รสชาติมะม่วงฟ้าลั่น การปลูกมะม่วงฟ้าลั่น

มะม่วงฟ้าลั่น

ชื่ออื่นๆ : มะม่วงฟ้าลั่น

ต้นกำเนิด :  เอเชียเขตร้อน

ชื่อวิทยาศาสตร์ :  Mangifera indica 

ชื่อภาษาอังกฤษ : Blue Mango

ชื่อวงศ์ : ANACARDIACEAE   

ลักษณะของมะม่วงฟ้าลั่น

ต้น  ต้นมะม่วงฟ้าลั่นจะมีความสูงเมื่อเติบโตเต็มที่ประมาณ 10-15 เมตร มีทรงพุ่มกว้างราว 5 เมตร ลักษณะของเปลือกลำต้นจะมีสีน้ำตาลเข้ม ผิวแตกขรุขระ เป็นร่องลึกตามแนวยาวตลอดทั้งลำต้น แตกกิ่งก้านจำนวนมาก

ใบ  ใบเดี่ยวรอบกิ่งไม้ เรียวยาวปลายใบแหลม รูปใบหอกแกม ลักษณะคล้ายใบของมะม่วงพันธุ์ “เขียวเสวย” แต่สั้นกว่าและบางกว่า ใบเมื่อแรกผลิเป็นสีแดงอมม่วงก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นสีเขียวเข้มเมื่อแก่ มีเส้นแขนงใบและเส้นกลางใบที่ชัดเจน แผ่นใบเป็นคลื่นเล็กน้อย ผิวใบและท้องใบเรียบเนียน ขอบใบเรียบ มีก้านใบ 

มะม่วงฟ้าลั่น
มะม่วงฟ้าลั่น ต้นมีความสูง ใบเรียวยาวปลายใบแหลม

ดอก เมื่อผลิดอกจะแตกออกเป็นช่อทรงพีรามิดคล้ายฉัตรเป็นชั้นๆ ดอกย่อยมีสีเหลือง บานไล่ระดับจากโคนไปสู่ปลายช่อ ดอกมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ดอกร่วงง่าย

ผล  ผลกลมมน รูปทรงขอบขนานแกมรี หัวโต ปลายแหลม ด้านหลังผลและท้องผลโค้งนูน ผลแก่จัดผิวยังมีสีเขียวอ่อน มีนวล เปลือกหนา ผิวเรียบ มีจุดขนาดใหญ่เห็นเด่นชัดอยู่กันห่างๆ ผลแก่จัดผิวสีเขียวอ่อน มีนวล เมื่อผลสุกผิวผลสีเขียวอมเหลือง เนื้อผลดิบรสชาติมันอมเปรี้ยว กรอบอร่อย ลักษณะเนื้อหยาบเปราะมาก จะปริแตกทันทีเมื่อถูกคมมีด และเสียงดังลั่น จึงกลายเป็นลักษณะประจำพันธุ์ที่เห็นเด่นชัด มีเสี้ยนค่อนข้างน้อย รสมันตั้งแต่ผลเล็ก ๆ เมื่อผลแก่จัดเนื้อสีขาวอมเหลือง รสชาติมันกรอบค่อนข้างชืด เมื่อสุกเนื้อสีเหลือง ลักษณะเนื้อค่อนข้างละเอียด มีเสี้ยนน้อย รสหวานไม่จัดนัก น้ำหนักผลประมาณ 250 กรัมต่อผล เมล็ดแหลมเล็ก ยาวแบน มีเนื้อในเมล็ดไม่เต็ม อายุเก็บเกี่ยวประมาณ 95 วันหลังดอกบาน มะม่วงฟ้าลั่นผลมักจะแตกง่าย

ผลมะม่วงฟ้าลั่น
ผลมะม่วงฟ้าลั่น ผลกลมมน ปลายแหลม

การขยายพันธุ์ของมะม่วงฟ้าลั่น

การเพาะเมล็ด, ตอนกิ่งและทาบกิ่งเสียบยอด

โดยทั่วไปมะม่วงจะออกดอกติดผลในช่วงเดือน พฤศจิกายน ถึง ธันวาคม และเก็บเกี่ยวในเดือน มีนาคม ถึง เมษายน

ธาตุอาหารหลักที่มะม่วงฟ้าลั่นต้องการ

มะม่วงฟ้าลั่น เป็นพืชที่ชอบแสงแดด เจริญได้ดีในดินร่วนปนทราย

การปลูกมะม่วงฟ้าลั่น 

เตรียมหลุมปลูกขนาด 50×50 เซนติเมตร รองก้นหลุม ด้วยปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก แล้ววางต้นพันธุ์ลงกลางหลุมปลูก กลบดินให้พูนช่วงโคนต้นเล็กน้อย 

ควรปลูกช่วงต้นฤดูฝน หรือประมาณเดือนพฤษภาคม ถึง กรกฎาคม เพื่อให้มะม่วงตั้งตัวได้เร็วขึ้น

การดูแลรักษามะม่วงฟ้าลั่น

รดน้ำประจำทุกวัน วันละ 1 ครั้ง และเมื่อมะม่วงตั้งตัวได้ คล่อยห่างลดน้ำ 3 – 4 วัน/ครั้ง

ประโยชน์ของมะม่วงฟ้าลั่น

  • มะม่วงพันธุ์ฟ้าลั่น เป็นมะม่วงรับประทานผลดิบ (มัน) มีความกรอบ เปราะ เนื้อผลละเอียด เนียน สีเนื้อผลขาวเฉดเขียว เปลือกผลเมื่อดิบจะมีสีเขียว เปลือกหนา รสชาติมันตั้งแต่ยังเป็นผลอ่อนและจะยิ่งมันหวานมากขึ้นเมื่อผลแก่ได้ที่ เมื่อสุกผลเปลือกผลจะมีสีเหลือง และเนื้อผลจะมีสีเหลืองเช่นกัน ผิวเนื้อผลละเอียด ไม่ค่อยพบเสี้ยน รสหวานพอประมาณ ตรงกลางผลจะมีเมล็ดเดี่ยว 1 เมล็ด มีเสี้ยนบริเวณเมล็ด สามารถนำเมล็ดไปขยายพันธุ์ได้ นิยมรับประทานผลดิบแก่ มีรสมัน เมื่อปอกเปลือก เนื้อมะม่วงจะปริแตก
  • มะม่วงฟ้าลั่น มะม่วงสายพันธุ์โบราณของไทย เป็นมะม่วงที่ติดผลง่าย ผลค่อนข้างดก
มะม่วงฟ้าลั่นดิบ
เนื้อผลมะม่วงฟ้าลั่นดิบ มีสีขาว

สรรพคุณทางยาของมะม่วงฟ้าลั่น

  • เนื้อผลของมะม่วงยังจัดว่ามีสรรพคุณในการลดอาการคลื่นไส้ พะอืดพะอม วิงเวียนศีรษะ และช่วยทำให้ลดความกระหายน้ำ
  • เมล็ดก็ยังสามารถนำมาตากแห้งแล้วต้มในน้ำสะอาด นำน้ำที่ได้จากการต้มมาดื่มกินเพื่อแก้อาการแน่นท้อง หรือจะนำมาบดเป็นผงเพื่อใช้เป็นยาขับพยาธิได้ด้วย
  • ใบสดสามารถนำมาต้มแล้วนำน้ำที่ต้มมาดื่มแก้อาหารบิดมวน
  • เปลือกต้นสามารถนำมาต้ม นำน้ำที่ได้ไปดื่มแก้ไข้
มะม่วงฟ้าลั่นแก่จัด
เนื้อผลมะม่วงฟ้าลั่นแก่จัด มีสีเขียวอมเหลือง

การแปรรูปของมะม่วงฟ้าลั่น

แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ : www.doa.go.th, http://blog.arda.or.th/
ภาพประกอบ : FB ต้นแอปเปิ้ล และพันธุ์ไม้ต่างประเทศ, FB ฟาร์มศิริแวว

2 Comments

Add a Comment