เงาะโรงเรียน
ชื่ออื่นๆ : เงาะ, เงาะโรงเรียน
ต้นกำเนิด : ประเทศอินโดนีเซีย และมาเลเซีย
ชื่อสามัญ : Maharlika Rambutan,Ripe rambutan
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Nephelium lappaccum Linn
ชื่อวงศ์ : Sapindaceae
ลักษณะของเงาะโรงเรียน
ต้นเงาะ เป็นไม้ผลยืนต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ ชอบอากาศร้อนชื้น ลำต้นเจริญตั้งตรงและแตกกิ่งเป็นทรงพุ่มเปลือกแข็งสีเทาแก่ปนน้ำตาล
ใบ ใบเป็นลักษณะใบรวม ประกอบด้วยใบย่อย 2-4 คู่ การเรียงของใบย่อยเรียงสลับกัน รูปร่างของใบเป็นรูปยาวรีใบสีเขียวเข้มเป็นมัน
ดอก ดอกขนาดเล็กมีขนอ่อนปกคลุม ก้านดอกสั้นและตรง มีสีเขียวปนเหลือง ออกดอกเป็นช่อโดยออกตามปลายกิ่ง ช่อดอกมีสีเขียวอ่อนหรือสีกากีแกมเขียว ดอกตัวผู้และดอกสมบูรณ์เพศ ต้นที่มีดอกตัวผู้จะไม่ติดผล ส่วนต้นที่มีดอกสมบูรณ์เพศนั้นเกสรตัวผู้ไม่ค่อยแข็งแรง ต้องปลูกต้นตัวผู้แซมในสวนเพื่อเพิ่มละอองเกสรหรือฉีดพ่นฮอร์โมนพืชเพื่อช่วยให้เกสรตัวผู้แข็งแรงขึ้น
ผลเงาะ เป็นผลเดี่ยวรวมกันเป็นช่อ ช่อหนึ่งๆ มีประมาณ 10-12 ผล ผลมีลักษณะคล้ายรูปไข่ ผลเงาะเมื่อสุกจะมีสีแดง เหลือง หรือสีส้มปนเหลือง และมีขนอ่อนนุ่ม ผลเนื้อในสีขาวหรือขาวอมเหลืองรสหวาน เมล็ดรูปร่างแบนยาวเป็นรูปไข่หรือรูปรี เป็นไม้ผลที่มีระบบรากหาอาหารลึกประมาณ 60 – 90 เซนติเมตรจากผิวดินจึงต้องการสภาพแล้งก่อนออกดอกติดต่อกัน
เงาะในฤดูกาลปกติจะเริ่มออกสู่ตลาด ในระหว่างช่วงเดือนเมษายนถึงเดือนกรกฎาคม ช่วงที่มีผลผลิตออกสู่ตลาดมาก ที่สุด คือ ช่วงปลายเดือนพฤษภาคมถึงเดือนมิถุนายน สำหรับภาคใต้ เงาะในฤดูกาล ตามปกติจะเริ่มออกสู่ตลาดระหว่างเดือนกรกฎาคมถึงเดือนตุลาคม
การขยายพันธุ์ของเงาะโรงเรียน
ใช้เมล็ด
เงาะเป็นไม้ผลเมืองร้อนจัดเป็นพืชเศรษฐกิจพื่ชหลักของประเทศไทยมากรปลูกมากที่สุดในภาคตะวันออกและภาคใต้อของประทศเงาะมีหลายสายพันธุ์ได้แก่ เงาะสีชมพู เงาะโรงเรียน และเงาะพื้นเมือง ปัจจุบันพันธุ์ที่นิยมมากที่สุด ได้แก่ เงาะโรงเรียน ที่มีรสชาติของเนื้อผล หวานกรอบ
วิธีการปลูก ทำได้ทั้งการขุดหลุมปลูกซึ่งเหมาะกับพื้นที่ที่ยังไม่มีการวางระบบน้ำไว้ก่อนปลูก วิธีนี้ดินในหลุมจะช่วยเก็บความชื้นได้ดีขึ้น และสามารถปลูกโดยวิธีไม่ต้องขุดหลุม(ปลูกแบบนั่งแท่นหรือยกโคก) เหมาะกับพื้นที่ฝนตกชุก วิธีการนี้ระบายน้ำดีน้ำไม่ขังโคนต้น แต่ต้องมีการวางระบบน้ำไว้ก่อนปลูก ซึ่งต้นเงาะจะเจริญเติบโตเร็วกว่าการขุดหลุม ทั้งนี้จุดเน้นที่สำคัญในการปลูก คือ ควรใช้ต้นกล้าที่มีระบบรากดี ไม่ขดงอในถุง แต่ถ้าจะใช้ต้นกล้าขนาดใหญ่ก็ให้ตัดดินและรากที่ขดหรือพันตรงก้นถุงออก
ระยะปลูก จำนวนการปลูกประมาณ 25 – 40 ต้นต่อไร ในระยะปลูก 6 – 8 X 6 – 8 เมตร ถ้าใช้ระยะปลูกชิด 6 X 6 เมตร จะตัดแต่งกิ่งเพื่อควบคุมทรงพุ่มอย่างใกล้ชิดไม่ให้ทรงพุ่มชนและบังแสงกัน สำหรับสวนที่ใช้เครื่องจักรกลแทนแรงงาน ควรเว้นระยะระหว่างแถวให้ห่างพอที่เครื่องจักรกลจะเข้าไปทำงาน แต่ให้ระยะระหว่างต้นชิดขึ้น ปลูกในเดือนเมษายน
การดูแลรักษา ให้น้ำสม่ำเสมอช่วงเจริญทางใบ งดน้ำช่วงปลายฝน ต้นเงาะที่มีใบแก่และสมบูรณ์ทั้งต้นและผ่านสภาพแล้งติดต่อกันนาน 21 – 30 วัน จะแสดงอาการขาดน้ำ (ใบห่อ) ให้กระตุ้นการออกดอกโดยการให้น้ำในปริมาณมากเต็มที่ จากนั้นให้หยุดดูอาการ 7 – 10 วัน เมื่อพบว่าตายอดเริ่มพัฒนาเป็นตาดอก ก็เริ่มให้น้ำอีกครั้งปริมาณเท่าเดิมเพื่อเร่งการพัฒนาของตาดอก แต่ถ้าหลังจากให้น้ำครั้งที่ 1 แล้ว พบว่าตา ยอดเปลี่ยนสีเป็นสีน้ำตาลอมเขียว แสดงว่าให้น้ำมากเกินไปตายอดพัฒนาเป็นตาใบแทนที่จะเป็นตาดอก ต้องหยุดน้ำและปล่อยให้เงาะกระทบแล้งอีกครั้งจนเห็นว่าสีเขียวน้ำตาลของตายอดเปลี่ยนเป็นน้ำตาลทองของตาดอก ก็เริ่มให้น้ำในอัตรา ½ ของครั้งแรก จากนั้นเมื่อแทงช่อดอกและติดผลแล้วควรให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ ประมาณ เพื่อเร่งพัฒนาการของดอก และเร่งพัฒนาการของผลให้ขึ้นลูกได้เร็วและผลโต
ธาตุอาหารหลักที่เงาะโรงเรียนต้องการ
ประโยชน์ของเงาะโรงเรียน
เงาะเป็นไม้ผลเพื่อบริโภคผลสดและเป็นวัตถุดิบที่สำคัญของอุตสาหกรรมเกษตร เงาะกระป๋อง และเงาะสอดไส้สับปะรดบรรจุกระป๋อง เป็นที่ต้องการของตลาดทั้งภายในและต่างประเทศ ที่ผ่านมาถึงแม้ว่าจะเกิดปัญหาราคาผลผลิตตกต่ำเกือบทุกปี (เนื่องจากช่วงฤดูกาลผลิตเงาะค่อนข้างสั้น ในช่วงเวลากลางฤดูจะมีผลผลิตมากกว่า 50 % ออกสู่ตลาดพร้อมๆ กัน) แต่เงาะก็ยังจัดเป็นไม้ผลที่ทำรายได้ดีอีกพืชหนึ่ง
เปลือกเงาะส่วนใหญ่จะถูกทิ้งหรือนำไปทำเป็นปุ๋ยแต่คุณสมบัติของเปลือกเงาะจะมีแทนนินและยางอยู่ สังเกตได้เมื่อปลอกเปลือกเงาะออกยางจะติดที่เล็บหรือมีดจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลดำหรือม่วงดำ จากคุณสมบัติข้อนี้จึงทดลองนำมาย้อมสีเส้นไหมปรากฏว่าได้ผลดี โดยใช้เปลือกเงาะสดมาหั่นหรือบดเป็นชิ้นเล็กๆ เปลือกสด 15 กิโลกรัม นำมาต้มกับน้ำเพื่อสกัดสีโดยใช้อัตราส่วน 1:2 นาน 1 ชั่วโมง กรองใช้เฉพาะน้ำ สามารถย้อมสีเส้นไหมได้ 1 กิโลกรัม โดยกรรมวิธีการย้อมร้อน นาน 1 ชั่วโมง เสร็จแล้วนำมาแช่ในน้ำโคลน วันละ 7-8 ชั่วโมง นาน 3 วัน ควรกลับเส้นไหมย่อยๆ และไม่ควรแช่เส้นไมหค้างคืน หลังจากแช่น้ำโคลนแล้วในว้นแรก ล้างเส้นไหมให้สะอาดผึ่งไว้ในที่ร่มแล้วนำมาแช่โคลนในวันที่ 2 และ3 อีก หลังจากนั้นนำหม้อโคลนที่มีเส้นไหมแช่อยู่มาย้อมต่อที่อุณหภูมิประมาณ 60-70 องศาเซลเซียส นาน 30 นาที สีเนไหมที่ได้จะเป็นสีดำ ใหล้เคียงกับการย้อมด้วยมะเกลือ
สรรพคุณทางยาของเงาะโรงเรียน
- เงาะมีอนุมูลอิสระ ช่วยบำรุงผิวพรรณ
- ช่วยลดอาการอักเสบในช่องปาก แก้อักเสบ
- ช่วยรักษาโรคบิด แก้ท้องร่วง
- ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย
- ช่วยป้องกันหวัด
- ช่วยบำรุงกระดูก
- ช่วยบำรุงฟัน
- ช่วยป้องกันโรคหัวใจ
- ช่วยขับของเสีย
- ช่วยลดคอเลสเตอรอล
ข้อควรระวัง ถ้ารับประทานมากไป ทำให้เกิดอาการท้องอืด อาการท้องผูกได้
คุณค่าทางโภชนาการของเงาะโรงเรียน
คุณค่าทางโภชนาการของเงาะ 100 กรัม พลังงาน 82 กิโลแคลอรี
- คาร์โบไฮเดรต 20.87 กรัม
- เส้นใย 0.21 กรัม
- ไขมัน 0.65 กรัม
- โปรตีน 2.5 กรัม
- วิตามินบี 1 0.013 มิลลิกรัม
- วิตามินบี 2 0.022 มิลลิกรัม
- วิตามินบี 3 1.352 มิลลิกรัม
- วิตามินบี 6 0.02 มิลลิกรัม
- วิตามินบี 9 8 ไมโครกรัม
- วิตามินซี 4.9 มิลลิกรัม
- ธาตุแคลเซียม 22 มิลลิกรัม
- ธาตุเหล็ก 0.35 มิลลิกรัม
- ธาตุแมกนีเซียม 7 มิลลิกรัม
- ธาตุแมงกานีส 0.343 มิลลิกรัม
- ธาตุฟอสฟอรัส 9 มิลลิกรัม
- ธาตุโพแทสเซียม 42 มิลลิกรัม
- ธาตุสังกะสี 0.08 มิลลิกรัม
การแปรรูปของเงาะโรงเรียน
สามารถนำไปแปรรูปเป็น เงาะกระป๋อง เงาะในน้ำเชื่อม เงาะอบแห้ง เงาะอบกรอบ เงาะกวน ไวน์และไอศครีม เป็นต้น
แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ : http://www.bedo.or.th/lcdb/biodiversity/view.aspx?id=11102&SystemType=BEDO
https://www.flickr.com
5 Comments