ชมพู่พลาสติก หรือ ชมพู่แก้ว เนื้อชมพู่ฉ่ำน้ำ รสชาติมีตั้งแต่จืดกระทั่งหวานจัด มีกลิ่นหอม

ชมพู่พลาสติก หรือ ชมพู่แก้ว

ชื่ออื่นๆ : ชมพู่พลาสติก, ชมพู่แก้ว, ชมพู่เทียน

ต้นกำเนิด : เอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ชื่อสามัญ : Rose apple

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Syzygium jambos (L.) Alston

ชื่อวงศ์ : Myrtaceae

ลักษณะของชมพู่พลาสติก หรือ ชมพู่แก้ว

ต้น เป็นไม้ต้นทรงพุ่มขนาดกลาง ต้นมีทรงพุ่มทึบ ลำต้นมีเปลือกแข็ง

ใบ ใบรูปหอก เรียบหนาเป็นมัน โคนมนปลายเรียวแหลมรี  ใบอ่อนมีสีเขียว ใบแก่มีสีเขียว

ดอก ดอกออกเป็นช่อ จะมีดอกออกเป็นกระจุก มีก้านดอกยาว ดอกออกตามซอกใบหรือตามยอดกิ่ง กลีบดอกมีสีขาวอมเหลือง กลีบเลี้ยงมีสีเขียวปนเหลือง มีเกสรยาวฝอยฟูมีสีขาว มีกลิ่นหอม

ผล ผลรูปทรงคล้ายระฆังคว่ำ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางผล 4-6 ซม. ยาว 7-9 ซม. แต่ละพันธุ์มีขนาด ความยาว และสีสันแตกต่างกัน มีทั้งสีแดง สีเขียว หรือเขียวมีแดงแทรก เนื้อชมพู่ฉ่ำน้ำ รสชาติมีตั้งแต่จืดกระทั่งหวานจัด มีกลิ่นหอม บางพันธุ์มีเมล็ด บางพันธุ์มีเฉพาะไส้ ชมพู่พลาสติก หรือชมพู่แก้ว ขนาดเล็ก รูรงแป้น ผิวสีแดงสด เนื้อน้อย รสเปรี้ยว ให้ผลช่วงเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม

ชมพู่พลาสติก
ใบหนาเป็นมัน ใบอ่อนมีสีเขียว ดอกออกเป็นช่อ

การขยายพันธุ์ของชมพู่พลาสติก หรือ ชมพู่แก้ว

ใช้เมล็ด/-

ธาตุอาหารหลักที่ชมพู่พลาสติก หรือ ชมพู่แก้วต้องการ

ประโยชน์ของชมพู่พลาสติก หรือ ชมพู่แก้ว

ปลูกเพื่อเป็นไม้ประดับตามบ้าน

ผลชมพู่พลาสติก
ผลรูปทรงคล้ายระฆังคว่ำ ผลสีขาว สีแดง

สรรพคุณทางยาของชมพู่พลาสติก หรือ ชมพู่แก้ว

  • ผลกินแล้วสดชื่น แก้กระหายได้ดี
  • มีวิตามินซีป้องกันโรคหวัด
  • โรคเลือดออกตามไรฟัน
  • มีแคลเซียมและฟอสฟอรัส ช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง
  • มีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น เหล็ก เส้นใย วิตามินเอ วิตามินปี1 และวิตามินบี 2

คุณค่าทางโภชนาการของชมพู่พลาสติก หรือ ชมพู่แก้ว

การแปรรูปของชมพู่พลาสติก หรือ ชมพู่แก้ว

แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ : http://www.bedo.or.th/lcdb/biodiversity/view.aspx?id=11211&SystemType=BEDO
https://www.flickr.com

Add a Comment