มะดัน
ชื่ออื่นๆ : ส้มมะดัน, ส้มไม่รู้ถอย
ต้นกำเนิด :
ชื่อสามัญ :
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Garcinia schomburgkiana Pierre
ชื่อวงศ์ : GUTTIFERAE
ลักษณะของมะดัน
ต้น เป็นไม้ยืนต้น ไม่ผลัดใบ สูงประมาณ 7-10 เมตร แตกกิ่งก้านออกเป็นพุ่ม ลักษณะของเปลือกต้นจะเรียบ สีน้ำตาลอมดำ กิ่งแขนงมีเปลือกสีเขียวเข้ม
ใบ เป็นใบเดี่ยว สีเขียวเข้ม รูปขอบขนาน ขอบใบเรียบออกเรียงสลับกัน โคนใบและปลายใบแหลม แผ่นใบเรียบลื่น
ดอก เป็นดอกเดี่ยวหรือออกดอกเป็นกระจุกประมาณ 3-6 ดอก โดยดอกจะออกตามซอกใบ ดอกมีสีเหลืองอมส้มนิด ๆ ดอกมีทั้งดอกสมบูรณ์เพศและดอกเพศผู้ มีกลีบเลี้ยง 4 กลีบ ค่อนข้างกลม กลีบดอกมี 4 กลีบ คล้ายรูปแกมรูปไข่ ส่วนปลายกลีบจะมน และดอกเพศจะมีเกสรเพศผู้อยู่ 10-12 อัน ออกดอกประมาณปีละ 2 ครั้ง ระหว่างเดือนพฤษภาคม – มิถุนายน และระหว่างเดือนธันวาคม – มกราคม
ผล ลักษณะของผลจะคล้ายรูปรีปลายแหลม ผลมีสีเขียว ลักษณะผิวเรียบเป็นมันลื่น ผลมีรสเปรี้ยวถึงเปรี้ยวจัด ด้านในผลมีเมล็ดประมาณ 3-4 เมล็ดติดกัน เมล็ดแข็งและขรุขระ โดยในผลจะมีวิตามินซีสูงและยังมีสารอาหารหรือสารสำคัญอย่างเบตาแคโรทีน รวมไปถึงแร่ธาตุชนิดต่าง ๆ เช่น แคลเซียม เหล็ก ฟอสฟอรัส เป็นตัน จะติดผล 2 ครั้ง ระหว่างเดือนสิงหาคม – ตุลาคม และระหว่างเดือนเมษายน – มิถุนายน
การขยายพันธุ์ของมะดัน
การเพาะเมล็ด การตอนกิ่ง
ธาตุอาหารหลักที่มะดันต้องการ
ประโยชน์ของมะดัน
- ผลใช้รับประทานเป็นผลไม้สด โดยจิ้มกับพริกเกลือ
- ผลมีรสเปรี้ยวจัด ใช้แทนมะนาวได้ เช่น การตำน้ำพริก น้ำพริกลงเรือ น้ำพริกทรงเครื่อง น้ำพริกสับกากหมู หรือใช้ใส่ในแกงที่ต้องการความเปรี้ยวอย่างแกงส้มหรือต้มยำ เป็นต้น
- ยอดอ่อนนำมาใส่ต้มปลา ต้มไก่ จะให้รสเปรี้ยวแทนมะนาวได้และยังทำให้รสชาติของอาหารหวานและหอมขึ้นด้วย
- ยอดอ่อนและใบอ่อนใช้รับประทานเป็นผักได้
สรรพคุณทางยาของมะดัน
- ผล ช่วยแก้อาการคอแห้ง ช่วยทำให้ชุ่มชื่นคอ
- ใบและราก ปรุงเป็นยาต้มรับประทานแก้กระษัย
- ราก เป็นยาระบายอ่อนๆ โดยปรุงเป็นยาต้ม
คุณค่าทางโภชนาการของมะดัน
การแปรรูปของมะดัน
ผลมะดันนำมาดองน้ำเกลือ มะดันแช่อิ่ม หรือ มะดันดองแช่อิ่ม
แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ : http://www.bedo.or.th/lcdb/biodiversity/view.aspx?id=11849&SystemType=BEDO
www.flickr.com
One Comment