มณีเทวา หญ้าหัวหงอก
ชื่ออื่นๆ : มณีเทวา, หญ้ากระดุมเงิน, หญ้ากระดุม, หญ้าดอก, หญ้าหัวหงอก (อีสาน) หญ้าตุ้มหู
ต้นกำเนิด : เกิดตามธรรมชาติตามทุ่งนา หลังฤดูเก็บเกี่ยว
ชื่อสามัญ : Manee Dhevaa Eriocaulon sp.
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Eriocaulon spp.
ชื่อวงศ์ : ERIOCAULACEAE
ลักษณะของมณีเทวา หญ้าหัวหงอก
ต้น เป็นพืชล้มลุก อายุสั้นหรือหลายปี/วัชพืช มีเหง้าสั้น ขึ้นเป็นกอคล้ายหญ้า
ใบ ใบเดี่ยว เรียงเวียนที่โคนเป็นกอสั้นคล้ายหญ้า รูปแถบแคบ ยาว 1 – 3.5 เซนติเมตร ปลายใบแหลม ก้านช่อชูขึ้นสูง มีขนสีขาวขนาดเล็ก ยาว 14 – 20 เซนติเมตร ใบประดับรูปหอกกลับสีน้ำตาลอ่อน ขนาด 2 – 2.5 เซนติเมตร
ดอก ดอกขนาดเล็ก มีดอกเป็นช่อกระจุก กลีบดอกเรียงอัดกันเป็นกลุ่มคล้ายลูกบอลขนาดเล็กอัดกันเป็นช่อทรงกลมเหมือนหัวแหวนสีขาวก้านช่อกลมเล็กเรียวตั้งสูง 10-20 ซม. ออกดอกเดือนตุลาคม – กุมภาพันธ์ ออกดอกปีละ 1 ครั้ง
เมล็ด เมล็ดสีเหลือง
การขยายพันธุ์ของมณีเทวา หญ้าหัวหงอก
การเพาะเมล็ดและแยกกอ
ธาตุอาหารหลักที่มณีเทวา หญ้าหัวหงอกต้องการ
- ดิน ดินร่วนปนทราย ชื้นแฉะ
- น้ำ มาก ชอบอากาศเย็น
- แสงแดด ตลอดวัน
ประโยชน์ของมณีเทวา หญ้าหัวหงอก
- นิยมปลูกเลี้ยงเป็นไม้ประดับในตู้ปลา
- เป็นไม้ประดับป่าที่นำดอกมาย้อมสีแล้วเข้าช่อกับดอกไม้แห้งชนิดอื่นๆ
- เป็นดอกไม้ป่า 1 ใน 5 ชนิด ที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถพระราชทานชื่อไว้ว่า “มณีเทวา”
- เป็นสมุนไพรใช้เข้าเครื่องยา เป็นยาสงบประสาท แก้ไข้ แก้ปวดและขับปัสสาวะ ในจีนและมาเลเซียใช้รักษาโรคเกี่ยวกับดวงตา เป็นยาแก้อักเสบสมานแผล
สรรพคุณของมณีเทวา หญ้าหัวหงอก
ทั้งต้น รสจืดเย็น เป็นยาสงบประสาท แก้ไข้ แก้ปวด ขับปัสสาวะ
คุณค่าทางโภชนาการของมณีเทวา หญ้าหัวหงอก
การแปรรูปมณีเทวา หญ้าหัวหงอก
นิยมนำดอกมาย้อมสีแล้วเข้าช่อกับดอกไม้แห้งชนิดอื่นๆ
สามารถติดตามความรู้เเกี่ยวกับการเกษตร เพิ่มเติมได้ที่ เกษตรตำบล.คอม
แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ : สำนักพิมพ์บ้านและสวน
ภาพประกอบ : www.flickr.com
หญ้าหัวหงอก นิยมเลี้ยงประดับตู้ปลา ดอกแห้งสามารถนำมาแหวนประดับบ้านได้