แสมขาวป่าชายเลน
ชื่ออื่นๆ : พีพีเล (ตรัง), แหม แหมเล (ใต้)
ต้นกำเนิด :
ชื่อสามัญ : แสมฃาว
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Avicennia alba Bl.
ชื่อวงศ์ : AVICENnIACEAE
ลักษณะของแสมขาวป่าชายเลน
เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง-ใหญ่ สูง 8-20 ซม.ไม่มีพูพอน ลำต้นแตกกิ่ง ระดับต่ำ เรือนยอดค่อนข้างกลม แผ่กว้าง หนาทึบ กิ่งห้อยลง เปลือกเรียบสีเทา ถึงดำ มักจะมีสีสนิม เกิดจากพวกเชื้อราติดตามกิ่ง และผิวของลำต้น มีรากหายใจ รูปคล้ายดินสอยาว 15-30 ซม. เหนือผิวดิน หนาแน่นบริเวณโคน ใบเป็นใบเดี่ยว เรียงตรงข้ามกัน แผ่นใบรูปใบหอก แกม รีหรือรูปขอบขนาน ขนาด 2-5 x 5-16 ซม. ปลายใบแหลมถึงเรียวแหลม ฐานใบแหลม ผิวใบด้านบนสีเขียวเข้มเป็นมัน ด้านท้องใบมีขนยาวนุ่ม สีเทาอ่อน หรือ สีเทาเงินหรือสีออกขาว แผ่นใบเมื่อแห้ง จะเป็นสีดำ ก้านใบยาว 1 -2 ซมดอก ออกเป็นช่อที่ปลายกิ่ง หรือง่ามใบใกล้ปลายกิ่งเป็นช่อเชิงลดยาว3-8 ซม.มีขนยาวนุ่มสีน้ำตาลเหลืองหม่นปกคลุม ดอกมีขนาดเล็ก ดอกย่อยไม่มีก้านดอก เส้นผ่าศูนย์กลาง 0.4-0.6 ซม. กลีบเลียง 5 กลีบ กลีบดอก 4 กลีบ ยาว 0.2-0.3 ซม. โคนกลีบติดกัน สีเหลืองส้ม เกสรเพศผู้ 4 อัน ออกดอกระหว่างเดือน มกราคม-เมษายน ผลรูปคล้ายพริก หรือรูปไข่เบี้ยว แบน ขนาด1.5-2 x 2.5-4 ซม. ปลายผลมีจะงอย เปลือกอ่อนนุ่ม สีเหลืองอมเขียว มีขนยาวนุ่มสีเขียวอ่อน ผลจะเปลือกจะแตก ด้านข้างตามยาวผล และม้วนเป็นหลอดกลม แต่ละผลมี 1เมล็ด การเจริญเติบโต เป็นไม้เบิกนำ ขึ้นได้ดีในพื้นที่ดินเลนอ่อน ที่ระบายน้ำดี ส่วนมากจะอยู่ในป่าเลนด้านนอกสุด เป็นไม้ที่ช่วยให้มีการตกตะกอน ทำให้เกิดแผ่นดินงอก เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง-ใหญ่ สูง 8-20 ซม.ไม่มีพูพอน ลำต้นแตกกิ่ง ระดับต่ำ เรือนยอดค่อนข้างกลม แผ่กว้าง หนาทึบ กิ่งห้อยลง เปลือกเรียบสีเทา ถึงดำ มักจะมีสีสนิม เกิดจากพวกเชื้อราติดตามกิ่ง และผิวของลำต้น มีรากหายใจ รูปคล้ายดินสอยาว 15-30 ซม. เหนือผิวดิน หนาแน่นบริเวณโคน ใบเป็นใบเดี่ยว เรียงตรงข้ามกัน แผ่นใบรูปใบหอก แกม รีหรือรูปขอบขนาน ขนาด 2-5 x 5-16 ซม. ปลายใบแหลมถึงเรียวแหลม ฐานใบแหลม ผิวใบด้านบนสีเขียวเข้มเป็นมัน ด้านท้องใบมีขนยาวนุ่ม สีเทาอ่อน หรือ สีเทาเงินหรือสีออกขาว แผ่นใบเมื่อแห้ง จะเป็นสีดำ ก้านใบยาว 1 -2 ซมดอก ออกเป็นช่อที่ปลายกิ่ง หรือง่ามใบใกล้ปลายกิ่งเป็นช่อเชิงลดยาว3-8 ซม.มีขนยาวนุ่มสีน้ำตาลเหลืองหม่นปกคลุม ดอกมีขนาดเล็ก ดอกย่อยไม่มีก้านดอก เส้นผ่าศูนย์กลาง 0.4-0.6 ซม. กลีบเลียง 5 กลีบ กลีบดอก 4 กลีบ ยาว 0.2-0.3 ซม. โคนกลีบติดกัน สีเหลืองส้ม เกสรเพศผู้ 4 อัน ออกดอกระหว่างเดือน มกราคม-เมษายน ผลรูปคล้ายพริก หรือรูปไข่เบี้ยว แบน ขนาด1.5-2 x 2.5-4 ซม. ปลายผลมีจะงอย เปลือกอ่อนนุ่ม สีเหลืองอมเขียว มีขนยาวนุ่มสีเขียวอ่อน ผลจะเปลือกจะแตก ด้านข้างตามยาวผล และม้วนเป็นหลอดกลม แต่ละผลมี 1เมล็ด การเจริญเติบโต เป็นไม้เบิกนำ ขึ้นได้ดีในพื้นที่ดินเลนอ่อน ที่ระบายน้ำดี ส่วนมากจะอยู่ในป่าเลนด้านนอกสุด เป็นไม้ที่ช่วยให้มีการตกตะกอน ทำให้เกิดแผ่นดินงอก
![ต้นแสมขาว](https://www.kasettambon.com/wp-content/uploads/2016/08/7459838952_08d61c2858_w.jpg)
การขยายพันธุ์ของแสมขาวป่าชายเลน
ใช้เมล็ด/-
ธาตุอาหารหลักที่แสมขาวป่าชายเลนต้องการ
ประโยชน์ของแสมขาวป่าชายเลน
ลำต้น เป็นเชื้อเพลิง ทำเป็นแผ่นหนา ปูเป็นไม้พื้น ที่พักชั่วคราว ลำต้นตรงทำสากตำข้าว เสาโป๊ะ ด้ามคิวบิลเลียด เนื้อไม้อ่อนหยาบเลื่อยไสตบแต่งง่าย
สรรพคุณทางยาของแสมขาวป่าชายเลน
ก้านและใบเผาไฟรมควัน แก้พิษจากสัตว์น้ำทุกชนิดโดยเฉพาะปลาทะเลมีพิษ
เปลือก เป็นยาบำรุงกำหนัด แก้ปวดฟัน ตำพอกฝีแตก กระพี้ เป็นยาแก้พิษงู
แก่น มีรสเค็มเฝื่อน ต้มน้ำ แก้ลมในกระดูก แก้กระษัยโดยมากจะใช้คู่กับแก่นแสมสาน (ขี้เหล็กป่า) เป็นยาขับโลหิตเสียของสตรี หรือ ใช้ดื่มแก้ท้องร่วง
![ผลแสมขาว](https://www.kasettambon.com/wp-content/uploads/2016/08/20725262962_4857b58efd_w.jpg)
คุณค่าทางโภชนาการของแสมขาวป่าชายเลน
การแปรรูปของแสมขาวป่าชายเลน
แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ : http://www.bedo.or.th/lcdb/biodiversity/view.aspx?id=9469&SystemType=BEDO
https://www.flickr.com