ราชพฤกษ์
ชื่ออื่นๆ : ราชพฤกษ์ ชัยพฤกษ์ (ภาคกลาง) ลมแล้ง (ภาคเหนือ), ราชพฤกษ์ (ภาคใต้)กุเพยะ (กะเหรี่ยง-กาญจนบุรี) ปูโย ปีอยู เปอโซ แมะหล่าอยู่ (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน) ลักเกลือ ลักเคย (กะเหรี่ยง) คูน
ต้นกำเนิด : เป็นพืชพื้นเมืองของเอเชียใต้ ตั้งแต่ทางตอนใต้ของปากีสถาน ไปจนถึงอินเดียว ศรีลังกา พม่าและไทย นอกจากนี้ดอกราชพฤกษ์ยังเป็นดอกไม้ประจำชาติไทยอีกด้วย
ชื่อสามัญ : Golden Shower, Indian Laburnum, Pudding-Pine Tree, Purging Cassia
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Cassia fistula Linn
ชื่อวงศ์ : CAESALPINIACEAE
ลักษณะของราชพฤกษ์
ต้น ราชพฤกษ์เป็นไม้ยืนต้นสูงได้ถึง 15 เมตร เปลือกต้นสีเทา ผิวเรียบ
ใบ เป็นใบประกอบ ที่ปลายก้านใบเป็นคู่ ใบย่อยเป็นรูปไข่ ปลายใบแหลม เนื้อใบเกลี้ยงค่อนข้างบางหูใบมีขนาดเล็กและร่วงง่าย
ดอก ดอกออกเป็นช่อห้อยระย้าจากซอกใบ ช่อดอกมีกลีบเลี้ยง 5 กลีบ มีแผ่นบางๆ ยาว 1-15 ซม.กลีบดอกมี 6 กลีบ สีเหลืองสดปลายมนเห็นเส้นลายชัดเจน
ผล เป็นฝักทรงกระบอกเปลือกนอกบางและแข็งเหมือนไม้ เรียบไม่มีขนยาว 20-60 ซม. มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 1.5-2 ซม. ภายในแบ่งเป็นช่องๆ มีเมล็ดรูปรีแบนสีน้ำตาลจำนวนมาก
การขยายพันธุ์ของราชพฤกษ์
ใช้เมล็ด/การปลูก เพาะเมล็ดให้ได้ต้นกล้าสูง 30-50 ซม. ขุดหลุมกว้างและลึก 50-70 ซม. ตากดินไว้ 10-15 วันใช้ปุ๋ยคอกรองก้นหลุมนำต้นกล้าลงปลูก กลบดินให้แน่น รดน้ำให้ชุ่ม ปลูกง่าย ไม่ช้าก็จะตั้งตัวได้
ธาตุอาหารหลักที่ราชพฤกษ์ต้องการ
–
ประโยชน์ของราชพฤกษ์
- นิยมปลูกไว้เป็นต้นไม้ประดับตามสถานที่ต่าง ๆ เช่น สถานที่ราชการ บริเวณริมถนนข้างทาง และสถานที่อื่นๆ
- เปลือก เนื้อไม้ ผล ให้สีเหลือง ใช้ย้อมไหมและฝ้าย
- เนื้อไม้ สีแดงแกมเหลือง แข็ง ทนทาน ใช้ทำเสา ล้อเกวียน คันไถ
- ต้นราชพฤกษ์กับความเชื่อ ต้นราชพฤกษ์เป็นไม้มงคลนามที่คนไทยโบราณเชื่อว่า บ้านใดที่ปลูกต้นราชพฤกษ์ไว้เป็นไม้ประจำบ้านจะช่วยให้มีเกียรติและศักดิ์ศรี สาเหตุเพราะคนให้การยอมรับว่าต้นราชพฤกษ์เป็นไม้ที่มีคุณค่าสูงและยังเป็นสัญลักษณ์ของประเทศไทยอีกด้วย และยังเชื่อว่าจะทำให้ผู้อยู่อาศัยนั้นเจริญรุ่งเรือง โดยจะนิยมปลูกต้นราชพฤกษ์ในวันเสาร์และปลูกไว้ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของบ้าน (อาจเป็นเพราะทิศดังกล่าวได้รับแสงแดดจัดในช่วงตอนบ่าย เลยปลูกไว้เพื่อช่วยลดความร้อนภายในบ้านและช่วยประหยัดพลังงาน)
สรรพคุณทางยาของราชพฤกษ์
- ใบอ่อน รสเมา แก้กลาก
- ราก ฝนทาแก้กลากและเป็นยาระบาย
- รากและแก่น เป็นยาขับพยาธิ
- เปลือกและใบ บดผสมกันใช้ทาฝีเม็ด ผื่นตามร่างกาย
- ใบ ต้มรัประทานเป็นยาระบาย ฆ่าพยาธิ
- ฝัก รสหวานอมเปรี้ยวเล็กน้อย มีกลิ่นเหม็นเอียน เย็นจัด ไม่มีพิษสรรพคุณใช้ขับเสมหะ ขับพยาธิ แก้เด็กเป็นตานขโมย เป็นยาถ่ายและแก้ไข้มาลาเรีย
- เนื้อในฝัก รสหวานเอียน ใช้เป็นยาถ่ายพยาธิ ยาระบาย แก้ไข้มาลาเรีย แก้ปวดข้อ
- เมล็ดเป็นยาระบายและทำให้อาเจียน
- ดอก รสขมเปรี้ยว เป็นยาถ่ายแก้โรคเกี่ยวกับกระเพาะอาหารและแผลเรื้อรัง
ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ เนื้อในฝักคูนมีสารประเภท Anthraqinones หลายตัว เช่น Aloin, Rhein, Sennoside A, B และยังมี Organic acid สาร Anthraquinone ทำให้เนื้อฝักคูนมีฤทธิ์เป็นยาระบายได้ โดยมีฤทธิ์ไปกระตุ้นการบีบตัวของลำไส้ เหมาะสำหรับผู้ที่ท้องผูกเป็นประจำ
คุณค่าทางโภชนาการของราชพฤกษ์
–
การแปรรูปของราชพฤกษ์
แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ : http://www.bedo.or.th/lcdb/biodiversity/view.aspx?id=9370&SystemType=BEDO
www.th.wikipedia.org
www.dnp.go.th
www.suanluangrama9.or.th
www.forest.go.th
www.flickr.com
3 Comments