พลอง
ชื่ออื่นๆ : พลองกินลูก, พลองใหญ่
ต้นกำเนิด : ประเทศเขตร้อนทั่วไป
ชื่อสามัญ : พลองเหมือด (พลองใบเล็ก)
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Memecylon ovatum Sm
ชื่อวงศ์ : MELASTOMATACEAE
ลักษณะของพลอง
ต้น เป็นไม้พุ่มหรือไม้ยืนต้นขนาดเล็กถึงขนาดกลางไม่ผลัดใบ มีความสูงของต้นประมาณ 5-7 เมตร บ้างว่าสูงได้ประมาณ 6-15 เมตร ลำต้นตั้งตรง เรือนยอดเป็นพุ่มกลมแตกกิ่งก้านต่ำ เปลือกต้นด้านนอกเป็นสีน้ำตาลแตกเป็นสะเก็ดบาง ๆ หรือเป็นร่องตื้น ๆ เปลือกบาง ส่วนเปลือกด้านในเป็นสีเหลืองอ่อน
ใบ ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเรียงตรงข้ามที่บริเวณปลายกิ่ง ลักษณะของใบเป็นรูปรีหรือรูปไข่มน ใบมีขนาดกว้างประมาณ 2.5-6.5 เซนติเมตรและยาวประมาณ 5-12.5 เซนติเมตร ปลายใบแหลม โคนใบแหลมหรือมน ส่วนขอบใบเรียบ แผ่นใบหนาคล้ายแผ่นหนัง ใบเป็นสีเขียวเข้มและเป็นมัน เรียบเกลี้ยงทั้งสองด้าน ส่วนท้องใบเป็นสีอ่อน
ดอก ออกดอกเป็นช่อแบบช่อกระจุกซ้อนกรอบ โดยจะออกตามข้อต้น ตามง่ามใบ หรือตามกิ่ง ดอกย่อยมีขนาดเล็ก มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางดอกประมาณ 0.3 เซนติเมตร โดยดอกตูมจะเป็นสีชมพู เมื่อบานแล้วจะเปลี่ยนเป็นสีม่วงน้ำเงิน ดอกมีกลีบดอก 4 กลีบ และจะบานเกือบพร้อมกันทั้งต้น โดยจะออกดอกในช่วงเดือนเมษายนถึงเดือนพฤษภาคม
ผล ผลเป็นรูปทรงกลมหรือกลมรี (คล้ายผลหว้า) มีขนาดประมาณ 0.5-0.8 เซนติเมตร ผลอ่อนเป็นสีชมพูอมม่วงเมื่อสุกแล้วจะเปลี่ยนเป็นสีม่วงแดงดำหรือเป็นสีน้ำเงินเกือบดำ มีเนื้อบาง ๆ หุ้ม โดยจะออกผลในช่วงเดือนมิถุนายนถึงเดือนกรกฎาคม
การขยายพันธุ์ของพลอง
การเพาะเมล็ด
เจริญเติบโตได้ดีในที่ค่อนข้างชื้น ชอบแสงแดดแบบรำไร มักพบได้ในป่าดิบแล้ง ป่าคืนสภาพ และตามป่าเบญจพรรณแล้งทั่วทุกภาคของประเทศไทย
ธาตุอาหารหลักที่พลองต้องการ
ประโยชน์ของพลอง
- เนื้อหุ้มเมล็ดของผลสุกมีรสหวานใช้รับประทานได้
- เนื้อไม้สามารถนำมาใช้ทำเป็นด้ามเครื่องมือเครื่องใช้ต่างๆ ได้
สรรพคุณทางยาของพลอง
- เนื้อไม้และรากใช้ฝนหรือต้มดื่มเป็นยาแก้ไข้ แก้ไข้พิษ ไข้หัด (เนื้อไม้, ราก)
- เนื้อไม้และรากใช้ฝนหรือต้มดื่มเป็นยาถอนพิษผิดสำแดง ดับพิษร้อน และดับพิษภายในต่างๆ (เนื้อไม้, ราก)
- ใบใช้เป็นยาแก้ไฟไหม้น้ำร้อนลวก ไม่ทำให้เกิดเป็นแผลเป็น และช่วยดับพิษปวดแสบปวดร้อน
คุณค่าทางโภชนาการของพลอง
การแปรรูปของพลอง
แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ : http://www.bedo.or.th/lcdb/biodiversity/view.aspx?id=9388&SystemType=BEDO