แครอท หัว ใช้รับประทานบำรุงสายตา แก้โรคตาฟาง

แครอท

ชื่ออื่นๆ : แครอท

ต้นกำเนิด : แถบเอเชียกลางและเอเชียตะวันออก

ชื่อสามัญ : Carrot

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Daucus carota subsp. Sativus

ชื่อวงศ์ : UMBELLIFERAE

ลักษณะของแครอท

เป็นพืชล้มลุกชนิดหนึ่งที่นิยมรับประทานหัว มีหลายสีหลายขนาดตามสายพันธ์ แต่แครอทสีที่คนนิยมรับประทานมากที่สุดคือแครอทสีส้ม เนื้อแข็ง กรอบ รสหวาน มีคุณค่าทางอาหารสูง

ราก รากแครอทหรือหัวแครอทเป็นรากแก้วขนาดใหญ่ สะสมสารอาหารไว้ปริมาณมาก รากด้านหัวที่ติดกับลำต้นใหญ่แล้วค่อยๆเรียวยาวไปด้านท้ายหัว ที่เปลือกมีรากฝอยเล็กๆ จำนวนมาก มีร่องเล็กๆ ตามแนวขวางเป็นระยะๆ ตลอดทั้งหัว

ลำต้น มีลักษณะคล้ายต้นผักชี ลำต้นส่วนที่ติดกับหัวสีเขียวอ่อนจนถึงขาวและสีจะเขียวเข้มขึ้นตามความสูง

ใบ เป็นใบประกอบแบบขนนก ใบย่อยออกเป็นคู่ตรงข้ามกัน แต่ใบที่อยู่ปลายสุดมีใบเดียว ลักษณะคล้ายใบผักชี ก้านใบยาว โคนใบแผ่เป็นกาบหุ้มกันอยู่ ใบสีเขียว

ดอก ดอกออกเป็นช่อ ประกอบไปด้วยดอกย่อยมากมาย ก้านช่อดอกยาว รูปร่างช่อดอกคล้ายร่ม กลีบดอกย่อยสีขาว

เมล็ด ขนาดเล็ก ทรงยาวรี เมล็ดอ่อนสีเขียว เมล็ดแก่สีเทา

ต้นแครอท
ต้นแครอท ต้นคล้ายต้นผักชี
รากแครอทหรือหัว
รากแครอทหรือหัวแครอทเป็นรากแก้วขนาดใหญ่ สะสมสารอาหารไว้ปริมาณมาก

การขยายพันธุ์ของแครอท

ใช้เมล็ด

การเตรียมแปลง

  1. ขุดดินให้มีความร่วนซุยและลึก ประมาณ 1 ฟุต
  2. ไถพรวนผสมดินกับุ๋ยหมักชีวภาพประมาณ 2 กก. ผสมแกลบดำ 1 ถุง อาหารสัตว์ต่อ 1 ตร.ม.
  3. . ดินไม่ควรมี กรวด หิน เศษไม้ จะทำให้หัวแครอท คด งอ
    การปลูกและการดูแลรักษา 1. แปลงกว้าง 1 เมตร ปลูกได้ 3 แถว ใช้ไม้ขีดเป็นร่องเล็กๆ ตามแนวยาวของแปลง ควรผสมทราย แล้วนำมาหยอดกลบด้วยแกลบดำ หรือ ดินละเอียด คลุมฟางบางๆ รดน้ำให้ชุ่ม 2. พอต้นแครอทโตประมาณ 5-7 ซม. ให้ถอนต้นที่ถี่ออก ให้ห่างกัน 2-3 ซม. ต่อต้น 3. พอโตประมาณ 15 ซม. ถอดต้นออก ห่างกัน 7 ซม. ต่อต้น
  4. เติมปุ๋ยหมักชีวภาพระหว่างแถว 300 กรัมต่อ 1 ตร.ม. ทุกๆ 20 วัน
  5. แครอทจะมีปัญหาทางหัวถูกทำลายจาก เสี้ยนดินและเน่าเสีย ควรรดน้ำหมักสะเดาผสมน้ำสกัดชีวภาพ อยู่สม่ำเสมอ ทุกๆ 3-5 วัน
  6. ถ้าแครอทเฝือใบ คือใบงาม แต่หัวมีขนาดเล็กให้หักก้านใบโดยสวมรองเท้าเหยียบยอดและก้านใบของแคร อทให้ล้มลงเพื่อลดการลำเลียงอาหารไปเลี้ยงใบระยะที่แครอทกำลังจะลงหัว

ธาตุอาหารหลักที่แครอทต้องการ

ประโยชน์ของแครอท

  • หัว ใช้รับประทานบำรุงสายตา แก้โรคตาฟาง นำคั้นจากหัวใช้ผสมกับนำมะนาว ทาเป็นยาบำรุงผิวหน้า ลบรอยเหี่ยวย่นบนหน้า ใช้เป็นยาขับปัสสาวะได้เพราะในหัวมีปริมาณเกลือโปแตสเซี่ยมสูง ใช้เป็นยาขับพยาธิไส้เดือน แครอทเป็นพืชกินหัวที่มีปลูกมากในประเทศไทย และเป็นที่รู้จักกันมานานแล้ว แครอท เกิดในแถบเอเชียตะวันออกและเอเชียกลาง ออกดอกราวเดือนพฤษภาคมถึงตุลาคม ดอกแตกเป็นชั้นคล้ายร่ม ชั้นนอกสีชมพู ตรงกลางสีม่วงแดง แครอทสมัยโบราณมีเนื้อแข็ง เสี้ยนเยอะเหมือนไม้ สีของหัวแครอทมีตั้งแต่สีเหลืองไปจนถึงสีม่วง แต่แครอทสีส้มที่รับประทานกันอยู่ทุกวันนี้ เป็นแครอทที่ได้รับการพัฒนาสายพันธุ์เมื่อศตวรรษที่ 18 นี้เอง

ในปี พ.ศ. 2510 สภาบันมะเร็งแห่งชาติ สหรัฐอเมริกา พบว่าวิตามินเอที่ได้จากสัตว์ สามารถระงับมะเร็งในทางเดินหายใจในหนูทดลองได้ ในขณะนั้นยังไม่มีงานวิจัยว่าวิตามินเอของสัตว์และพืชชนิดใดให้ผลดีกว่ากัน เราได้รับวิตามินเอจากผักสีเขียว และพืชสีส้มเป็นหลักวิตามินเอที่ได้รับจากพืชคือ สารเบต้าแคโรทีน ซึ่งจะถูกเปลี่ยนเป็นวิตามินเองเมื่อเข้าไปอยู่ในร่างกายมนุษย์
ปี พ.ศ. 2524 ริชาร์ด ปีโต และคณะได้เขียนบทความลงในนิตยสารเนเจอร์ ว่าสารเบต้าแคโรทีน สามารถออกฤทธิ์ยับยั้งมะเร็งได้ ซึ่ง ดร. ริชาร์ด เชเคลล์ นักระบาดวิทยา มหาวิทยาลัยเท็กซัส ก็สนับสนุนความน่าเชื่อถือของข้อมูลนี้
นั้นหมายถึงว่าอาหารที่มีสารเบต้าแคโรทีน สามารถลดอุบัติการณ์โรคมะเร็งในปอดได้ แม้แต่ในผู้ที่สูบบุหรี่มาหลายปีแล้วก็ตาม นอกจากนี้ยังพบว่า คนที่ทานพืชผักที่มีแคโรทีนน้อยที่สุด จะเสี่ยงต่อมะเร็งในปอดเป็นเจ็ดเท่าของคนที่ทานมากที่สุด ในกลุ่มเบต้าแคโรทีนสามารถป้องกัน และยับยั้งมะเร็งในระยะต่างๆ ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากให้กินเบต้าแคโรทีนขนาดสูง พร้อมกับฉายรังสี

“แครอท” นอกจากจะมีสาร “เบต้าแคโรทีน” ที่มีอำนาจยับยั้งเซลล์ของมะเร็งต่อต้านการเกิดเซลล์มะเร็งได้เป็นอย่างดี และช่วยให้ตับขับสารพิษออกจากร่างกายแล้ว ยังมีแคลเซียมเพคเตท ช่วยลดระดับคลอเลสเตอรอล ลดการเกิดโรคหัวใจและภาวะหัวใจล้มเหลว ช่วยบำรุงเซลล์ผิวหนังและเส้นผมให้มีสุขภาพดี มีวิตามินเอสูง ช่วยลดการเสื่อมของตา เช่น ต้อกระจกมีสารต่างๆ ที่เป็นทั้งเกลือแร่และวิตามินอีกมากมาย เช่นธาตุแคลเซียม มีฟอสฟอรัส เหล็ก มีวิตามินเอ บี1 บี2 และวิตมินซี ดังนั้นสามารถที่จะทานบ่อยๆ ได้ แต่อาจทำให้มีผิวเหลืองจากสารเบต้าแคโรทีนได้

หัวแครอท
หัวแครอทมีสีส้ม เนื้อกรอบ ลักษณะคล้ายหัวไชเท้า

สรรพคุณทางยาของแครอท

แครอท เป็นพืชที่อุดมไปด้วยสาร Beta carotene โดยเฉพาะบริเวณส่วนของเปลือกแก่ ซึ่งสามารถเปลี่ยน เป็นวิตามินเอสูง (11,000 IU) นอกจากนี้ยังมีวิตามินบี 1 บี 2 และวิตามินบี วิตามินเอ ช่วยทำให้ร่างกาย มีภูมิต้านทานโรคหวัด ป้องกันมะเร็ง ป้องกันอาการผิดปกติ ในกระดูก โรคผิวหนัง และรักษาสายตา

คุณค่าทางโภชนาการของแครอท

การแปรรูปของแครอท

แครอท นิยมรับประทานสด ในสลัด หรือนำมาประกอบอาหารชนิดอื่นๆ เช่น ผัด ต้มซุป ใส่แกงจืด ใช้ทำส้มตำแบบมะละกอ คั้นสดรับประทาน เป็นน้ำเพื่อสุขภาพ และช่วยเพิ่มสีสรรในจานอาหาร

แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ : http://www.bedo.or.th/lcdb/biodiversity/view.aspx?id=10895&SystemType=BEDO
https://www.flickr.com

6 Comments

Add a Comment