สแตติส ดอกมีหลายสี เช่นขาว เหลือง ชมพู ม่วง ออกเป็นช่อตามซอกใบและที่ปลายกิ่ง

สแตติส

ชื่ออื่นๆ : Sea Lavender, สแตติส

ต้นกำเนิด : แถบทะเลเมดิเตอเรเนียน

ชื่อสามัญ : Statice

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Limonium spp.

ชื่อวงศ์ : Plumbaginaceae

ลักษณะของสแตติส

ไม้ล้มลุก สูง 30 – 90 เซนติเมตร ใบ ใบเดี่ยว ออกเวียนสลับ รูปซ้อนแกมรูปใบหอก กว้าง 2.5-6 เซนติเมตร ยาว 20 – 25 เซนติเมตร ขอบจักลึกมีขนหยาบ ดอกมีหลายสี เช่นขาว เหลือง ชมพู ม่วง ออกเป็นช่อตามซอกใบและที่ปลายกิ่ง ก้านและแกนกลางช่อดอกเป็นปีกกว้างและแข็ง ดอกขนาดเล็ก อัดกันแน่นอยู่บยแกนช่อดอกด้านเดียว กลีบเลี้ยง โคนเชื่อมกันเป็นหลอดแคบ ยาว 0.5 – 0.6 เซนติเมตร มี 5 สัน ขนแข็งสั้นส่วนปลายจีบปล้ายพัด ยาว 0.5 – 0.7 เซนติเมตร สีขาว หรือเหลือง 5 กลีบ โคนเชื่อมกันเล็กน้อย ผล ขนาดเล็ก อยู่ในหลอดกลีบเลี้ยง

สแตติสมีใบแบนยาวสีเขียวอ่อน ขอบใบหยัก ต้นเป็นกอเตี้ยแนบติดดินสูง 1-3 ฟุตแผ่พุ่มได้ 12-18 นิ้ว มีก้านดอกตั้งตรงและยาวประมาณ 18 นิ้ว ชูขึ้นจากกลางกอ ก้านดอกแตกแขนงมี ปีก แบนขนาบทั่วทั้งกิ่ง ให้ดอกเป็นรูปกรวย ดอกอยู่รวมเป็นช่อ ดอกจริงมีขนาดเล็กสีขาว กลีบดอกประดับมีสีต่าง ๆ ตามพันธุ์ เนื้อกลีบคล้ายกระดาษสีที่มีมากที่สุด คือ สีม่วง

สแตติส
สแตติส ดอกเป็นรูปกรวย อยู่รวมเป็นช่อ ดอกสีม่วง

การขยายพันธุ์ของสแตติส

ใช้เมล็ด การแยกกอ การขยายตัดชำราก และการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ

ธาตุอาหารหลักที่สแตติสต้องการ

ประโยชน์ของสแตติส

เป็นไม้ดอกที่มีความสวยงามได้นานและคงรูปได้แม้ดอกจะแห้ง มักจะนำไปใช้ประดับในช่อดอกไม้ใหญ่ๆ เพื่อใช้ประดับในพิธีต่างๆ

สรรพคุณทางยาของสแตติส

คุณค่าทางโภชนาการของสแตติส

การแปรรูปของสแตติส

แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ : http://www.bedo.or.th/lcdb/biodiversity/view.aspx?id=9875&SystemType=BEDO
https://www.flickr.com

Add a Comment