กง
ชื่ออื่นๆ : กง (นครศรีธรรมราช) บากง (มลายูใต้, มลายู, นราธิวาส) ปรง (ภาคกลาง, สมุทรสาคร ) ปรง ปัตตานี
ต้นกำเนิด :
ชื่อสามัญ : Common Susum
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Hanguana malayana (Jack) Merr.
ชื่อวงศ์ : HANGUANACEAE
ลักษณะของกง
ต้น ไม้ล้มลุก เมื่อโตเต็มที่อาจสูงถึง 2 เมตร มีไหลลอยน้ำได้
ใบ ใบรูปหอกเรียว ยาว 20-120 เซนติเมตร ปลายใบแหลมยาว โคนใบรูปลิ่ม แผ่นใบค่อนข้างหนา เส้นแขนงใบเรียงขนานกัน มีเส้นแขนงใบย่อยตัดขวางจำนวนมาก กาบใบยาวหุ้มลำต้น ก้านใบช่วงล่างยาวกว่าช่วงปลายต้น
ดอก ดอกของกงจะออกเดี่ยว ๆ หรือเป็นกระจุกเล็ก ๆ บนช่อแยกแขนง มีกลีบรวม 6 กลีบ วงนอก 3 กลีบ ยาว 2-2.5 มิลลิเมตร วงใน 3 วงยาวกว่าวงนอกเล็กน้อย มีสีเหลืองอมเขียวหรือสีขาว มีจุดสีแดงด้านใน เกสรเพศผู้ติดอยู่ที่โคนกลีบรวม ยาวประมาณ 0.3 เซนติเมตร เกสรเพศผู้ที่เป็นหมันขนาดเล็กในดอกเพศเมีย เกสรเพศเมียติดทน ส่วนผล เมื่อสุกจะมีสีแดง รูปรี ยาวประมาณ 2 เซนติเมตร
ผล รูปกระสวยแข็ง ผิวเรียบเป็นมัน เมื่อสุกจะมีสีแดง เมล็ดมี 1 เมล็ด
การขยายพันธุ์ของกง
การใช้ไหล
ประเทศไทยพบเฉพาะภาคใต้ ขึ้นในน้ำตามลำห้วย ป่าพรุ ที่ชื้นแฉะ หรือขึ้นตามพื้นดินที่ลาดชันในป่าดิบชื้น ขึ้นตั้งแต่ระดับน้ำทะเลจนถึงประมาณ 700 เมตร
ธาตุอาหารหลักที่กงต้องการ
ประโยชน์ของกง
ปลูกเป็นไม้ประดับ
สรรพคุณของกง
รากนำมาต้ม ใช้อมกลั้วคอเมื่อมีไข้
คุณค่าทางโภชนาการของกง
การแปรรูปกง
สามารถติดตามความรู้เเกี่ยวกับการเกษตร เพิ่มเติมได้ที่ เกษตรตำบล.คอม
แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ : www.sc.sci.tsu.ac.th, www.th.wikipedia.org
ภาพประกอบ : www.flickr.com
กง ขึ้นในน้ำตามลำห้วย ป่าพรุ ที่ชื้นแฉะ หรือขึ้นตามพื้นดินที่ลาดชันในป่าดิบชื้น
กง นิยมปลูกเป็นไม้ประดับ