สมุนไพรไคร้เครือ รากมีรสขม ใช้รักษาอาการเป็นไข้จับสั่นและเป็นยาบำรุงกำลังและยาเจริญอาหาร

ไคร้เครือ

ชื่ออื่นๆ : ไคเครือ, ไคเคือ, ไคร้เครือ, รังไคร้เครือ ( ไทย )

ต้นกำเนิด : กัมพูชา, ไทย

ชื่อสามัญ :-

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Aristolochia sp

ชื่อวงศ์ : Aristolochia

ลักษณะของไคร้เครือ

ต้น เป็นไม้เถาลำต้นเกลี้ยง รากมีอนุพันธ์ของกรดอะริสโทโลคิก (Aristolochic acid) ซึ่งเป็นพิษต่อไต

ใบ ใบเดี่ยว เป็นรูปหัวใจ หลังใบมีขนนุ่ม ท้องใบมีขนห่างมีต่อมเป็นจุดกระจายอยู่ทั่วไป ก้านใบด้านบนเป็นร่อง มีขนตามแนวด้านข้าง

ดอก ดอกช่อใหญ่ ดอกสีน้ำตาลอมม่วง

ผล ผลเป็นผลแห้งแตก เมล็ดรูปหัวใจ มีปีก

ไคร้เครือ
ไคร้เครือ ไม้เถาลำต้นเกลี้ยง
ใบไคร้เครือ
ใบไคร้เครือ ใบรูปหัวใจ หลังใบมีขนนุ่ม

การขยายพันธุ์ของไคร้เครือ

การเพาะเมล็ด

ธาตุอาหารหลักที่ไคร้เครือต้องการ

ประโยชน์ของไคร้เครือ

  • เป็นพรรณไม้เถา ชนิดที่ลงรากใหญ่ เช่นโลดทนง หรือเจตพังคี
  • ราก ใช้เป็นยา

สรรพคุณทางยาของไคร้เครือ

ราก มีรสขม ใช้รักษาอาการเป็นไข้จับสั่น แก้ไข้ ไข้ครั่งเพ้อ รักษาโรคพิษไข้ พิษกาฬ ขับเหงื่อ เป็นยาบำรุงกำลังและยาเจริญอาหาร

สมุนไพรไคร้เครือ ซึ่งเป็นพืชสกุลอริสโตโลเซียนั้น มีกรดเอริสโทโลคิก (aristolochic acid) หากรับประทานเข้าไปจะทำให้มดลูกผิดปกติ และทำให้หญิงตั้งครรภ์แท้งได้ ส่วนการศึกษาในต่างประเทศพบว่า สมุนไพรไคร้เครือ มีสารอริสโตแลคตัม (aristolactams) และสารเอเอ-ดีเอ็นเอ แอดดัคท์ (AA-DNA adducts) ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง และยังป็นพิษต่อตับ ไต ต่อมหมวกไต อาจทำให้ไตวาย และเป็นมะเร็งทางเดินปัสสาวะได้

ดอกไคร้เครือ
ดอกไคร้เครือ ดอกสีน้ำตาลอมม่วง

คุณค่าทางโภชนาการของไคร้เครือ

การแปรรูปของไคร้เครือ

รากเป็นสินค้า ที่มีไว้จำหน่าย ตามร้านสมุนไพรทั่วไป

แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ : http://www.bedo.or.th/lcdb/biodiversity/view.aspx?id=10891&SystemType=BEDO
https://www.srisangworn.go.th
https://www.flickr.com

Add a Comment