ลูกใต้ใบ มะขามป้อมดิน
ชื่ออื่นๆ : ต้นใต้ใบ, หญ้าลูกใต้ใบ, หมากไข่หลัง (เลย) หญ้าใต้ใบ (อ่างทอง, นครสวรรค์, ชุมพร) ไฟเดือนห้า (ชลบุรี) หญ้าใต้ใบขาว (สุราษฏร์ธานี) หน่วยใต้ใบ (คนเมือง) มะขามป้อมดิน (ภาคเหนือ) จูเกี๋ยเช่า (จีน)
ต้นกำเนิด : ในอเมริกา แอฟริกา และเอเชีย
ชื่อสามัญ : Tamalaki, Hazardana
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Phyllanthus amarus Schum & Thonn.
ชื่อวงศ์ : PHYLLANTHACEAE
ลักษณะของลูกใต้ใบ
ต้น พืชล้มลุก สูง 10 – 60 เซนติเมตร ทุกส่วนมีรสขม
ใบ ใบเป็นใบประกอบแบบขนนกชั้นเดียวปลายคี่ มีใบย่อย 23 – 25 ใบ ใบย่อยรูปขอบขนานแกมไข่กลับ ปลายใบมนกว้างโคนใบมนแคบ ขนาดประมาณ 0.40 X 1.00 เซนติเมตร ก้านใบสั้นมากและมีหูใบสีขาวนวลรูปสามเหลี่ยมปลายแหลมเกาะติด 2 อัน
ดอก ดอกแยกเพศ เพศเมียมักอยู่ส่วนโคน เพศผู้มักอยู่ส่วนปลายก้านใบ ดอกขนาดเล็กสีขาว เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 0.08 เซนติเมตร
ผล ผลทรงกลมผิวเรียบสีเขียวอ่อนนวล ขนาดประมาณ 0.15 เซนติเมตร เกาะติดอยู่ที่ใต้โคนใบย่อย เมื่อแก่จะแตกเป็น 6 พู แต่ละพูจะมี 1 เมล็ด เมล็ดสีน้ำตาลรูปเสี้ยว 1/6 ของทรงกลม ขนาดประมาณ 0.10 เซนติเมตร


การขยายพันธุ์ของลูกใต้ใบ
ใช้เมล็ด
ธาตุอาหารหลักที่ลูกใต้ใบต้องการ
ประโยชน์ของลูกใต้ใบ
ทุกส่วนมีสรรพคุณสมุนไพร
สรรพคุณทางยาของลูกใต้ใบ
- ทั้งต้น ช่วยลดไข้ทุกชนิด (ไข้หวัด ไข้ทับระดู ไข้จับสั่น) ขับระดูขาว แก้น้ำดีพิการ แก้ดีซ่าน แก้ขัดเบา แก้ไอ แก้กามโรค แก้ปวดฝี ขับปัสสาวะ แก้ร้อนในกระหายน้ำ แก้ท้องเสีย
- ต้น มีสรรพคุณช่วยลดไข้ แก้บวม แก้ปัสสาวะขัด แก้นิ่ว แก้ปวดฝี แก้ฟกช้ำบวม
- ลูก (ผล) แก้ร้อนใน แก้ไข้
- ราก ช่วยแก้ไข้หวัด แก้ท้องเสีย แก้บวม แก้ปัสสาวะขัด แก้นิ่ว ขับปัสสาวะ บำรุงธาตุ
ส่วนที่ใช้ : ทั้งต้นสด
สรรพคุณ :
เป็นยาแก้ไข้ ลดความร้อน ขับปัสสาวะ
วิธีและปริมาณที่ใช้ :
นำต้นสด 1 กำมือ ต้มกับน้ำ 2 ถ้วยแก้ว เคี่ยวให้เหลือ 1 ½ ถ้วยแก้ว รับประทานครั้งละครึ่งถ้วยแก้ว
สารเคมี : Potassium, phyllanthin, hypophyllanthin
คุณค่าทางโภชนาการของลูกใต้ใบ
การแปรรูปของลูกใต้ใบ
แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ : http://www.bedo.or.th/lcdb/biodiversity/view.aspx?id=11569&SystemType=BEDO
http:// clgc.agri.kps.ku.ac.th
https://www.flickr.com
One Comment