปทรงไข่ เมื่อต้นโต จะแผ่กว้าง เปลือกต้นสีน้ำตาลหรือน้ำตาลอมเทา แตกเป็นร่องตามยาว ลำต้นมีความแข็งแกร่งมาก การแตกใบจะแตกออกบริเวณยอด
ใบ ใบเดี่ยว เรียงเวียนสลับถี่ ๆที่ปลายกิ่ง ใบรูปแถบยาวแคบ กว้าง 4-5 เซนติเมตร ยาว 45-60 เซนติเมตร ปลายใบแหลม โคนใบแผ่เป็นกาบหุ้มลำต้น ผิวใบด้านบนสีเขียวเข้ม ก้านใบเป็นกาบหุ้มซ้อนทับ กันรอบลำต้น ใบสีเขียวเข้ม เป็นรูปหอก ใบเรียวและยาว ปลายใบแหลมใบยาวประมาณ 45-50 ซ.ม และกว้างประมาณ 4-5 ซ.ม.
ดอก ดอกสีขาวนวลตรงกลางดอกมีจุดสีแดง มีกลิ่นหอม ออกเป็นช่อแบบช่อแยกแขนงขนาดใหญ่ ตามซอกใบที่ปลายกิ่ง มีดอกจำนวนมาก กลีบดอก 6 กลีบ ออกดอกช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม
ผล ผลสด ทรงกลมขนาดเล็กอยู่รวมกันเป็นพวง ผลอ่อนสีเขียว ผลแก่สีแดงคล้ำ มีเมล็ดเดียว
การขยายพันธุ์ของจันทน์ผา
โดยการปักชำ เป็นไม้ทนทานต่อการทำลายของโรคและแมลงได้เป็นอย่างดี
ธาตุอาหารหลักที่จันทน์ผาต้องการ
ประโยชน์ของจันทน์ผา
- เหมาะในการจัดสวนเนื่องจากต้นที่สวยงาม ใบไม่ร่วง และ มีดอกที่หอม และสวยงาม
- ปลูกเป็นไม้ประธานในสวนหิน ปลูกเป็นกลุ่มปลูกประดับในอาคาร สระว่ายน้ำ ริมทะเล ทนลมแรง ทนเค็ม ไม่ทนน้ำท่วมขัง
สรรพคุณทางยาของจันทน์ผา
แก่น มีรสขมเย็น ใช้แก้ไออันเกิดจากซางและดี บำรุงหัวใจ แก้เลือดออกตามไรฟัน แก้บาดแผล และใช้เป็นส่วนผสมในน้ำยาอุทัย ใช้ทำยาหอม ช่วยบำรุงหัวใจ ดับพิษไข้
คุณค่าทางโภชนาการของจันทน์ผา
การแปรรูปของจันทน์ผา
แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ : http://www.bedo.or.th/lcdb/biodiversity/view.aspx?id=11216&SystemType=BEDO
www.flickr.com